การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่เพียงแต่กระทบสุขภาพและการใช้ชีวิตในสังคม ยังส่งผลต่อเนื่องมาสู่การเลือกซื้อที่อยู่อาศัย คนส่วนใหญ่หันมาเลือกซื้อโครงการบ้านมากขึ้น เพราะต้องการใช้พื้นที่ของบ้านเพื่อทำงาน ตลาดบ้านจึงเติบโตมากขึ้น สวนกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่ความต้องการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมกลับชะลอตัวลดลงอย่างมาก
อีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดบ้านเติบโต คือ การอยู่อาศัยแบบ “หลายเจเนอเรชั่น” ตามสภาพสังคมและโครงสร้างประชากรของไทยในปัจจุบัน ซึ่งกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงต้องการที่อยู่อาศัยที่เป็น “บ้าน” เพราะมีพื้นที่มากพอในการรองรับกับการอยู่อาศัยด้วยกันของคนหลายรุ่น
แม้ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในแบบบ้านจะมีมากขึ้น แต่โครงการที่จะประสบความสำเร็จ ยังต้องประกอบไปด้วยปัจจัยสำคัญอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง ราคา และคุณภาพ นอกจากนี้ โครงการจะต้องมีจุดขาย ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ได้มากกว่าความต้องการพื้นฐานทั่วไป โดยเฉพาะการตอบโจทย์ในเรื่องของคุณภาพชีวิต ในการอยู่อาศัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต
หนึ่งในความต้องการของลูกค้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญของการส่งเสริมคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดี คือ การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวของบ้าน และโดยรอบโครงการ เพราะต้องยอมรับว่าการเจริญเติบโตของเมืองและระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทำให้พื้นที่ธรรมชาติลดน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัญหามลพิษหรือฝุ่น PM 2.5 ส่วนหนึ่งก็มาจากสาเหตุการเจริญเติบโตของเมืองและการทำลายสิ่งแวดล้อม รวมถึงพื้นที่สีเขียว
คนในยุคปัจจุบัน ที่ใช้ชีวิตอยู่กับอาคารสูง และการเจริญเติบโตของเมือง ซึ่งแวดล้อมไปด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ จึงแสวงหาความเป็นธรรมชาติ เพื่อมาสร้างพลังบวก เพิ่มคุณภาพการใช้ชีวิตและสุขภาพ เห็นได้จากช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปสัมผัสกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือแม้แต่ร้านคาเฟ่ต่าง ๆ ที่นำเอาความเป็นธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวมาออกแบบและตกแต่ง
COMO BOTANICA (โคโม่ โบทานิก้า) ออกแบบชีวิตให้ชิดธรรมชาติ
บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในดีเวลลอปเปอร์พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย หลากหลายทำเลและหลายรูปแบบ ได้รู้ถึงความต้องการและปัญหา (Pain point) ของลูกค้าเป็นอย่างดี ว่าต้องการมีคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดี ด้วยการอยู่กับธรรมชาติและพื้นที่สีเขียว จึงได้ออกแบบและพัฒนาโครงการ COMO BOTANICA (โคโม่ โบทานิก้า) ออกมารองรับกับความต้องการของคนยุคปัจจุบัน
คุณวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการอาวุโส บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารหนุ่มใหญ่ ที่ยังคงเข้าใจในความต้องการของคนในทุกวัย เข้าใจในบริบทที่เปลี่ยนไปของสังคม ได้เล่าว่า ยุคสมัยนี้จะสร้างบ้านแบบเดิมๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ไม่ได้แล้ว เพราะลูกค้าเริ่มมีความต้องการที่หลากหลายไปตามไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ดังนั้น อารียา ในปีนี้ เราจึงได้สร้างบ้านให้ตรงตาม Segment ของแต่ละกลุ่มลูกค้า จึงทำให้อารียายังสามารถเติบโตอย่างมั่นคงในแวดวงอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันก็ตาม
