เจาะกลยุทธ์ BEST Express มาหลังปังกว่าด้วย “ณเดชน์” ตอกย้ำ รับ-ส่งพัสดุด่วนทั่วไทย ไปไหนไปกัน

BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพลส) หนึ่งในแบรนด์ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนทั่วไทย ไปไหน ไปกัน (Everywhere, with you) ภายใต้การดำเนินการของ BEST Inc. (เบสท์ อิงซ) บริษัทแม่ ผู้นำด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรยักษ์ใหญ่ จากประเทศจีน ไม่หวั่น COVID-19 เดินหน้าเต็มสูบ จัดอีเวนท์อย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเซ็นทรัลเวิลด์ โชว์เทคโนโลยีการขนพัสดุด่วน ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ขายออนไลน์ B2B และ B2C มั่นใจรุกตลาด รับ-ส่ง พัสดุ ขนาดเล็ก-กลาง ได้ถึง 50 กิโลกรัม สำเร็จ พร้อมจับมือ SMEs ไทย ปูพรมขยายแฟรนไชส์ครอบคลุมทั่วประเทศ รองรับการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุค New Normal วิถีชีวิตใหม่ได้อย่างตรงจุด

โดยทาง BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพลส) ได้ประกาศถึงความพร้อมให้บริการโดยจัดอีเวนท์สุดยิ่งใหญ่ “BEST ROAD NEW LIFE” โดยมีนัยยะว่า “BEST ROAD” คือการดำเนินธุรกิจขนส่งพัสดุของ BEST Express ที่ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนทั่วไทยกับคอนเซป ไปไหน ไปกัน รับ-ส่งพัสดุถึงที่ โดยมุ่งเน้นกับธุรกิจแบบ E-Commerce ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดในปัจจุบันนี้ และอีกคำหนึ่ง คือ “NEW LIFE” หมายถึง ทาง BEST Express ถือเป็นบริษัทขนส่งเจ้าแรกที่มุ่งมั่นในการจัดงานอีเวนท์ในช่วงสถานการณ์หลังโควิด โดยชูจุดเด่นในสไตล์อีเวนท์แบบ NEW NORMAL ชีวิตวิถีใหม่ ที่เปิดให้ทุกคนได้มาชมการขายของออนไลน์ในรูปแบบ New Normal จากดาราพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์แถวหน้าของเมืองไทย เพื่อให้คนไทยได้มาเรียนรู้ที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้กังวลในยุคหลังโควิดไปด้วยกัน

เมื่อตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19)ที่แพร่ระบาดและลุกลามไปทั่วโลก เป็นเหตุให้รัฐบาลหลายประเทศประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ผู้คนต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากกว่าเคย พฤติกรรมการเดินทางไปซื้อหาสินค้าใน Physical store ถูกแปรเปลี่ยนด้วยการคลิกและช็อปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนแทน และนั่นทำให้หนึ่งในซัพพลายเชนสำคัญอย่างบริษัทรับส่งพัสดุด่วนทั้งหลาย ล้วนได้อานิสงส์ไปตาม ๆ กัน ดังนั้นสถานการณ์ตลาดอีคอมเมิร์ซหลัง COVID-19 จึงถือว่ามีโอกาสมหาศาล เฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 16 เท่า เลยทีเดียว  และภายในปี 2025 ตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้จะมีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เช่นเดียวกับ BEST Express ที่ธุรกิจเติบโตดีในช่วงนี้ ทั้งยังได้แสดงศักยภาพความแข็งแกร่งของธุรกิจระดับเวิลด์คลาส ผนวกเข้ากับเจตจำนงในการเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจในความเป็นไปของสถานการณ์ปัจจุบันและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม ก่อเกิดเป็นไอเดียธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้ให้กับบรรดาคนที่เดือดร้อนให้มีรายได้ยังชีพและจุนเจือครอบครัวต่อไป

