ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีบทบาทต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ ตลอดจนสินค้าและบริการที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างสูงในช่วงที่ผ่านมาก็คือ TikTok เห็นได้จากช่วงล็อกดาวน์ที่มีผู้คนดาวน์โหลด TikTok มาใช้งานมากกว่า 2 พันล้านครั้งทั่วโลก
ไม่เพียงแต่มีผู้ใช้งานแตะพันล้านคนทั่วโลก ความน่าสนใจอีกข้อของ TikTok ในมุมของนักการตลาดก็คือ เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึ
ด้วยเหตุนี้ ทาง TikTok จึงได้เปิดตัว “TikTok For Business” ในฐานะศูนย์รวมโซลูชั่นการตลาดทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม เพื่อให้แบรนด์ใช้พื้นที่แห่งนี้สร้างคอนเทนต์ – โฆษณาต่าง ๆ ได้ตรงตามความต้องการ และยังเปิดตัวเครื่องมือ ที่เรียกว่า Self-Serve Platform (แพลตฟอร์มแบบบริการตัวเอง) สำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง หรือ SME ที่มีความครีเอทีฟในหัวใจและกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการปลุกปั้นยอดขาย ให้สามารถติดตั้งโฆษณาบน TikTok ง่ายๆได้ด้วยตนเอง
ซึ่งบทความในวันนี้ เราจะมาสอนวิธีใช้งาน TikTok Self-Serve Platform (แพลตฟอร์มแบบบริการตัวเอง) กันอย่างเจาะลึก เพื่อจะได้เข้าใจว่าเครื่องมือดังกล่าวทำงานอย่างไร มีจุดแข็งกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ตรงไหน
Step 1 เริ่มต้นง่ายๆด้วยการลงทะเบียน
ขั้นแรกของการลงโฆษณากับ TikTok ก็คือการลงทะเบียนเปิดบัญชีที่ TikTok for Business โดยจะมีหน้าจอให้กรอกข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เมื่อเสร็จสิ้น ระบบจะพาเราไปพบกับหน้าจอหลักของ TikTok Ads Manager ที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางการควบคุมเกี่ยวกับโฆษณาทั้งหมด
โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวถูกออกแบบให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการโฆษณาได้ด้วยตัวเอง (Self-serve platform) ทั้งหมด ซึ่ง TikTok ให้เหตุผลว่า ต้องการให้เกิดความเท่าเทียมกันในการแข่งขัน ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดไหน ก็สามารถแข่งกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีงบประมาณการตลาดสูง ๆ ได้นั่นเอง
Step 2 ทำความรู้จักกับส่วนต่าง ๆ
เมื่อเราเข้ามาสู่หน้าจอหลักของ TikTok Ads Manager ให้สังเกตที่ด้านบน จะพบ Tabs เรียงรายกัน 4 ตัว ประกอบด้วย Dashboard, Campaign, Assets และ Reporting โดย Dashboard จะเป็นศูนย์รวมข้อมูลทุกอย่างให้เราเห็นว่า ประสิทธิภาพโดยรวมของโฆษณา และภาพรวมการใช้งบประมาณ
ถัดจากนั้นคือ Campaign ที่เราสามารถเข้าไปดูประสิทธิภาพได้เป็นรายตัว รวมถึงสามารถคลิกสร้างแคมเปญใหม่ได้ด้วย (เดี๋ยวไปลงลึกถึงวิธีสร้างแคมเปญกันที่หัวข้อถัดไป)
ส่วนของ Assets เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญ เพราะเป็นที่ไว้เก็บเครื่องมือ และรีซอร์สต่าง ๆ เกี่ยวกับการลงโฆษณา รวมถึงเอาไว้ใช้เวลาต้องมาจัดการเกี่ยวกับตัว Tracker ต่าง ๆ ขณะที่ส่วนสุดท้ายคือ Reporting สำหรับสรุปข้อมูลโฆษณาที่ลงไปว่ามีผลลัพธ์เป็นอย่างไร
Step 3 เริ่มสร้างแคมเปญ
เมื่ออยู่ในส่วนของ Campaign ระบบจะเปิดให้เรากำหนดวัตถุประสงค์ของการลงโฆษณา เช่น หากต้องการสร้าง Awareness ก็จะเน้นไปที่ Reach หรือหากอยู่ในช่วงสร้าง Consideration ก็จะมีตัวเลือกให้ว่าต้องการเน้นผลลัพธ์แบบไหน เช่น สร้าง Traffic เน้นการติดตั้งแอปพลิเคชัน หรือเน้นให้เกิดการรับชมวิดีโอคลิป เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำไปออกแบบการวางโฆษณาต่อไป ว่าจะทำอย่างไรเพื่อดึงผู้ใช้งานไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการ
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อย และกดปุ่ม Continue ระบบจะพาเราไปตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย พื้นที่การวางโฆษณา ฯลฯ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้โฆษณาชิ้นนี้ปรากฏอยู่ที่ไหนบ้าง สามารถระบุ Tag ที่ต้องการได้ เปิดให้มีหรือไม่มีคอมเม้นท์ก็ได้ ฯลฯ
