Donki ประเทศไทย คอนเฟิร์ม มี 20 สาขา ภายในปี 2568 กลางปีหน้า ได้เห็น สาขา 3 แน่ๆ

บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกเครือสหพัฒน์ และบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในความร่วมมือกันเป็นพันธมิตรร่วมทุน ตอกย้ำความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด” และปรับโฉมโลโก้ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น เตรียมรับการขยาย 20 สาขาทั่วประเทศในปี 2568 และพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตในเอเชีย

ปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นแบ่งเป็น  PPRMTH 60%, SAHA GROUP 22% และ TOAVH 18% ดองกิมีความโดดเด่นในด้านการเป็นศูนย์รวมสินค้าญี่ปุ่นโดยเฉพาะ และได้ทำสัญญาการลงทุนร่วมธุรกิจกับพันธมิตรในการจำหน่ายสินค้าอาหารและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่น ที่มีคุณภาพพร้อมด้วยบริการที่ดีที่สุด ทำให้ทุกคนนึกถึงชื่อของ ดอง ดอง ดองกิ เป็นอันดับต้นๆ

ดองกิ ผนึก 2 พันธมิตรใหญ่ สหพัฒน์ และบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด

“ดองกิ” ปีหน้าเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ถึงปี 2568 มี 20 สาขา

คุณโยซูเกะ ชิมานุกิ ประธานกรรมการ บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึง มูลค่ารวมของตลาดค้าปลีกของห้างดองกินั้นไม่เกิน 10% แต่เชื่อมั่นว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต เนื่องจากรูปแบบธุรกิจมีความเฉพาะเจาะจงยากต่อการเลียนแบบ ด้วยเอกลักษณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจึงทำให้มีมูลค่าสูง ด้านการดำเนินธุรกิจทางดองกิอยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกและมองหาสถานที่ที่ตอบโจทย์กับการเปิดสาขาใหม่ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และ ระยอง รวมถึงในส่วนของพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร หากมีห้างสรรพสินค้าใดที่ตอบโจทย์ในการขยายสาขาทางเราก็จะพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป

ซึ่งปัจจุบันคาดว่าจะขยายสาขาใหม่ 2 สาขาภายในปีหน้า และในอีก 5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าในการขยายสาขาไว้ที่จำนวน 20 สาขา โดยคาดการณ์ว่าจะเป็นการขยายสาขาในนามของดอง ดอง ดองกิ จำนวน 15 สาขา และเปิดธุรกิจรูปแบบใหม่อีกจำนวน 5 สาขา ในลำดับต่อไป

ทั้งนี้ คุณณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธานกลุ่ม TOAVH ยังได้กล่าวกับ BrandBuffet อีกว่า กลางปีหน้า ได้เห็นดองกิ สาขาที่ 3 แน่ๆ แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นที่ใด

 5 อันดับ สินค้าขายดีที่ “ดองกิ”

สำหรับในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาด้านจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลง รวมทั้งชาวไทยไม่สามารถเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นได้ เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตและการใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ลดการใช้จ่ายสินค้าที่ฟุ่มเฟือย ทั้งสินค้าเพื่อบริโภคและอุปโภค แต่ในทางกลับกันธุรกิจการจัดส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทาง “ดองกิ” จึงพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์กับลูกค้ามากขึ้น โดยรักษาคุณภาพอาหารที่ดีและราคาถูก ส่งตรงความอร่อยถึงมือลูกค้าด้วยความห่วงใยและใส่ใจต่อความปลอดภัย ซึ่งสินค้าขายดี 5 อันดับแรก ได้แก่ มันหวาน ซูชิ ขนมปังคิวามิ อิจิรันราเม็ง และพรมดินเบา (แผ่นเช็ดเท้า) ของแบรนด์ Jonetsu Kakaku (เฮาส์แบรนด์)

5 อันดับสินค้าขายดีของ “ดองกิ”

ลดราคาตลอดเดือนตุลาคม

ทางดองกิยังได้จัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดสูงสุด 20% ตลอดเดือนตุลาคมนี้ สำหรับสินค้าประเภทซูชิ และยังมีสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งยังได้สร้างสีสันในการช้อปปิ้งให้มีบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับสินค้าและบริการที่ครบวงจร เพื่อรับมือในช่วงนิวนอร์มอลและเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ นอกจากนี้ โปรโมชั่นดังกล่าวยังเป็นการแทนคำขอบคุณ และคืนกำไรให้ลูกค้าที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด

หลังจากเปลี่ยนชื่อและโลโก้อย่างเป็นทางการแล้ว บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงมีความเชื่อมั่น พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าและบริการที่ดี มีคุณภาพที่สุดตลอดไป