และในวันนี้ บ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของวิถีชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ถวิลหาธรรมชาติ ก็ได้ถูกรังสรรค์ขึ้น ภายในแบรนด์ COMO BOTANICA ได้ใช้แนวคิด Urban Botanical ด้วยการนำพืชป่าเมืองร้อนมาออกแบบไว้ในพื้นที่ของโครงการ และภายในตัวบ้านเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และอากาศบริสุทธิ์ ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยไม่ต้องออกไปแสวงหาจากภายนอก หรือต้องเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อให้ในทุก ๆ วันเป็นวันพักผ่อน ในคอนเซปต์ #ออกแบบชีวิตให้ชิดธรรมชาติ ซึ่งโครงการนี้ได้ถูกออกแบบและพัฒนาให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความชอบของกลุ่มเป้าหมาย
คอนเซปต์โครงการ คือ เราดีไซน์ ให้เข้ากับธรรมชาติ ดังแนวทางการดำเนินงานที่เน้น Sustainable Happiness มาโดยตลอด ซึ่งเราได้นำจุดนี้มาเป็นส่วนหนึ่งให้กับโครงการเพื่อให้ลูกบ้านที่ซื้อโครงการได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมโครงการที่ดี เพราะอารียาไม่ได้แค่ออกแบบบ้าน แต่เรายังออกแบบชีวิต ความเป็นอยู่ และสังคมอีกด้วย โดยได้มองเห็นถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ อายุ 30-42 ปี ซึ่งทำงานในเมือง แต่ชอบวิถีชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติ ชอบไปต่างจังหวัด เข้าร้านกาแฟที่ตกแต่งในสไตล์ต้นไม้เขียว ๆ มีความต้องการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ แม้ว่าจะต้องทำงานอยู่ในเมือง เพราะธรรมชาติทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้น มีพลังบวกในการใช้ชีวิตและการทำงาน ที่สำคัญการอยู่อาศัยในเมือง มักจะพบปัญหาเรื่องของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทำให้มีความต้องการอากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้น
“โครงการ COMO BOTANICA ออกแบบสไตล์ Urban Botanical ที่มีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่สีเขียวในบ้านได้อย่างลงตัว ให้ความเป็นบ้านใหญ่ในป่าเมืองร้อน แต่ผสมผสานฟังก์ชั่นการใช้สอยที่ทันสมัย สะดวกสบาย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง โดยไม่จำเป็นต้องออกไปนอกเมืองเพื่อหาธรรมชาติ เพราะเป็นบ้านที่คุณออกแบบชีวิตท่ามกลางธรรมชาติด้วยตัวเองได้”
3 ไฮไลท์แบรนด์ COMO BOTANICA
เพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของคนในยุคปัจจุบัน โครงการภายใต้แบรนด์ COMO BOTANICA จึงถูกคิดและพัฒนาออกมาด้วยจุดเด่นใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1. ทำเลที่ตั้ง ไพร์มโลเคชั่น
การเลือกพัฒนาโครงการของอารียา จะเน้นทำเลที่เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือการโดยสารด้วยรถสาธารณะ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการใกล้กับเส้นทางรถไฟฟ้า ทั้งสายที่เปิดให้บริการปัจจุบันและที่กำลังพัฒนาเกิดขึ้นในอนาคต โดย COMO BOTANICA สร้างอยู่บนพื้นที่กว่า 19 ไร่ ตอบรับกับความต้องการของครอบครัวเมืองยุคใหม่ บนทำเลทองใจกลางย่าน “หัวใจบางนา” ด้วยระยะทางที่ห่างจากห้างสรรพสินค้าเมกาบางนาเพียงห้านาที และ ห่างจากทางด่วนบางนา-ชลบุรีและทางด่วนวงแหวนรอบนอกเพียงสามนาทีเท่านั้น พร้อมเชื่อมโยงการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งรายล้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งใกล้แหล่งช็อปปิ้งดัง เช่น บางกอกมอลล์, Central Village, ใกล้โรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลปิยมินทร์, โรงพยาบาลไทยนครินทร์ และโรงพยาบาลศิครินทร์ และใกล้แหล่งการศึกษา เช่น โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ (Berkeley International School) และโรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรู (St. Andrew International School)