ยิ่งพร้อมเปลี่ยนแปลง ยิ่งโอกาสเปิดกว้าง 

นายเจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ เบสท์ ประเทศไทย บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การตลาดทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ของ BEST Express ในแต่ละปี จะใช้งบการตลาดคิดเป็น 10% ของรายได้ทั้งหมด  และจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา ที่บริการรับส่งพัสดุขนาดเล็ก-ขนาดกลาง เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงเคอร์ฟิวที่หลายคนไม่อยากออกจากบ้านไปไหน เพราะกลัวจะเดินทางกลับมาไม่ทัน  ทำให้เรามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 30% เลยทีเดียว และจากวิกฤตที่ไม่พึงประสงค์ดังกล่าว กลับทำให้ BEST Express มองเห็นช่องทางการทำการตลาดมากขึ้น นอกจากการทำการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักแล้ว  ยังมุ่งเน้นการทำการตลาดเชิง CSR มากขึ้น อาทิ แคมเปญรถม้าส่งพัสดุ จังหวัดลำปาง แคมเปญรถตุ๊กตุ๊กส่งพัสดุ แคมเปญบริจาคเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ และแคมเปญกล่องนี้ BEST ให้ฟรีอยากส่งทุกที่ถึงคนที่ห่วงใย และแคมเปญมอบเงินบริจาคและสิ่งของให้กับกระทรวงพัฒนาสังคมและมนุษย์เพื่อช่วยเหลือไปยังมูลนิธิต่าง ๆ (บ้านเด็กอ่อน เด็กพิการซ้ำซ้อน มูลนิธิภายในการดูของกระทรวง บ้านผู้บริการและทางจิตเวช บ้านคนชราแลคนไร้บ้าน และกลุ่มสตรีโดนทำร้าย เป็นต้น)  โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือสังคมเป็นสำคัญ”

(ซ้ายไปขวา) นาง พัชรี อารยะกุล รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นาย เจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ เบสท์ ประเทศไทย บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด

นายเจสัน เชียน กล่าวเพิ่มว่า “BEST Express ได้เรียนรู้จากมหันตภัยที่พลิกโฉมโลกเราไปอย่างสิ้นเชิง คือ การเปลี่ยนแปลง เมื่อเกิดโรคระบาดขึ้น ทำให้หลายธุรกิจต้องปิดตัวไป เพราะไม่มีความสามารถในการปรับตัวที่ดีพอและไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง แต่ BEST Express พร้อมและกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง กลยุทธ์ที่ไม่เคยอยู่ในแผนการดำเนินการมาก่อน ก็ถูกนำมาใช้เพื่อสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากที่สุดคือ การเดินเกมส์การตลาดเชิง CSR”

“เราสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง ด้วยการลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับคนท้องถิ่นทั่วไทย เราเป็นบริษัทเจ้าแรกในประเทศไทยที่นำเสนอ Value Added Services อาทิ Cross Border และ Express เพื่อทำให้ผู้บริโภคใช้บริการนำส่งพัสดุได้ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงลดต้นทุนในการซื้อสินค้าออนไลน์ลง”

“ที่ผ่านมาผู้ให้บริการเอ็กซ์เพรสต่าง ๆ ไม่เคยหยุดกิจการแม้แต่วันเดียว และนั่นทำให้เห็นว่าผู้บริโภคต้องการเรามากแค่ไหน ทำให้ช่วง COVID-19 เราลงทุนหนักกว่าเดิม ขณะเดียวกันเราก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม จึงได้จับมือกับสมาคมผู้ประกอบการตุ๊กตุ๊กไทย ที่มีสมาชิกกว่า 20,000 คันทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากการขาดรายได้จากนักท่องเที่ยว การที่เราเชิญชวนให้พวกเขามาช่วยส่งของให้กับเรา ทำให้แม้ในช่วงที่จำนวนพัสดุหนาแน่นกว่าปกติ เราก็สามารถนำส่งพัสดุไปถึงลูกค้าได้ตามกำหนด ส่วนคนขับตุ๊กตุ๊กก็มีรายได้ด้วยเช่นกัน ส่วนที่ลำปางเราก็ใช้รถม้าส่งพัสดุเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่เพียงเท่านี้เรายังเปิดโอกาสให้กับบรรดาไรเดอร์เดลิเวอรี่ทั้งหลายมารับงานของเราได้ด้วย”

“ทุกอย่างเราคิดเร็ว ทำเร็ว ใช้แค่สติ๊กเกอร์โลโก้ของเราแปะไว้ที่ข้าง ๆ รถก็พอ ไม่มีเวลาที่จะไป wrap รถ เพื่อสร้าง Brand Visibility และ Brand Awareness ถามว่าเสียดายไหม ก็เสียดาย แต่บางอย่างรอไม่ได้ ต้องคิดและทำทันที”

New Normal ของ BEST Express จึงเป็นวิถีปฏิบัติใหม่ที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคม ขณะเดียวกันก็ทำให้ธุรกิจไม่สะดุดและค่อย ๆ หยั่งรากลึกอย่างแข็งแกร่งต่อไปได้

