HomeDigitale-Conomy SEA 2020 กับ 10 ความเคลื่อนไหวในเศรษฐกิจดิจิทัล ใคร “รุ่ง-ร่วง-รอด”

e-Conomy SEA 2020 กับ 10 ความเคลื่อนไหวในเศรษฐกิจดิจิทัล ใคร “รุ่ง-ร่วง-รอด”

แชร์ :

google economy sea 2020

กูเกิล (Google), เทมาเส็ก (Temasek) และ Bain & Company เปิดงานวิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ e-Conomy SEA ประจำปี 2020 กับการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่มีประชากรรวมกัน 580 ล้านคน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สิ่งที่น่าสนใจจากรายงานฉบับนี้คือ การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปี 2020 จะมีมูลค่าแตะ 105,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือโต 5% จากปี 2019

google economy sea 2020 กูเกิล เศรษฐกิจดิจิทัล

สิ่งที่งานวิจัยนี้พบอีกด้วยก็คือ ในปี 2020 ปีเดียว มีกลุ่มผู้ใช้งานใหม่ (งานวิจัยเรียกว่า Digital Service Consumers) เพิ่มเข้ามาในเศรษฐกิจดิจิทัลมากถึง 40 ล้านคน ส่งผลให้ตัวเลขผู้ใช้งานรวมในปีนี้ก้าวขึ้นไปถึง 400 ล้านคน หรือคิดเป็น 70% ของประชากรใน 6 ประเทศ ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่รวดเร็วมาก

google economy sea 2020 กูเกิล เศรษฐกิจดิจิทัล

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่น่าสนใจจากรายงาน e-Conomy SEA 2020 ฉบับนี้อีกหลายข้อ ประกอบด้วย

1. การเติบโตส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม Non-Metro

Digital Service Consumers ที่เพิ่มขึ้นในประเทศอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ พบว่ามาจากกลุ่ม Non-Metro มีเพียงไทยและเวียดนามที่กลุ่ม Metro ยังมีสัดส่วนมากกว่า

google economy sea 2020

2. ธุรกิจได้ประโยชน์จากผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น

สำหรับประเทศไทย รายงาน e-Conomy SEA พบว่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับการศึกษา (Education), Food Delivery และ Lending คือ 3 ตลาดที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น

google economy sea 2020 กูเกิล เศรษฐกิจดิจิทัล

3. โลกดิจิทัลในระหว่างเจอ Covid-19

รายงานพบว่าผู้บริโภคมีการใช้เวลากับโลกออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยจากเดิมเคยใช้เวลาเฉลี่ยที่ 3.6 ชั่วโมงต่อวัน แต่ในช่วงล็อกดาวน์ พบว่าค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 4.7 ชั่วโมง และหลังช่วงล็อกดาวน์ก็ลดลงมาอยู่ที่ 4.2 ชั่วโมง

google economy sea 2020 กูเกิล เศรษฐกิจดิจิทัล

ส่วนสาเหตุที่ใช้งานดิจิทัลกันเพิ่มขึ้นนั้น หลัก ๆ น่าจะมาจากประโยชน์ที่ผู้ใช้งานได้รับ ได้แก่

  • เป็นตัวช่วยให้เข้าถึงสินค้าหรือบริการที่จำเป็น
  • ช่วยให้เข้าถึงสื่อการเรียนการสอน
  • ช่วยด้านความบันเทิง และทำให้รู้สึกเหมือนยังคงเชื่อมต่อกับเพื่อนฝูงคนอื่น ๆ
  • ช่วยด้านสุขภาพและความปลอดภัย
  • ช่วยให้ SME อยู่รอด

นอกจากนี้ กูเกิลยังพบว่า 9 ใน 10 ของผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะใช้บริการดิจิทัลเหล่านี้ต่อไปแม้ Covid-19 จะผ่านไปแล้วก็ตาม

4. ประเทศไทยอยู่อันดับที่เท่าไรในภูมิภาค

google economy sea 2020 กูเกิล เศรษฐกิจดิจิทัล

สำหรับประเทศไทย มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลอยู่ในอันดับ 2 รองจากอินโดนีเซีย ตามด้วยเวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์

โดยในทั้ง 6 ประเทศ สิงคโปร์ดูจะเป็นประเทศที่น่าเป็นห่วงไม่น้อย เพราะมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าการเติบโตจะถูกทิ้งห่างไปเรื่อย ๆ จนอาจกลายเป็นประเทศรั้งท้ายได้ในปี 2025

