หลังจากเห็นสัญญาณท่องเที่ยวฟื้นตัว แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ในเครือ ทีซีซี กรุ๊ป ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้ฤกษ์กลับมาเปิดตัวโรงแรมใหม่อีกครั้ง โครงการล่าสุด บันยันทรี กระบี่ (Banyan Tree Krabi) โรงแรมแห่งที่ 18 เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2563 หลังเลื่อนจากกำหนดเดิมในไตรมาส 2 เพราะสถานการณ์โควิด
มาดูภาพรวม “กระบี่” ที่ AWC เห็นโอกาสเข้ามาลงทุนสร้างโรงแรมแห่งใหม่ โดยต้องถือว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านท่องเที่ยว ในปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 7 ล้านคน ทำรายได้ 115,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 20% มาต่อเนื่อง เป็นสถิติรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ รองจาก กรุงเทพฯ ภูเก็ต และชลบุรี กระบี่จึงเป็นอีกเดสทิเนชั่นของนักท่องเที่ยวคุณภาพใช้จ่ายต่อคนสูง โดยสัดส่วน 80% เป็นชาวต่างชาติ และ 20% นักท่องเที่ยวไทย
ปัจจุบันโรงแรมในจังหวัดกระบี่ มีจำนวน 500 แห่ง รวม 20,000 ห้อง หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ณ เดือนตุลาคมได้กลับมาเปิดบริการหลังจากปิดในช่วงโควิดแล้ว 105 แห่ง จำนวน 5,400 ห้อง โดยมีเที่ยวบินมาจากกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ มาลงที่กระบี่ วันละ 13 เที่ยวบิน ในเดือนพฤศจิกายนนี้ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จะกลับมาเปิดเส้นทางบินกระบี่อีกครั้ง
เมื่อเห็นถึงศักยภาพท่องเที่ยวกระบี่แล้ว คราวนี้มาตามดู 5 เรื่องของ “บันยันทรี กระบี่” ที่ AWC มั่นใจในการพัฒนาเป็นอีกเดสทิเนชั่นเจาะกลุ่มไฮเอนด์ กับ Facilities จัดเต็มขึ้นชื่อว่าเป็น “แห่งแรก” ของกระบี่
1. รีสอร์ทหรู 2,000 ล้าน เปิดใหม่ในรอบ 10 ปี บนหาดทับแขกกระบี่
AWC ถือครองที่ดิน ขนาด 26 ไร่ ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาหงอนนาค มาตั้งแต่ปี 2549 หรือกว่า 14 ปี ได้เลือกพัฒนาโครงการเป็นรีสอร์ทหรู แบรนด์ “บันยันทรี” ที่มีปรัชญาเรื่องความยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นับเป็นบันยันทรี แห่งที่ 4 ในประเทศไทย และแห่งแรกในกระบี่ ด้วยงบลงทุน 2,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี
บันยันทรี กระบี่ ยังเป็น ลักชัวรี่รีสอร์ทแห่งใหม่ในรอบกว่า 10 ปี บนชายหาดทับแขก หนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในจังหวัดกระบี่ และเป็นโรงแรมแห่งแรกของ AWC ในกระบี่
2. Semi Private Beach ติดชายหาด-ภูเขา
ที่ตั้งของ บันยันทรี กระบี่ ด้านขวามือติดอุทยานแห่งชาติเขาหงอนนาค ด้านหน้าเป็นชายหาดติดทะเล ถือเป็นที่ดินติดหาดและภูเขา ผืนสุดท้ายของหาดทับแขก รีสอร์ทจำนวน 72 ห้อง ทุกห้องเป็นพูลวิลล่า มีสระว่ายน้ำส่วนตัว เห็นวิวชายหาดและทิวเขา จึงเป็นรูปแบบ Semi Private Beach แห่งแรกและแห่งเดียวในกระบี่
3. ดีไซน์จากแรงบันดาลใจตำนานพญานาค
แนวคิดการออกแบบ บันยันทรี กระบี่ ได้รับแรงบันดาลใจจากน้ำและพญานาค ตำนานศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาของคนกระบี่ ด้วยแนวภูเขาที่ไล่เรียงจากเขาหงอนนาค หนองทะเล และเขาแหลมหางนาค
ดีไซน์ของโรงแรมเริ่มจากทางเข้าที่สะท้อนถึงการเข้าสู่เมืองอันเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งตำนานพญานาค ผ่านสะพานหมอกที่เชื่อมต่อบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม เข้าสู่บันไดพญานาคที่ทอดตัวผ่านผืนน้ำลงไปยังห้องจัดประชุมด้านล่าง ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นเมืองมรกตใต้บาดาล ด้วยฉากหลังของทะเลสีเขียวมรกตและเส้นสายของหินงอกหินย้อย
ตลอดจนผลงานศิลปะและเส้นสายของการตกแต่งในห้องพักและสถานที่ต่างๆ ที่มีลวดลายเป็นคลื่นน้ำที่เกิดจากเคลื่อนตัวของพญานาค และการใช้องค์ประกอบของภูมิทัศน์ทางธรรมชาติเพื่อสร้างบรรยากาศและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบริเวณโดยรอบโรงแรม
4. พูลวิลล่าทุกห้องแห่งแรกในกระบี่ แพงสุดคืนละ 1.5 แสน
บันยันทรี กระบี่ ออกแบบโรงแรมให้เป็น พูลวิลล่า “ทุกหลัง” รวม 72 ห้อง โดยห้องพักทั้งหมดมีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือส่วนตัวแห่งแรกของกระบี่ เริ่มตั้งแต่ ขนาด 99 ตร.ม. ราคา 21,235 บาท/คืน และแพงสุด Presidential Beachfront Pool Villa 3 ห้องนอน (พักได้ 6 คน) ขนาด 587 ตร.ม. ราคา 150,000 บาท/คืน
โดยส่วนของ วิลล่าแพงสุด มีออปชั่น สามารถจัดงานปาร์ตี้ ด้วยการขยายพื้นที่ไปยัง Beachfront Pool Villa ขนาด 2 ห้องนอน ราคา 81,000 บาท/คืน (พักได้ 4 คน) ซึ่งมี 2 วิลล่าที่อยู่ติดกันและมีทางเชื่อมเดินผ่านถึงกันได้ หากเข้าพักทั้ง 3 วิลล่า พร้อมกัน รวมเป็น 7 ห้องนอน พื้นที่กว่า 1,335 ตร.ม. รองรับแขกสูงสุดได้ 14 คน ราคารวม 312,000 บาทต่อคืน
5. Facilities จัดเต็มกระเช้าไฟฟ้า – จุดชมวิว Bird’s Nest
สิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities) ในโรงแรม ที่จัดว่าเป็นแห่งแรกในกระบี่ บริการกระเช้าไฟฟ้า (Electric Funicular) ริมขอบเขาที่จะขึ้นไปยัง ห้องอาหารแซฟฟรอน (Saffron Restaurant) ซิกเนเจอร์ของบันยันทรี มีบริการที่นั่ง เบิร์ด เนส (Bird’s Nest) ให้ประสบการณ์การรับประทานอาหาร ท่ามกลางธรรมชาติและจุดชมวิวทิวทัศน์ของชายหาดทับแขก ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมวิวพระอาทิตย์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในกระบี่
นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารนานาชาติเดอะ นากา คิชเช่น (The Naga Kitchen) และบาร์เกล็ดแก้วริมหาด (Kredkaew Bar) คลับสำหรับเด็กพร้อมสวนน้ำ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ ห้องประชุมสัมมนาเมืองมรกต เน้นกลุ่มผู้บริหารมาประชุมและพักผ่อน กลุ่มอินเซนทีฟ ประชุมบอร์ด ถือเป็น Niche Market ของกลุ่มประชุม อีกไฮไลต์ของบันยันทรี คือ สปาที่ตกแต่งด้วยบรรยากาศป่าฝนเขตร้อน 6 ห้อง และวารีบำบัด “เรน ฟอเรสท์”
รวมทั้งบริการ Banyan Tree Host บัทเลอร์ส่วนตัวคอยให้บริการในระหว่างการเข้าพัก หลังจากเช็คอิน แขกจะได้รับสมาร์ทโฟน Portier ซึ่งสามารถใช้โทรศัพท์ข้ามประเทศและบริการดาต้าแบบไม่จำกัด เพื่อติดต่อสื่อสารกับ Banyan Tree Host ในการใช้บริการต่าง ๆ ภายในโรงแรม ตั้งแต่การสั่งอาหารมาที่ห้องพัก จองโปรแกรมท่องเที่ยว รูมเซอร์วิส บริการซักรีดและบริการอื่น ๆ
จัดโปรโมชั่นวันธรรมดาลดราคา 50%
ช่วงเปิดตัว “บันยันทรี กระบี่” จัดโปรโมชั่น “วันธรรมดา” เข้าพักวันอาทิตย์-พฤหัสบดี จองห้องพักวันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2563 เข้าพักได้ถึง 30 เมษายน 2564 ลดราคาที่พัก 50%
โปรโมชั่นห้องแบบ ดีลักซ์ พูลสวีท ราคา 9,999 บาท/คืน (ปกติ 21,235 บาท) ดีลักซ์ การ์เดนท์ พูลสวีท ราคา 11,499 บาท (ปกติ 22,838 บาท) พรีเมี่ยม โอเชี่ยน พูลสวีท ราคา 12,999 บาท (ปกติ 24,440 บาท) โอเชี่ยน พูลสวีท 2 ห้องนอน ราคา 21,999 บาท (ปกติ 38,328 บาท) บีช ฟร้อน พูลวิลล่า ราคา 25,999 บาท (ปกติ 51,860 บาท) และ บีช ฟร้อน พูลวิลล่า 2 ห้องนอน ราคา 39,999 บาท (ปกติ 81,000 บาท)
บันยันทรี กระบี่ เป็นโรงแรมที่ AWC ออกแบบและวางตำแหน่ง Facilities ต่างๆ รวมทั้งห้องพัก ตามศาสตร์ฮวงจุ้ย มาพร้อมตัวเลขมงคล (Lucky Number) ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวน 72 ห้อง (7+2 เป็น 9 สื่อความหมายก้าวหน้า) หรือขนาดที่ดิน 26 (2+6 เป็น 8 กับความหมายว่า infinity) ผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกในสไตล์ลักชัวรี่รีสอร์ทให้กับผู้พักอาศัย ทั้งหมดยังตอบโจทย์ความยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตาม DNA ของบันยันทรีและ AWC