จะโตไวต้องไม่ลุยเดี่ยว X พันธมิตรที่รู้จริง

เนื่องจาก BEST Express เป็นบริษัทข้ามชาติ การที่จะลงหลักปักฐานธุรกิจในไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเติมเต็มช่องว่างให้ได้ นอกเหนือจากพนักงานกว่า 90% ที่เป็นคนไทยแล้ว ยังมีจิกซอว์ที่บริษัทฯ ใช้ก็คือระบบแฟรนไชส์ที่ผ่านบรรดา Local Partner ด้วยกลยุทธ์ Global to Local เช่นนี้เอง ที่ทำให้น้องใหม่ของธุรกิจนี้ สามารถขยายธุรกิจครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดได้ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน เท่านั้น

“นักธุรกิจท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จล้วนมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความเข้าใจผู้บริโภคในท้องที่ของตัวเองเป็นอย่างดี การได้พวกเขามาเป็นฟันเฟืองสำคัญของธุรกิจ ทำให้ธุรกิจเราขับเคลื่อนไปอย่างราบรื่นและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และพวกเขาเหล่านี้จะเป็นกำลังในการบุกตลาดอย่างแข็งขัน ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการส่งเสริมเอสเอ็มอีไทยให้ก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกันกับเรา”

ปัจจุบัน BEST Express มีแฟรนไชส์อยู่ทั่วประเทศมากกว่า 500 สาขา ทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์หลัก (First Station) แฟรนไชส์รอง (Second Station) ช็อป (Shop) และจุดรับพัสดุ (Drop Point) โดยคาดการณ์ว่าในปี 2563 นี้  จะเพิ่มแฟรนไชส์ทั้ง 4 ประเภท อีกกว่า 800 สาขา และยิ่งไปกว่านั้นในปี 2565 จะเพิ่มแฟรนไชส์ทั้ง 4 ประเภท ให้ครอบคลุมทั่วไทยมากถึง 2,000 สาขาเลยทีเดียว

https://www.facebook.com/BESTExpressThailand/videos/643890909894450/

มาที่หลังแต่จุดแข็งปังกว่า

แม้จะเข้าสู่ตลาดบริการรับส่งพัสดุขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศไทยช้ากว่าผู้เล่นรายอื่น ๆ แต่ BEST Express ก็หาได้หวั่นเกรงไม่ เพราะมีจุดเด่น คือ การเน้นเครือข่ายที่กว้างขวางและครอบคลุม มีความแข็งแกร่งในแง่ของโลจิสติกส์ที่ไร้รอยต่อ โดดเด่นด้วย One Stop Integrated Supply Chain Services  หรือ การเป็นผู้ให้บริการด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจร และถือเป็น

แบรนด์ธุรกิจเอ็กซ์เพรสรายแรกในไทยที่ดำเนินธุรกิจแบบแฟรนไชส์ 100% รวมถึงมีบริการ BEST Express Free Door to Door service หรือบริการเข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน ฟรี! ตั้งแต่ชิ้นแรก ไม่จำกัดจำนวนชิ้น เป็นเจ้าแรกของไทยด้วย ตลอดจนยังมีนวัตกรรมเทคโนโลยี Automatic Tracking System การแจ้งสถานะพัสดุอัตโนมัติ ผ่าน BEST Application และ Line Official Account: @BESTExpressTH อีกด้วย

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตของ BEST Express เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว จึงเร่งลงทุนเพิ่มขึ้น โดยจัดสรรงบการลงทุน 300 ล้านบาท เพื่อลงทุนในประเทศไทยแบบครบวงจร เพื่อให้บริการด้วยความเป็นเลิศ รวมถึงลงทุนระบบขนส่งอัตโนมัติที่นำเข้าจากจีนด้วย  โดยในปีนี้จะมี HUB หรือศูนย์กระจายสินค้า มากกว่า 10 แห่ง จากปัจจุบันมี 4 แห่ง  ทำหน้าที่คัดแยกพัสดุเพื่อนำส่งในวันถัดไป