ส่วนประเทศที่จะขึ้นมาท้าทายอันดับ 2 ของไทยได้ในอนาคตก็คือเวียดนามนั่นเอง เพราะมีการคาดการณ์กันว่า ภายในปี 2025 เศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามจะมีมูลค่าถึง 52,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ไทยอยู่ที่ 53,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

5. ท่องเที่ยวออนไลน์ทรุด VS อีคอมเมิร์ซรุ่ง

ท่องเที่ยว ออนไลน์ online travel

ในบรรดาอุตสาหกรรมดิจิทัลที่การสำรวจชิ้นนี้ให้ความสนใจ พบว่า ธุรกิจ Online Travel ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยในปี 2020 มีการเติบโตลดลงถึง 58% จากเดิมเคยมีมูลค่า 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019 ลดลงเหลือ 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

ส่วนในประเทศไทย ธุรกิจ Online Travel เคยมีมูลค่าอยู่ที่ 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2019 ในปีนี้ก็ลดลงมาเหลือ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตลดลง 47%

ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับอานิสงส์ในช่วงนี้จึงมักเป็นทริปแบบสั้น ๆ ที่ผู้บริโภคสามารถขับรถไปได้ด้วยตัวเอง

ตรงข้ามกับอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างฉุดไม่อยู่ จากในภาพพบว่าในปี 2020 เติบโตขึ้นถึง 63% ทำให้มูลค่าของอุตสาหกรรมก้าวขึ้นไปแตะ 62,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีโอกาสที่จะโตไปจนถึง 172,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025 ด้วย (ภาพรวมของทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)

google economy sea 2020 ท่องเที่ยวออนไลน์

เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า 8 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่า พวกเขาจะซื้อของออนไลน์ต่อไป และพบว่าการสั่งซื้อเริ่มเน้นไปที่หมวดสินค้าจำเป็น อย่างเช่น สินค้าอุปโภคบริโภคด้วย

ส่วนในประเทศไทย คาดการณ์กันว่า มูลค่าของตลาดอีคอมเมิร์ซในปีนี้จะอยู่ที่ 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โตขึ้น 81% จากปี 2019 และอาจโตไปได้ถึง 24,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2025 เลยทีเดียว ซึ่งการลงทุนตั้งศูนย์บริหารจัดการคลังสินค้าขนาดยักษ์ของอาลีบาบาใน EEC อาจมีส่วนช่วยสนับสนุนตัวเลขนี้ด้วยก็เป็นได้

6. Car-Hailing อาจฟุบไปถึงกลางปี 2021

เพราะนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของธุรกิจ Car-Hailing ยังไม่สามารถเดินทางได้โดยสะดวก จึงมีความเป็นไปได้ว่า อุตสาหกรรมการเรียกรถผ่านแอปจะฟุบยาวไปจนถึงกลางปีหน้า ซึ่งในระหว่างนี้เราจะได้เห็นความพยายามผลักดันธุรกิจ Food Delivery ให้มีกำไรมากขึ้นเพื่อมาชดเชยรายได้จาก Car-Hailing ที่ขาดหายไป ยกตัวอย่างเช่น GrabFood ที่ให้สัมภาษณ์กับ Brandbuffet ว่าพยายามสร้าง Cloud Kitchen (บริษัทใช้ชื่อว่า GrabKitchen) เพิ่มในเขตกรุงเทพฯ ให้ได้ 5 แห่งภายในสิ้นปีนี้

google economy sea 2020 food delivery car hailing

สิ่งที่รายงานฉบับนี้กล่าวไว้เพิ่มเติมก็คือ หลังจากนี้ จะเป็นเวลาที่ธุรกิจต้องโฟกัสเรื่องการสร้างผลตอบแทน และพึ่งพาตัวเองให้ได้อย่างแท้จริง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยเติบโตมาได้ด้วยการนำเงินของนักลงทุนมาจัดโปรโมชันลดแลกแจกแถมกันอย่างมโหฬาร เพราะนักลงทุนจะเริ่มลงทุนอย่างระมัดระวังมากขึ้น หรือก็คือไม่ได้มีเงินให้ใช้จ่ายแบบมือเติบอีกแล้วนั่นเอง

