เอ่ยชื่อ “ศรีสมบูรณ์กรุ๊ป”ยักษ์ใหญ่ตัวจริง ยืนหนึ่ง “ป่าล้อมเมือง” แห่งภาคกลาง สามารถยืนหยัดอยู่มาได้ถึง 40 ปี ด้วยการยึดแนวคิดทำหลากหลายธุรกิจ เมื่อเจอวิกฤตก็สู้ได้ จากจุดเริ่มต้นธุรกิจจำหน่ายรถจักรยานยนต์ OEM น้ำมันปาล์ม โรงไฟฟ้า อสังหาริมทรัพย์ การศึกษา จนมาถึงธุรกิจอาหารเสริมและยา ทุกธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด-19 มาได้อย่างสวยงาม พร้อมเติบโตเกือบทุกธุรกิจ สิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตคือการรู้จริงในธุรกิจนั้นๆ
“ธนันท์วรุตม์ ลิ้มทรงพรต” กรรมการบริหารศรีสมบูรณ์กรุ๊ป CEO เจนเนอเรชั่นใหม่ ไฟแรง กล่าวถึงการพาธุรกิจครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นวิกฤตยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติมาได้นั้นว่า “ธุรกิจศรีสมบูรณ์กรุ๊ปจะมีหลากหลายธุรกิจ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงหากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเกิดสะดุดเมื่อเจอกับวิกฤต ก็มีอีกหลายธุรกิจที่ช่วยพยุงให้เดินต่อไปได้”
โดยอาณาจักรของศรีสมบูรณ์กรุ๊ป คือ บริษัท เพิ่มทรัพย์ เซลล์แอนด์เซอร์วิส จำกัด ดำเนินธุรกิจจำหน่ายจักรยานยนต์รวมถึงลิสซิ่ง, บริษัท ทองมงคลอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด ดำเนินธุรกิจรับจ้างเป็น OEM ผลิตน้ำมันปาล์ม, บริษัท TMK ENERGY จำกัด โรงงานไฟฟ้าจากชีวภาพ, บริษัท เบญจทรัพย์ แลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, โรงเรียนเอเชียบริหารธุรกิจเทคโนโลยี ลพบุรี ดำเนินธุรกิจด้านการศึกษา และบริษัท เอ็ม.จี. เฮสตี้แคร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจอาหารเสริมและยา
นอกจากการกระจายธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยงหากต้องเจอกับวิกฤตแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ศรีสมบูรณ์กรุ๊ปสามารถยืนยั่นมาได้ตลอด 40 ปี คือ การเป็นธุรกิจครอบครัวที่มีอะไรก็ปรึกษากันแบบพี่น้อง โดยกฎของบ้านลิ้มทรงพรตต้องรับประทานอาหารร่วมกันเพื่อมีอะไรจะได้ปรึกษาหาซึ่งกันและกัน ช่วยกันแก้ไขปัญหา พร้อมสรุปงานต่างๆ ด้วยกัน
ธนันท์วรุตม์ ยังได้กล่าวถึงโมเดลธุรกิจของศรีสมบูรณ์กรุ๊ปว่า “เราให้ความสำคัญกับทุกธุรกิจ เพราะทุกธุรกิจจะค่อยๆเกื้อกูลซึ่งกันและกัน แม้ว่าปี 2563 เป็นปีที่ต้องทำงานหนักยิ่ง เพราะปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ธุรกิจบางตัวของศรีสมบูรณ์กรุ๊ปได้รับผลกระทบไปบ้าง แต่ขณะนี้เริ่มกลับสู่สภาวะปกติ”
อย่าง บริษัท เพิ่มทรัพย์ เซลล์แอนด์เซอร์วิส จำกัด ดำเนินธุรกิจจำหน่ายรถจักรยานยนต์และลิสซิ่ง ปัจจุบันมี 66 สาขาใน 10 จังหวัด ช่วงโควิด-19 ใหม่ๆ ลูกค้าหายไปเช่นกัน แต่เมื่อกลับสู่สภาวะปกติลูกค้าก็เริ่มกลับมาเพราะมีเงินช่วยเหลือจากรัฐถึงมือประชาชน ประกอบกับพฤติกรรมลูกค้าในต่างจังหวัดชื่นชอบการใช้รถจักยายนต์มากกว่ารถประเภทอื่น ทำให้ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10-12 % จากยอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับจุดแข็งของเพิ่มทรัพย์ฯ คือ มีรถทุกเซ็กเมนต์ให้ลูกค้าเลือก ในราคาที่เข้าถึงได้ และการปล่อยลิสซิ่งเองทำให้สามารถยืดหยุ่นในเรื่องเงื่อนไขต่างๆ ให้กับลูกค้าได้ โดยในปีนี้มีแผนที่ขยายสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา
สำหรับริษัท ทองมงคลอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจรับจ้างเป็น OEM ผลิตน้ำมันปาล์ม คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนบริษัท TMK ENERGY จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงงานไฟฟ้าจากชีวภาพ และโรงไฟฟ้าจำหน่ายกระแสไฟ คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท และคาดว่าจะมีลงทุนเพิ่มเพื่อขยายกำลังการผลิตให้มากขึ้นจากเดิมที่มีกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์
ด้านธุรกิจอสังหาริมทพรัย์ปีนี้บริษัท เบญจทรัพย์ แลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด เปิดโครงการไปแล้ว 3 โครงการในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบมูลค่าโครงการกว่า 700 ล้านบาทซึ่งได้รับผลตอบรับดีในช่วงโควิด-19 เพราะกลุ่มราชการมีกำลังซื้อ ในอนาคตจะเพิ่มโครงการแนวดิ่งโดยจะใช้แลนด์แบงก์ที่มีอยู่มาพัฒนาโซนสมุทรปราการ
ส่วนโรงเรียนเอเชียบริหารธุรกิจเทคโนโลยี ลพบุรี ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการศึกษา เป็นธุรกิจที่ไม่ได้หวังเม็ดเงิน แต่ทำเพราะต้องการป้อนบุคลากรให้กับบริษัท ด้านธุรกิจอาหารเสริมและยา ภายใต้บริษัท เอ็ม.จี. เฮสตี้แคร์ จำกัด ยังไม่สามารถบอกรายได้ได้ต้องรอดูทิศทางเศรษฐกิจก่อน แต่แบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่มเปิดตัวไปไม่นาน คือ แบรนด์ NOLR อาหารเสริมสำหรับคุณผู้ชาย และแบรนด์ โมโมนี่ อาหารเสริมสำหรับคุณผู้หญิงทั้งสองแบรนด์นี้กำลังไปได้ดี
สำหรับหลักการบริหารงานของธนันท์วรุตม์ เนื่องจากต้องดูแลหลากหลายธุรกิจ สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาเรียนรู้ให้ลึกซึ้งในทุกธุรกิจก่อนลงมือทำจริง อย่างก่อนที่จะเปิดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เขาต้องไปฝึกงานกับบริษัทเพื่อนคุณแม่ถึง 3 เดือนเพื่อเรียนรู้กระบวนทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจ และเมื่อได้ลงมือทำประสบการณ์ก็สอนให้แข็งแกร่งขึ้น
สิ่งสำคัญอีกอย่างในการทำธุรกิจยุคปัจจุบัน คือ การก้าวทันเทคโนโลยี เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนไป บริษัทจึงได้ลงทุนด้านไอทีอินเฮาส์ไว้รองรับมากขึ้น เช่น แอปพลิเคชั่นศรีสมบูรณ์เพื่อใช้ซื้อขายหรือให้รายละเอียดการซื้อขายรถในยุคดิจิทัล และยังได้เตรียมการลงทุนด้านไอทีอื่นๆ เพื่อรองรับผู้บริโภคยุคดิจิทัล ส่วนการบริหารพนักงานที่มีมากถึง 800 คน สิ่งสำคัญคือต้องได้ใจคนก่อน รักษาคนด้วยใจ และเข้าใจทีมงาน
“การเป็นผู้บริหารจะต้องไม่ออกคำสั่งเพียงอย่างเดียว ต้องมองว่าผู้ปฏิบัติงานเขาคิดยังไง เราต้องเป็นผู้สนับสนุนเขา หากเกิดอะไรขึ้นเราจะเข้าใจทันทีว่าเขาผิดพลาดเพราะอะไรเพื่อที่เราจะได้ช่วยเขาได้ เราต้องรู้จักให้กำลังใจพนักงาน เพื่อที่เขาจะได้ทำงานให้เราอย่างมีประสิทธิภาพ” ธนันท์วรุตม์ ทิ้งท้ายถึงความเป็นผู้บริหารที่ดีในยุคดิจิทัล