บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ “ห้างเซ็นทรัล” “เอปสัน” และ“ออปโป้” เปิดตัว “House of Illumination” พื้นที่จัดแสดงงาน Digital • Art • Experience ศิลปะดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมเปิดโลกแห่งจินตนาการ สัมผัสประสบการณ์แบบ Immersive 360 องศา ด้วยอินเตอร์แอคทีฟสุดล้ำ! เต็มรูปแบบ บนพื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตร ตลอด 2 ปี เพื่อส่งเสริมให้เป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ดีเดย์เปิดให้เข้าชมวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ณ เซ็นทรัลแกลอรี ชั้น 8 ห้างเซ็นทรัล @ เซ็นทรัลเวิลด์
ที่มา House of Illumination
คุณเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ร่วมมือกับ “ห้างเซ็นทรัล”,“เอปสัน” และ”ออปโป้” ทุ่มทุนสร้างโปรเจคยักษ์แห่งปี “House of Illumination” จัดแสดงที่ เซ็นทรัลแกลอรี ชั้น 8 ห้างเซ็นทรัล @ เซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้แนวคิด Digital • Art • Experience มีการผสมผสานเรื่องของศิลปะ ดิจิทัล และเทคโนโลยีไว้ด้วยกัน โดยไม่ได้ตั้งเป้าแค่ดึงดูดเฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่ยังต้องการเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศจากทั่วโลกให้เข้ามาเที่ยว รวมทั้งพื้นที่แห่งนี้ ยังสามารถรองรับและเปิดให้เช่าพื้นที่สำหรับการจัดสัมมนา จัดอีเว้นต์ หรือกิจกรรมต่างๆได้ โดยเปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2563 ไปจนถึงตุลาคม 2565 ระยะเวลา 2 ปี ซึ่งมีการเปลี่ยนรูปแบบ แนวคิด และเนื้อหาการแสดงทุกๆ 3 เดือน เพื่อช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าตลอดการจัดงานจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 800,000 คน สร้างรายได้กว่า 300 ล้านบาท โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ร่วมเป็นประธานการแถลงข่าวและเปิดตัว “House of Illumination”
“แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ แต่ก็ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางภายในประเทศได้จากกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย (Expat) ซึ่งการจัดงาน “House of Illumination” ถือเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในพื้นที่กรุงเทพฯ และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อน ภายใต้มาตรฐานรักษาความสะอาดและความปลอดภัยระดับเวิลด์คลาส เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา กล่าว
House of Illumination มีอะไรบ้าง
House of Illumination แบ่งออกเป็น 8 ห้องจัดแสดงได้แก่
ห้องที่ 1: THE CUBE ดำดิ่งสู่ HOUSE OF ILLUMINATION ผ่านอุโมงค์ที่ประกอบจากโครงสร้าง LED Strip ที่พร้อมเปิดต้อนรับคุณเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ ไร้ขีดจำกัด
ห้องที่ 2: LASER CAGE วอร์มอัพจินตนาการในเขาวงกตแห่งแสง กับเทคนิคการสร้างขอบเขตพื้นที่ด้วย Laser Heads มากที่สุดถึง 600 ตัว
ห้องที่ 3 : SHINNING SYMPHONY มาเต้นรำไปพร้อมกับอินเทอร์แอคทีฟเลเซอร์ ในรูปแบบเครื่องดนตรี ให้คุณสามารถสร้างเสียงดนตรีได้ในแบบของคุณ
ห้องที่ 4: THE LEVITATION ล่องลอยท่ามกลางหมู่ดาวกับเทคนิคพิเศษที่พลิกพื้นดินสู่ห้วงอวกาศ ด้วยการวางกระจกในแนวเฉียง 45 องศา
ห้องที่ 5: THE GLOWING SCULPTURE ต่อยอดจินตนาการระดับพิกเซลด้วยการสร้างรูปปั้นจากแสงโดยเทคนิค 3D LED Pixel
ห้องที่ 6: THE INFINITE TUNNEL ตื่นตาตื่นใจไปกับอุโมงค์
ห้องที่ 8: THE BOUNDLESS ดื่มด่ำในบรรยากาศ แห่งศิลปะดิจิทัลและเทคโนโลยีการแสดงแสง ที่จะปลดล็อคคุณสู่โลกแห่งจิ
และพิเศษสุดกับ LIGHT NEST ที่จะพาคุณเพลิดเพลินไปกับอิ
กลุ่มเป้าหมายคนไทยต้องถ่ายรูปสวย
คุณเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน เล่าให้ BrandBuffet ฟังถึงเบื้องหลังของ House of Illumination แห่งนี้ว่า
“เกิดขึ้นปลายปีที่แล้วที่คิดว่าทำไมประเทศไทยถึงไม่มีพิพิธภัณฑ์ที่เป็นโลกของดิจิทัลจริงๆ เราก็เลยไปศึกษาเทคโนโลยีต่างๆ ที่สามารถใส่ลายเซ็นความเป็นตัวตนในแบบของเราเข้าไปในการจัดแสดง ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบเลเซอร์มากเป็นพิเศษ และเท่าที่เราดูตอนนี้ยังไม่มีที่ใครใช้โดดเด่นขนาดนี้”