7. เกมออนไลน์ – หนังสตรีมมิ่ง โต 20%

google economy sea 2020 online media

เรียกว่าเป็นยุคทองของบรรดาเกมออนไลน์ และคอนเทนต์สตรีมมิ่งทั้งหนังและเพลงอย่างแท้จริง กับการเติบโตที่ไปต่อได้เรื่อย ๆ ไม่มีอะไรมาขัดขวาง โดยในประเทศไทย คาดการณ์ว่าตลาด Online Media จะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้เลยทีเดียว

แต่ไม่เฉพาะเกม เพลง และหนังออนไลน์ ในแง่ของธุรกิจโฆษณาก็ได้รับอานิสงส์ด้วยเช่นกัน เพราะรายงานดังกล่าวพบว่า ธุรกิจ SME ที่ย้ายตัวเองขึ้นมาอยู่บนโลกดิจิทัล มีการควักเงินเพื่อซื้อโฆษณากันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งด้วย

8. บริการการเงินดิจิทัล (อาจ) โตเท่าตัวภายใน 5 ปี

google economy sea 2020 financial การเงิน

ผู้ทำวิจัย e-Conomy SEA 2020 พบว่า ผู้คนในภูมิภาคนี้เริ่มมีความคุ้นเคยกับการทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ทำให้มูลค่าการทำธุรกรรมทางการเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มจะเติบโตต่อไปดังภาพ

อีกทั้งการที่คนขึ้นมาอยู่บนโลกดิจิทัลกันมาก ๆ นั้นก็ทำให้เกิด Digital Footprint ซึ่งสถาบันการเงินที่มีการเก็บข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อนำเสนอสินเชื่อแบบ Personalized ได้ดียิ่งขึ้น จึงอาจเรียกได้ว่า บริการทางการเงินบนโลกดิจิทัลหลังจากนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปนั่นเอง

9. หนึ่งปีมียูนิคอร์นเพิ่มแค่ 1 ราย

google economy sea 2020 startup

จากรายงาน e-Conomy SEA 2019 ที่บอกไว้ว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มียูนิคอร์นแล้ว 11 ตัว ผ่านมาหนึ่งปี พบว่ามียูนิคอร์นเพิ่มมาแค่ตัวเดียว นั่นคือ VNPay จากเวียดนาม

ส่วนสถานการณ์ด้านเงินลงทุนที่ไหลเข้าภูมิภาคนั้นพบว่า เริ่มชะลอตัวลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงปี 2018 และการจะลงทุนในอนาคตก็อาจเกิดขึ้นได้ยาก เว้นแต่ในธุรกิจที่เห็นการเติบโตจริง ๆ เช่น กรณีที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ลงทุนใน Tokopedia อีมาร์เก็ตเพลสสัญชาติอินโดนีเซีย เมื่อไม่นานมานี้

google-tokopedia-investment

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ยูนิคอร์นทั้ง 12 ชีวิตอย่าง Bigo, Bukalapak, Gojek, Grab, Lazada, Razer, OVO, Sea Group, Traveloka, Tokopedia, VNG และ VNPay ต้องกอดคอกันให้เหนียวแน่นเข้าไว้

10. EdTech และ HealthTech สองตลาดที่ต้องจับตา

ปิดท้ายรายงานฉบับนี้กับสองตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง Pandemic นั่นคือ EdTech และ HealthTech 

โดยข้อมูลจาก AppAnnie พบว่า นักเรียนได้ปรับตัวเองไปสู่การเรียนผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้เกิดการเติบโตอย่างมากในธุรกิจนี้ แถม 70% ยังบอกว่าพอใจการเรียนผ่านแพลตฟอร์มเสียด้วย และมีถึง 33% ที่บอกว่าจะใช้ EdTech เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการศึกษาหาความรู้ในอนาคตต่อไป

google economy sea 2020 edtech

ที่สำคัญ แอปพลิเคชันอย่าง Google classroom เป็น 1 ใน Top 5 edtech app ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มียอดการติดตั้งเพิ่มขึ้นในปีนี้โดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์ด้วย

google economy sea 2020 healthtech

สิ่งที่รายงานดังกล่าวฝากเอาไว้ให้คิดก่อนจากกันคือเรื่องของทรัพยากรบุคคล ที่ประเทศไทยควรให้ความสำคัญ และเร่งสร้างคนขึ้นมาให้เพียงพอที่จะรับมือกับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่เช่นนั้นแล้ว การเติบโตที่กล่าวมาอาจต้องฝากไว้ในมือของสตาร์ทอัพจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนั่นหมายถึงเม็ดเงินที่จะไหลออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยนั่นเอง


แชร์ :

You may also like