HomePR News‘POPS TV’ จับมือ ‘ไทยรัฐออนไลน์’ และ ‘ช่อง 8’ ตอกย้ำเทรนด์ธุรกิจออนไลน์สตรีมมิ่ง ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น [PR]

‘POPS TV’ จับมือ ‘ไทยรัฐออนไลน์’ และ ‘ช่อง 8’ ตอกย้ำเทรนด์ธุรกิจออนไลน์สตรีมมิ่ง ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น [PR]

แชร์ :

‘POPS.TV’ หรือ POPS Application ออนไลน์สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงแบบถูกลิขสิทธิ์ ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งแรกในแวดวงออนไลน์สตรีมมิ่ง ระหว่าง ‘ไทยรัฐออนไลน์’ และ ‘ช่อง 8’ สองผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์คุณภาพแนวหน้าของไทย พร้อมสร้างปรากฏการณ์ออนไลน์สตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม เสริมคอนเทนต์ความบันเทิงสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในรูปแบบ ละครซีรีส์ และรายการวาไรตี้โชว์ครั้งแรก ยกระดับความพรีเมียมของคอนเทนต์คุณภาพเพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น ตอกย้ำเทรนด์ธุรกิจออนไลน์ สตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม มอบความสุขให้ชาวไทยได้เต็มอิ่ม ฟรี!!ไม่มีค่าใช้จ่าย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

มร.บานิ แทน (Mr. Bani Tan) ผู้อำนวยการประจำภูมิภาค POPS Worldwide (ประเทศไทย) กล่าวว่า “หลังจากที่เราได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย POPS ยังเป็นน้องใหม่ในตลาด จึงต้องเร่งสร้างตัวตน และขยายฐานกลุ่มเป้าหมายคนดูให้กว้างมากยิ่งขึ้น สำหรับเรายังคงยึดหลักความเชื่อเดิมว่าคอนเทนต์ พรีเมียมไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเสมอไป ซึ่งเรามุ่งเน้นในการนำคอนเทนต์คุณภาพมามอบให้คนไทยได้รับชมกันฟรี ๆ ในขณะเดียวกันกลยุทธ์สำคัญของเรามี 2 ประการ อย่างแรกคือเรื่องของการสร้างแบรนด์ ไม่ว่าจะผ่านสื่อโฆษณา ออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อนอกบ้าน หรือแหล่งคอมมิวนิตี้ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้คนได้รู้จัก และรับรู้ถึงความเป็น POPS รวมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เรามอบให้ และประการที่สอง คือการชูเรื่องคอนเทนต์เป็นหลัก ซึ่งเราจะไม่ได้มีเพียงคอนเทนต์ซื้อลิขสิทธิ์มาเท่านั้น แต่เราพยายามเพิ่มเสริมด้วยรูปแบบคอนเทนต์ที่หลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คือ Original Local Content ที่เราได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง ไทยรัฐออนไลน์ ในการผลิตรายการวาไรตี้ภายใต้ PEEPZ และ ช่อง 8 ในการผลิตละครซีรีส์ ซึ่งเรามั่นใจในศักยภาพของพันธมิตรทั้งสองเป็นอย่างมาก และหวังว่าจะได้มอบความบันเทิงให้แก่ผู้ชมทุกท่าน”

คุณวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ ไทยรัฐออนไลน์ กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง กับการร่วมมือทางธุรกิจกับ POPS.TV ที่เรามองว่าเป็นแพลทฟอร์มสตรีมมิ่งน้องใหม่ เหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่ง PEEPZ เองก็เป็นแชนแนลภายใต้ ไทยรัฐออนไลน์ ที่นำเสนอคอนเทนต์วิดีโอสนุกๆ ในรูปแบบของ Short-Form Mobile Video เนื้อหาเจาะไปที่ความสนใจของเหล่าวัยรุ่น เช่น เกม เรื่องตลก เพลง เต้น ความสัมพันธ์กับเพื่อน แฟน ครอบครัว สุขภาพ และ LGBT โดยกลุ่มเป้าหมายเน้นเจาะกลุ่ม Gen Z ที่พร้อมจะร่วมค้นหาตัวเองไปกับเพื่อน ทำทุกเรื่องไปให้สุดในทางของตัวเอง นอกจากนี้เรายังมองว่าการร่วมมือทางธุรกิจกับ POPS.TV ในครั้งนี้ จะช่วยให้ทั้งไทยรัฐออนไลน์ และ POPS.TV เติบโตได้อย่างมั่นคง และขยายฐานเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น พร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกันทั้ง PEEPZ และผู้ชมทุกท่าน“

ด้าน คุณนงลักษณ์ งามโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์.เอส.เทเลวิชั่น จำกัด กล่าวว่า “ในส่วนของช่อง 8 เราได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์หลายราย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่สำหรับการร่วมมือทางธุรกิจกับ POPS.TV ในครั้งนี้ นับเป็นการเปิดโอกาสสู่ตลาดใหม่ที่ทางช่อง 8 มองหา เพื่อที่จะได้เสริมความแข็งแกร่งพร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และการเลือกพาร์ทเนอร์ของเราทุกครั้ง มั่นใจได้แน่นอนว่าผ่านการคัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี เราเห็นถึงศักยภาพของทาง POPS.TV และเชื่อมั่นว่าการร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงในบ้านเราได้“

“ภายใต้ภาวะการแข่งขันที่ดุเดือด คนไทยมีทางเลือกหลากหลายในการเข้าถึงคอนเทนต์ การมีออริจินอลคอนเทนต์จึงเป็นการสร้างความแตกต่างชั้นดี ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนดูได้ และหากไม่มีออริจินอลคอนเทนต์ ก็จะต้องคอยซื้อคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีพที่มีระยะเวลากำหนดในแต่ละครั้งที่ซื้อ ซึ่งทำให้เจ้าของคอนเทนต์ได้เปรียบในเรื่องของราคา เพราะความต้องการที่มีมากทำให้มีแต่คนอยากได้ และคอยช่วงชิงแย่งซื้อ แล้วธุรกิจเล็ก ๆ ของเราจะสามารถไปช่วงชิงกับคนอื่นเค้าได้สักแค่ไหน เพราะฉะนั้นเราจึงพึ่งการซื้ออย่างเดียวไม่ได้ และวิธีนี้เองก็เป็นกลยุทธ์ที่เราหวังจะนำไปปรับใช้กับ POPS ในสาขาประเทศอื่น ๆ เช่นกัน” มร. บานิ กล่าวทิ้งท้าย

POPS.TV ผู้ให้บริการด้านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT (Over-the-top) ของ POPS Worldwide นำเสนอดิจิตอลคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอและคอมมิค (การ์ตูนออนไลน์) ให้บริการใน ประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดทั่วโลกรวมกว่า 2.3 ล้านดาวน์โหลด ซึ่ง POPS.TV ได้เข้ามาเปิดตัวและทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ปัจจุบันเดินหน้าเต็มสูบกับกลยุทธ์ Original Local Content ในการผลิตคอนเทนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของคอนเทนต์ และสร้างคอนเทนต์แนวที่ตรงกับความชอบของผู้ชมในประเทศ


แชร์ :

You may also like