HomePR Newsซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายนมทางเลือกแบรนด์ 137 ดีกรี คว้ารางวัล Prime Minister’s Export Award 2020 [PR]

ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายนมทางเลือกแบรนด์ 137 ดีกรี คว้ารางวัล Prime Minister’s Export Award 2020 [PR]

แชร์ :

นางสาวอริสา กุลปิยะวาจา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมอัลมอนด์ นมวอลนัท และนมพิสตาชิโอ รายแรกของประเทศไทย เข้ารับมอบรางวัล Prime Minister’s Export Award 2020 (PM Award 2020) ประเภทรางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

นางสาวอริสา กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจที่แบรนด์ 137 ดีกรี ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดนมอัลมอนด์รายแรกของประเทศไทย และเป็นผู้ผลิตนมวอลนัทและนมพิสตาชิโอรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรายแรก ๆ ของโลก ที่ได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award 2020 (PM Award 2020) ประเภทรางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) ซึ่งนับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผู้ส่งออกสินค้า ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์นมทางเลือกเพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพและมาตรฐานของแบรนด์ไทย เป็นที่ยอมรับในตลาดผู้บริโภคทั่วประเทศและตลาดส่งออกทั่วโลก”

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ บริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรพรวัตถุดิบ ที่ใช้ถั่ว อัลมอนด์ ถั่ววอลนัท และถั่วพิสตาชิโอ เต็มเมล็ดคุณภาพสูง มาผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบคั้นสด โดยไม่เติมเกลือ น้ำตาลทราย หรือสารที่เป็นอันตราย เพื่อส่งมอบคุณค่าสารอาหารทางธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพให้แก่ผู้บริโภค

นายธนภูมิ อร่ามวัฒนานนท์ กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวเสริมว่า “นอกจากในด้านธุรกิจแล้ว บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับนโยบายด้านส่งเสริมสุขภาพ การศึกษา และสังคม ผ่านจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนานวัตกรรมการผลิตที่ช่วยลดการใช้พลังงาน เพื่อให้นม 137 ดีกรีเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ”

ในปี 2563 บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด ได้เปิดโรงงานใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร เพื่อขยายกำลังการผลิตและเพิ่มสินค้าในกลุ่มใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพมากขึ้น


แชร์ :