สถานการณ์โควิดกระทบภาคธุรกิจกลุ่มค้าปลีก จากมาตรการ Lockdown หนักสุดอยู่ในช่วงไตรมาส 2 โบรกเกอร์บางสำนักวิเคราะห์หุ้นใหญ่ CPALL อาจต้อง “ขาดทุน” เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าตลาดฯ แต่บทสรุปไตรมาส 2 ค้าปลีกของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งซีพี ยังฝ่าโควิดทำกำไรได้ 2,887 ล้าน แต่ก็ลดลงไปถึง 40%
แม้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และร้านค้าส่ง Makro สามารถเปิดดำเนินการได้ในช่วงที่ภาครัฐประกาศมาตรการล็อกดาวน์ แต่ใช่ว่าธุรกิจค้าปลีกของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL จะไม่กระทบ ดูได้จากบทสรุปผลประกอบการล่าสุด ไตรมาส 2 ที่มีรายได้รวม 128,027 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 10.6% จากร้านเซเว่นอีเลฟเว่นและแม็คโคร ได้รับกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลงรุนแรงที่สุดในเดือนเมษายน และลดระดับลงในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน หลังจากรัฐผ่อนคลายมาตรการ
ขณะที่กำไรสุทธิ ไตรมาส 2 ปี 2563 อยู่ที่ 2,887 ล้านบาท ลดลงจาก 4,794 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ ลดลง 39.8%
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ปี 2563 CPALL มีรายได้ 273,881 ล้านบาท ลดลง 2.8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักจากรายได้การขายสินค้าลดลง จากมาตรการล็อกดาวน์ช่วงโควิดระบาดในไตรมาส 2 ขณะที่กำไรสุทธิงวด 6 เดือน อยู่ที่ 8,532 ล้านบาท ลดลงจาก 10,563 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน หรือลดลง 19.2%
7-Eleven ยอดขายร่วง 17%
ไตรมาส 2 ปี 2563 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เปิดสาขาใหม่รวมทุกประเภท 106 สาขา ทั้งร้านสาขาของบริษัท, ร้าน Store Business Partner (SBP) และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต รวมจำนวนสาขาถึงสิ้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 12,089 สาขา โดยร้านส่วนใหญ่เป็นรูปแบบสแตนด์อะโลน 85% ส่วนที่เหลือเป็นร้านในปั๊มน้ำมัน ปตท.
ส่วนรายได้ร้านเซเว่นฯ ในไตรมาส 2 ปีนี้ จากการขายสินค้าและบริการอยู่ที่ 70,359 ล้านบาท ลดลง 17% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยมียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวันอยู่ที่ 66,950 บาท ร้านเดิมยอดขายเฉลี่ยลดลง 20% โดยมียอดซื้อต่อบิล 79 บาท ลูกค้าเข้าร้านวันละ 841 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากผลกระทบโควิดและมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐ เช่น การจำกัดการเดินทางระหว่างจังหวัด, การขอความร่วมมือให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย การทำงานที่บ้าน (work from home) , การประกาศ Curfew ,การห้ามจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการเลื่อนวันหยุดราชการในช่วงสงกรานต์
ร้านเซเว่นฯ ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดรับกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปในสถานการณ์โควิด ด้วยการเสนอช่องทางขายสินค้าผ่านระบบ O2O เช่น 7-Eleven Delivery, All Online และ 24Shopping ทั้งบริการส่งปลายทาง หรือรับสินค้าที่ร้าน ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับดี แต่ยังไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากสถานการณ์โควิดได้
หากดูงวด 6 เดือน ปี 2563 ธุรกิจร้านเซเว่นฯ มีรายได้ 167,773 ล้านบาท ลดลง 6.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากรายได้ขายสินค้าและบริการลดลง
รุกลงทุนสินค้าสุขภาพ-AI เจาะสูงวัย
นอกจากนี้ CPALL ได้รายงานว่าที่ประชุมกรรมการ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 ได้รับทราบการลงนามสัญญาร่วมทุน (Shareholders’ Agreement) ระหว่าง บริษัท ออลล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทย่อยถือหุ้น 99.99%) กับ บริษัท GCH Investment Pte.Ltd. (กลุ่ม Daily Farm International Holding ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจสุขภาพและความงามในเอเชีย) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ชื่อ บริษัท ออลล์ การ์เดี้ยน จำกัด (ALL Guardian Co.,Ltd.) โดย CPALL ถือหุ้น 65% และ GCH 35% เพื่อดำเนินธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามแบรนด์ Guardian ในประเทศไทย
พร้อมทั้งได้เพิ่มทุนในบริษัท ออลล์ เวลเนส จำกัด (บริษัทย่อน CPALL ถือหุ้น 99.99%) จากเดิมทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เป็น 351 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจด้านหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และธุรกิจ Digital Health ตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น