ภายในหนึ่งแคมเปญ เราสามารถสร้าง Ad Group ได้หลาย ๆ ตัว โดยใน Ad Group แต่ละตัว จะเปิดให้เราเลือกได้ว่าจะแสดงผลตรงไหน กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ตั้งงบประมาณเท่าไร ฯลฯ และสามารถเข้าไปออปติไมซ์โฆษณาได้ตามความต้องการ
Step 4 สะดวกกว่าด้วย Automated Creative Optimization
แต่สำหรับใครที่อยากได้ตัวช่วยเพื่อให้การลงโฆษณาง่ายและสะดวกขึ้น ทาง TikTok For Business ก็มีเครื่องมือชื่อ Automated Creative Optimization เตรียมเอาไว้ให้เช่นกัน ซึ่งเหมาะมากกับธุรกิจ SME ที่อาจอยากได้ตัวช่วยเพื่อให้ทำงานได้ง่ายขึ้น
โดยความง่ายก็คือเราสามารถอัปโหลดภาพ คลิปวิดีโอ ข้อความที่ต้องการลงไปได้เลย จากนั้นก็เลือกปุ่ม CTA (Call-to-Action) ที่ต้องการ ตอนนี้มี 7 แบบให้เลือก ได้แก่ Download Now, Learn More, Shop Now, Sign Up, Contact Us, Apply Now และ Book Now แล้วระบบของ TikTok จะนำข้อมูลทั้งหมดไปสร้างเป็นชิ้นงานโฆษณาให้
แบรนด์ยังสามารถใส่ข้อความโฆษณาที่ต้องการ (Ad Text) ลงไปได้ด้วย โดยข้อความเหล่านี้จะไปปรากฏในตัวโฆษณาเช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน ตัวอักษรที่ใส่ได้ก็จะแตกต่างกันไป เช่น หากเป็นภาษาอังกฤษรองรับได้ 12 – 80 ตัวอักษร แต่ถ้าเป็นภาษาจีนหรือญี่ปุ่นจะรองรับได้ 6- 50 ตัวอักษร เป็นต้น
ชิ้นงานที่ระบบสร้างขึ้นจะไปปรากฏอยู่ใน Tabs Campaign โดยอยู่ใน Ad Group ซึ่งเราต้องเข้าไปตรวจสอบก่อน ระบบจึงจะเผยแพร่ชิ้นงานนั้น ๆ ให้ ไม่เพียงเท่านั้น ระบบจะมีการวัดประสิทธิภาพของโฆษณาให้ด้วย โดยแบ่งออกเป็น 4 สเตจ ได้แก่ Exploring, Best, Good และ Poor
งานโฆษณาทุกตัวเมื่อเริ่มทำงานจะอยู่ในสเตจ Exploring จากนั้น Machine learning ของระบบจะเริ่มวิเคราะห์ประสิทธิภาพ หากมันทำงานได้ดี ก็จะถูกปรับไปอยู่ในสเตจ Best แต่ถ้าทำงานได้ปานกลางก็จะอยู่ในโหมด Good และแน่นอนว่าถ้าไม่ค่อยมีประสิทธิภาพก็จะถูกปรับไปอยู่ในหมวด Poor ซึ่งประสิทธิภาพของโฆษณาเหล่านี้สามารถเข้าไปดูได้ในส่วนของ Report
Step 5 ปรับแต่งโฆษณาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ไม่เพียงมีเครื่องมือ Automated Creative Optimization มาช่วยธุรกิจทั้งเล็ก – ใหญ่ให้ทำงานง่ายขึ้น แต่ทาง TikTok ยังมีคำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย โดยคำแนะนำของ TikTok มีดังต่อไปนี้
– แบรนด์ควรเตรียมภาพ คลิปวิดีโอ ข้อความ ฯลฯ สำหรับสร้างชิ้นงานโฆษณาให้มากเพียงพอ ซึ่งอาจใช้ไฟล์ หรือข้อความที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วร่วมด้วยก็ได้
– ควรตั้งงบประมาณ และเวลาให้มากพอสำหรับ Automated Creative Optimization ในการทำงาน เช่น ควรรันโฆษณาไม่น้อยกว่า 7 วัน หรือใส่งบประมาณต่อวันให้มากพอ (ไม่ควรน้อยกว่า 30 เท่าของ Cost Per Acquisition (CPA) ที่ต้องการ)
– การทำ Automated Creative Optimization เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ดังนั้น เมื่อเริ่มต้นแล้ว การหยุดอาจหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
– ระบบจะปรับปรุงประสิทธิภาพของโฆษณาอัตโนมัติ ดังนั้นระหว่างที่รันโฆษณา ถ้าผลตอบรับไม่เป็นตามที่ต้องการ แบรนด์สามารถเข้าไปเปลี่ยนภาพ คลิปวิดีโอได้ เพื่อให้ระบบสร้างชิ้นงานตัวใหม่ แต่นั่นเท่ากับว่า ต้องกลับสู่สเตจ Exploring ใหม่อีกรอบด้วย
เพียง 5 ขั้นตอนง่ายๆนี้ ก็สามารถเริ่มโฆษณาบน TikTok ได้แล้ว หรือหากสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TikTok Ads Manager ก็สามารถดูได้จากวีดีโอด้านล่าง ซึ่งเป็นบางส่วนจากงาน TikTok SME Webinar ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้
ใครที่สนใจอย่ารอช้า TikTok Self Serve Platform (แพลตฟอร์มแบบบริการตัวเอง) ช่วยคุณสร้างแบรนด์ได้ เพราะมีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ติดตั้งง่าย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายตามต้องการ สามารถใช้งบประมาณที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ ติดตามผลได้อย่างชัดเจน มีเครื่องมือช่วยในการออกแบบ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มยอดขายและบรรลุผลทางธุรกิจได้อย่างง่ายดาย ใครสนใจเริ่มได้เลยที่ TikTok for Business