ในขณะที่อุตสาหกรรมเพลง เปลี่ยนเข้าสู่ยุค Streaming แล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่งกลับพบว่าคนยังคงถวิลหาการฟังเพลงในรูปแบบ Physical ไม่ว่าจะเป็นแผ่นเสียง, ซีดี หรือแม้แต่เทปคาสเซ็ท ขณะเดียวกันฝั่งศิลปินนักร้อง นอกจากนำเพลงไปอยู่บน Streaming Platform ทั้งหลายแล้ว ศิลปินบางคนยังออก Physical Format ให้แฟนคลับได้สะสม
อาจกล่าวได้ว่า Nostalgia กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบเรื่องราวเก่าๆ บรรยากาศ ดีไซน์ การใช้งานที่ดึงเราในช่วงเวลาหนึ่ง ย้อนกลับไปสู่วิถี Analog ซึ่งไลฟ์สไตล์ความชอบที่ว่านี้ ไม่ได้จำกัดด้วย “อายุ” ว่าต้องเป็น Baby Boomers หรือ Gen X เท่านั้น แต่กลุ่ม Gen Y, Gen Z ก็มีความชอบใน Nostalgia เช่นกัน
ล่าสุดอุตสาหกรรมเพลงในสหรัฐอเมริกา มีเรื่องให้น่าเซอร์ไพรส์ เมื่อ “Recording Industry Association of America” (RIAA) เผยว่า ยอดขายในอุตสาหกรรมเพลงสหรัฐฯ ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2020 เติบโต 5.6% โดยหลักมาจากตลาด Streaming อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจคือ ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 “Vinyl” แซงหน้ายอดขาย “ซีดี” เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1980s หรือในรอบกว่า 40 ปี ด้วยอดขาย 232.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ยอดขายซีดีในครึ่งปีแรกของปีนี้ อยู่ที่ 129.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
ที่น่าสังเกตคือ ยอดขาย Vinyl เติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2005 และในครึ่งปีแรกของปีนี้ เติบโต 4% ในสหรัฐ ในขณะที่ยอดขายซีดีลดลง 48% ปรากฏการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเพลงในปัจจุบัน “แผ่นเสียง” ยังคงมีทั้ง Supply และ Demand นั่นคือ
ฝั่ง Supply ยังคงมีการผลิตแผ่นเสียง ไม่ว่าจะเป็นศิลปินนักร้อง และค่ายเพลง นำผลงานใหม่ ผลิตในรูปแบบแผ่นเสียงด้วย รวมไปถึงมีการนำผลงานเก่า มาทำ Reissue เป็นแผ่นเสียงใหม่ และมีการซื้อขายแผ่นเสียงมือสอง
ฝั่ง Demand คือ ผู้บริโภคที่ปัจจุบันกลุ่มคนเล่นแผ่นเสียง มีหลากหลายอายุ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เติบโตในยุคดิจิทัล หันมาสนใจแผ่นเสียงกันมากขึ้น เนื่องจากต้องการประสบการณ์การฟังเพลงที่สัมผัสได้ และแตกต่างออกไปจากที่การฟังรูปแบบดิจิทัล ซึ่งคุณภาพเสียงจากแผ่นเสียง ทั้งเสียง และความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากการฟังเพลงดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า Vinyl อยู่ในทิศทางเติบโต แต่เมื่อดูภาพรวมอุตสาหกรรมเพลง ยอดขายของตลาด Physical Format (แผ่นเสียง, ซีดี, เทปคาสเซ็ท) ในครึ่งปีแรกปี 2020 อยู่ที่ ลดลง 23% หรืออยู่ที่ 376 ล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 สร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเพลง การจัดคอนเสิร์ต และร้านขายเพลง
ในขณะที่แพลตฟอร์ม Streaming ปัจจุบัน dominate อุตสาหกรรมเพลงไปแล้ว โดยมูลค่า Streaming คิดเป็น 85% ของตลาดรวมทั้งอุตสาหกรรมเพลงในสหรัฐอเมริกา
RIAA รายงานว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2020 รายได้ตลาด Streaming ทั้งแบบจ่ายค่าสมาชิก, แบบฟรีที่มีสปอนเซอร์โฆษณา และวิทยุสตรีมมิ่ง เพิ่มขึ้น 12% คิดเป็นมูลค่า 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และถ้าวัดเฉพาะ Music Streaming จ่ายค่าสมาชิก เช่น Spotify, Apple Music พบว่ารายได้เพิ่มขึ้น 24%
Credit Photo : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand