เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. เดินหน้าจัดสัมมนาให้ครบทุกภูมิภาค เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการ SMEs ทั่วทุกภูมิภาคของไทย ล่าสุดลงใต้ จัดสัมมนาหัวข้อ “พิชิตตลาดยุคใหม่ ด้วยนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์” บรรยายโดย นายวรเกษมสันต์ สิริศุภรัชต์ วิทยากรและที่ปรึกษาด้านกลยุทธธุรกิจ การขาย การตลาด การบริการ การออกแบบผลิตภัณฑ์ และกลยุทธนวัตกรรม ณ ห้องประกายกาญจน์ ชั้น 2 เฟส 2 โรงแรมคริสตัล อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีผู้ประกอบการภายในจังหวัดสงขลาเข้าร่วมงานกว่า 200 คน รวมทั้งยังมีร้านค้า SMEs ชื่อดังของจังหวัดเข้าร่วมจัดบูธโชว์ผลิตภัณฑ์ SMEs ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสงขลาหลากหลายร้าน
สำหรับเนื้อหาของหัวข้อบรรยายในครั้งนี้ ทางสสว.คาดหวังให้ผู้ประกอบการภาคใต้ ได้ต่อยอดไอเดีย นำความรู้ใหม่ๆ ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มยอดขายให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเทคนิคที่วิทยากรป้อนให้กับผู้ประกอบการ SMEs นั้น จะเน้นให้เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ด้วยคำว่า “นวัตกรรม” หรือ Innovation โดยมี 4 ปัจจัยสำคัญคือ ต้องใหม่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ถ้าเคยมีอยู่แล้วต้องพัฒนาให้แตกต่าง,ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ลอกเลียนแบบ, นวัตกรรมนั้นๆจะต้องมีประโยชน์และแก้ปัญหาบางอย่างได้ และต้องมีโอกาสต่อยอดหรือพัฒนาได้ในอนาคต ซึ่งไอเดียเริ่มต้นในการคิดค้นนวัตกรรมต้องมาจากวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เช่น ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการกินปลาทูทอด แต่ไม่มีเวลา ผู้ผลิตที่มองเห็นโอกาสทางการตลาดตรงนี้จะคิดค้นนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยผลิตเป็นปลาทูทอดที่แค่ใส่ไมโครเวฟก็รับประทานได้เลย เป็นต้น
ทางด้าน ดร.ปณิตา ชินวัตร ที่ปรึกษาสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ประธานในงานสัมมนาครั้งนี้ได้กล่าวว่า “สสว. ไม่หยุดยั้งที่จะต่อยอดงานพัฒนาองค์ความรู้หรือ SME Knowledge Center อย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ นอกจากงานสัมมนาที่จัดต่อเนื่องทั่วทุกภูมิภาคของไทยแล้ว สสว. ยังเพิ่มเติมในส่วนของหลักสูตรออนไลน์ด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ 3 ด้านประกอบด้วย ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้ง่ายขึ้น ใช้สื่อที่เข้าใจง่ายขึ้น และเพื่อการแข่งขันในยุคดิจิทัล โดยตั้งเป้ามี SMEs เข้ารับการพัฒนาองค์ความรู้มิติต่างๆ เช่น การได้รับคำปรึกษา การอบรมสัมมนาตามต่างจังหวัดอย่างเช่นในวันนี้ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไม่น้อยกว่า 4 พันราย และเข้าถึงเว็บไซต์ www.smeknowledgecenter.com หรือคลังข้อมูลความรู้ที่ สสว. จัดทำขึ้นไม่น้อยกว่า 2 แสนรายต่อปี”
“ยกตัวอย่างสินค้าที่จับต้องได้ เช่น เครื่องแกง น้ำพริกและซอสต่างๆ คือธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงมาก เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการ ซึ่งภาคใต้เอง พวกเครื่องแกงต่างๆ ถือว่ามีชื่อเสียงมาก และมีเอกลักษณ์โดดเด่น แต่ต้องจับผลิตภัณฑ์มาแต่งตัวให้สวยงาม ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นและแตกต่าง ชื่อแบรนด์ต้องสร้างอารมณ์ร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย รูปภาพประกอบต้องสื่อว่าสินค้าข้างในทำมาจากอะไรและเพิ่มจินตนาการถึงรสชาติได้ชัดเจน ต้องเน้นเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ เช่น ทำจากเนื้อปลา 100 % ชื่อผลิตภัณฑ์ต้องบ่งบอกถึงรสชาติ เจาะใจกลุ่มเป้าหมาย สิ่งคัญที่สุดคือต้องหาลูกค้าตัวเองให้เจอว่าคือกลุ่มไหน และวิเคราะห์ให้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเรามีพฤติกรรมอย่างไร” นายวรเกษมสันต์ สิริศุภรัชต์ วิทยากร ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้ประกอบการภาคใต้
ดร.เพชรมณี ดาวเวียง รองผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs ปฏิบัติงานช่วยควบคุม กำกับ ศูนย์ให้บริการ SMEs ครบวงจร(OSS) ประธานในงาน กล่าวปิดท้ายว่า “ทุกวันนี้ Local Brand หรือ Small Brand วิ่งแซงหน้า Global Brand ได้แล้ว อยากให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกคนมีกำลังใจ เพียงแต่ต้องรู้ให้ได้ว่า กลุ่มเป้าหมายของสินค้าเรา เขาต้องการอะไรหรือเขามีปัญหาอะไร แล้วศึกษาข้อมูลเชิงลึกนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้า ก็จะสามารถกลายเป็นแบรนด์หรือสินค้าที่ใช่สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเราได้ ในช่วงแรก หากยังไม่รู้ว่าตัวเองขาดทักษะในด้านไหน เช่น ไม่มีทักษะเรื่องการออกแบบ ไม่มีทักษะในการวิเคราะห์ผู้บริโภค ความรู้พวกนี้ SMEs ศึกษาเพิ่มเติมกันได้ อยากแนะนำให้เปิดใจเข้ามาเรียนรู้กับ SME Knowledge Center สสว.พร้อมจะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ทุกท่าน เข้าไปคุยกันได้ที่ เว็บไซต์ www.smeknowledgecenter.com”
และสัมมนาครั้งต่อไปของโครงการ SME Knowledge Center ทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. จะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดเชียงราย ผู้ประกอบการ SMEs ภาคอีสานและภาคเหนือไม่ควรพลาด ติดตามข้อมูลได้ที่ www.smeknowledgecenter.com