2. ฟังก์ชั่นการใช้งานของบ้าน
นอกจากนี้ การพัฒนาโครงการของอารียา เน้นให้ผู้อยู่อาศัยมีความสะดวกสบาย และตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคปัจจุบัน เช่น ตัวบ้านมีขนาดใหญ่ ด้วยขนาด 4 ห้องนอน รองรับกับการอยู่อาศัยร่วมกันของคนทุกเจเนอเรชั่น มีห้องอเนกประสงค์เพื่อการปรับใช้ได้ตามความต้องการ มีรูปแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย ทั้งบ้านแฝด บ้านเดี่ยว ภายในบ้านออกแบบให้มีความโปร่งโล่ง เพื่อให้การอยู่อาศัยรู้สึกสบายไม่อึดอัด เป็นต้น
ด้านการแบ่งสัดส่วนการออกแบบทั้งภายในและภายนอกบ้าน มีจุดแข็งชูจุดขายถึง 7 ประการ ประกอบด้วย
2.1 Modern Tropical สถาปัตยกรรมร่วมสมัยสไตล์เขตร้อน การออกแบบด้วยเส้นสายที่ดูเรียบง่าย การอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างลงตัว และคำนึงถึงสภาพภูมิอากาศ
2.2 Perfect Parking พื้นที่จอดรถ 2 คัน พร้อมหลังคาที่คลุมทั้งตัวรถ ไม่ต้องต่อเติม
2.3 Inside Out มีบานประตูกระจกขนาดใหญ่ และระเบียงที่กว้าง ช่วยเชื่อมพื้นที่ภายในและสวนภายนอก เพียงแค่เปิดประตูก็ได้เห็นวิวสวย ๆ สบายตาภายนอกแล้ว
2.4 Open Plan พื้นที่โล่งจากหน้าบ้านจรดหลังบ้าน ทำให้บ้านดูโปร่ง กระแสลมสามารถไหลผ่านได้สะดวก
2.5 Multi Purpose Function ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ปรับเปลี่ยนเป็นได้ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือห้องนอนผู้สูงอายุก็ได้
2.6 Connection Room ผนังกั้นห้องนอนหลังบ้าน ก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบาสามารถรื้อออก ปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยได้
2.7 Master Bedroom Full Span ห้องนอนใหญ่ ยาวเต็มหน้ากว้างของตัวบ้าน ช่วยรับแสงและลม
ในขณะที่โซนประตูหลักเข้าโครงการนอกจากจะดีไซน์ผสานผสานความหลากหลายของพืชพรรณต้นไม้กับตัวอาคารแล้ว ยังได้จัดตั้งระบบความปลอดภัยถึง 4 ชั้น มีพนักงานรักษาความปลอดภัยดูแล 24 ชั่วโมง พร้อมกล้องวงจรปิดดูแลรถเข้า-ออก มีไม้กระดกแยกทางเข้าของลูกบ้านและคนภายนอก และประตูเหล็กควบคุมผ่านบัตรและระบบอ่านบัตรระยะไกล
3. ออกแบบชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติในสังคม Zero Waste
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของโครงการ คือ การนำระบบ Zero waste มาจัดการขยะ เพื่อรักษาคุณภาพของสิ่งแวดล้อม และช่วยทำให้โลกนี้มีพื้นที่สีเขียวที่เยอะขึ้นเข้ากับคอนเซปต์ของโครงการ
ซึ่งนวัตกรรม Zero Waste นี้ อารียา ได้จัดให้ทุกๆ บ้านจะมีถังสำหรับจัดการขยะแบบบูรณาการ (integrated bin) ขณะที่ลูกบ้านยังสามารถจัดตารางการเก็บขยะรีไซเคิลได้ด้วยแอปพลิเคชัน “Recycle Time” ของอารียา ที่ทำให้ลูกค้าสามารถแปลงขยะให้มีมูลค่า ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มและบริหารจัดการโดยอารียา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านทุกหลังอีกด้วย
โดยโครงการ COMO BOTANICA เตรียมเปิด Pre-Sales ในวันที่ 14 พ.ย. นี้ กับราคาพิเศษเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท* บนสังคมส่วนตัวเพียง 108 ยูนิต สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับโครงการของ อารียา พรอพเพอร์ตี้ ได้ที่ https://bit.ly/3pgtgU3 หรือ Line : @Areeyahome หรือ โทร 1797