‘อั้ม พัชราภา’ สู่ ‘ณเดชน์’  ดัน Brand Awareness

BEST Express แบรนด์ขนส่งพัสดุด่วนทั่วไทย ไปไหน ไปกัน หนึ่งในแปดกลุ่มธุรกิจของ BEST Inc. (เบสท์ อิงซ) บริษัทแม่ จากประเทศจีน ก่อตั้งโดย นาย จอห์นนี่ ชูว ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัทเบสท์ (อดีตรองประธาน Google ประเทศจีน) โดยธุรกิจ BEST Express เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกที่หางโจว ประเทศจีน เมื่อปี 2010 และต้นปี 2019 ได้เปิดตัวในประเทศไทย เพื่อใช้ไทยเป็นศูนย์กลางในการบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  และใช้ คุณอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เรียกกระแสและสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง ล่าสุดเมื่อตั้งใจที่จะทำการตลาดอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างการรับรู้แบรนด์ให้กว้างขวางทั่วประเทศ จึงตั้ง  “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นักแสดงชายเบอร์หนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดของไทย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมกันนี้ก็ได้แนะนำ “น้องกวางเบสท์”  หรือ Dear (De ตี้ –Ar เอ๋อ) เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของแบรนด์คู่กับพรีเซ็นเตอร์คนปัจจุบัน

“ณเดชน์ คูกิมิยะ ถือเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่ดีที่สุด ตามชื่อแบรนด์ของเรา ตอนเปิดตัวครั้งแรกเราก็ใช้ดาราหญิงยอดนิยมอันดับ 1 อย่าง คุณอั้ม พัชราภา  และสำหรับในระยะยาวเราจำเป็นต้องสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจผู้บริโภคให้ได้ พรีเซนเตอร์ต้องแสดงถึงความหนักแน่นและแข็งแกร่งในการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ จึงลงเอยที่ณเดชน์ ดาราชายอันดับ 1 ของประเทศ ที่มีความสามารถและมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในขณะนี้  ซึ่งหลังจากเปิดตัวพรีเซนเตอร์ขวัญใจประชาชน เราก็ได้รับผลตอบรับเกินคาด ได้รับความน่าเชื่อถือ และความสนใจอย่างกว้างขวาง ส่วนมาสคอตที่เลือกใช้กวาง หรือน้องกวางเบสท์ หรือ De-Ar (ตี้ เอ๋อ) เพราะสื่อถึงความรวดเร็ว คล่องแคล่ว ว่องไวในการขนส่งสินค้า  ขณะเดียวกัน Deer ก็พ้องเสียงกับคำว่า Dear แปลว่า ที่รัก ซึ่งเป็นความหมายที่ดี ”

จัดอีเวนท์ใหญ่ โชว์ศักยภาพ ตอกย้ำความมั่นใจ

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา BEST Expressได้จัดงานอีเวนท์เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่สไตล์ New Normal นำโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ พรีเซนเตอร์สุดฮอต มาร่วมตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าต่อให้อยู่ในสถานการณ์ COVID-19 หรือหลังช่วงสถานการณ์โควิด BEST Express ก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างนักช้อปออนไลน์ทุกคน

https://www.facebook.com/BESTExpressThailand/videos/597240931152036/

งานอีเวนท์สุดอลังการนี้ภายใต้แนวคิด“BEST ROAD NEW LIFE” งานอีเวนท์วิถีปฏิบัติใหม่ในแบบ BEST Express ที่ผ่านมา เป็นการโชว์ศักยภาพความพร้อมและเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่ให้บริการไม่เป็นสองรองใคร มาพร้อมด้วยกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ  การไลฟ์สดจำหน่ายสินค้าของ Influencer จากหลากหลายวงการภายใต้โดมใสที่เผยให้เห็นลีลาและท่าทางสุดจี๊ดของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์แต่ละท่าน อาทิ แคนดี้ รากแก่น, อาภาพร นครสวรรค์, ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี หรือ สารวัตร ในซีรีส์ เรื่อง เพราะเราคู่กัน 2gether The Series และ BoomTharis หรือบูม ธริศร ธรณวิกรัย YouTuber ที่เชี่ยวชาญการรีวิวไลฟ์สไตล์สุดหรู เป็นต้น ซึ่งภายในงานนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จริง ๆ แบบช้อปตัวปลิว ส่งไว ไฮเทค อีกด้วย

ติดตามช่องทางออนไลน์โซเชียลมีเดีย BEST Express ได้ที่ :

BEST EXPRESS – ไปไหน ไปกัน

LINE CUSTOMER (ติดตามสถานะพัสดุ)

LINE: @BESTEXPRESSTH (มี@ด้วย)

หรือคลิก http://nav.cx/yKWubHS

LINE BESTFS (ปรึกษาการลงทุน)

LINE: @BESTFSCENTER (มี@ด้วย)

ค้นหาสาขา | ตรวจสอบราคาเบื้องต้น | เช็คสถานะพัสดุ

www.best-inc.co.th

_______

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่

Android >> https://bit.ly/2CPZhMd

iOS >> https://apple.co/2Uy86V7

Call Center 02-108-8000