“เราเริ่มคุยกับเซ็นทรัลตอนมี Covid-19 แล้ว ดังนั้น และจริงๆ เซ็นทรัลเวิลด์นี่ลูกค้า 70% เป็นคนไทย 30% เป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นเราคำนวณทุกอย่างแบบนักท่องเที่ยวเป็นศูนย์เลย การสื่อสารตลาดทุกอย่างเราจึงทุ่มไปที่ทางคนไทยเป็นหลัก ส่วนคอนเทนท์ที่ทำเป็น Universal อยู่แล้วไม่แตกต่าง”
จากแนวคิดดังกล่าวนำมาสู่การศึกษา “โลเคชั่น” และ “ราคา” ซึ่ง Index Creative Village ใช้ดาต้ามาเป็นพื้นฐานจนพบว่า “ใจกลางเมือง” ยังไงก็โดนใจมากที่สุด และนำมาสู่การเจรจากับเจ้าของพื้นที่อย่าง “ห้างเซ็นทรัล” และเป็นที่มาของ House of Illumination ที่ชั้น 8 ของเซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนราคา 350 บาท ซึ่ง “คนไทย” จ่ายไหว ไม่คิดมาก นั่นมาจากการสำรวจราคาของสถานที่จัดแสดงในลักษณะเดียวกัน ว่าต้องราคาเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม และมีจุดคุ้มทุน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็น “คนไทย” ซึ่งเป็นที่มาของอินไซต์ที่ชัดเจนว่า “ต้องถ่ายรูปสวย”
โดยหวังว่าการลงทุนกว่า 80 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น ฮาร์ดแวร์ 60 ล้านบาท ส่วนอีก 20 ล้านบาทเป็นงบด้านการสื่อสารการตลาดและเปลี่ยนคอนเทนท์ทุก 3 เดือน ทั้งหมดจะจัดแสดง 2 ปี ทดแทนรายได้จากธุรกิจอีเว้นท์ที่คุณเกรียงกานต์เล่าว่า “รายได้เราหายไปพันล้าน ในต่างประเทศปีนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์เลย ในประเทศเราก็คาดหวังว่าไตรมาส 4 จะกลับมา จากมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ลอยกระทง เคานต์ดาวน์
ทำเล – เทคโนโลยี – คอนเทนต์ หัวใจสำคัญ
จากแนวคิดทั้งหมด นำมาสู่การจับมือกับพันธมิตร ทั้งในส่วนของ “สถานที่” อย่างเซ็นทรัล และ “เทคโนโลยี” จากเอปสัน
คุณรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวถึง การสนับสนุนการจัดงาน House Of Illumination ว่า “ห้างเซ็นทรัล มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดงาน House of Illumination โดยได้ร่วมมือกับอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ เพื่อช่วยสร้างสีสันความสนุก ตื่นเต้น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้แก่ลูกค้าทุกท่านทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกของเมืองไทยอย่างแท้จริง ด้วยความพร้อมของโลเคชั่น บนชั้น 8 ห้างเซ็นทรัล @ เซ็นทรัลเวิลด์ ที่สุดแห่งห้างไลฟ์สไตล์ของไทย ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพบนทำเลทองย่านราชประสงค์ ซึ่งถือเป็น Strategic Location เป็นย่านเศรษฐกิจของไทย และเป็นเดสติเนชั่นของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงมีความพร้อมต้อนรับทุกท่าน ให้สามารถเดินทางมาชื่นชมศิลปะ มาเช็คอิน แฮงค์เอาท์ พบปะสังสรรค์กันได้อย่างมีความสุข พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับสินค้าทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลกกว่า 3,000 แบรนด์ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่มทุกวัย และสอดคล้องกับนโยบายของห้างเซ็นทรัล ที่พร้อมเป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของทุกคน”
ด้านคุณยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอปสันมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัด House of Illumination ในครั้งนี้ โดยได้นำเลเซอร์โปรเจคเตอร์มาผสาน กับเทคนิค Projection Mapping เพื่อฉายดิจิทัลคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์โดยอินเด็กซ์ฯ ลงบนฉากการแสดงในห้องต่างๆ ภายในพื้นที่จัดแสดง โดยเลเซอร์โปรเจคเตอร์ทั้ง 18 เครื่องของเอปสันที่ใช้ภายในงานจะครอบคลุมการฉายทั้งระยะสั้น และระยะไกล รองรับการฉายภาพที่มีความละเอียดและคุณภาพสูงระดับ 4K และสามารถใช้งานติดต่อกันโดยไม่ต้องบำรุงรักษานานถึง 20,000 ชั่วโมง จึงรองรับการจัดแสดงระยะเวลา 2 ปี ของ House of Illumination ได้อย่างไร้ปัญหา บริษัทฯ มั่นใจว่าด้วยเทคโนโลยีโปรเจคเตอร์ชั้นสูง จนได้รับความเชื่อถือและมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของโลกมายาวนานกว่า 19 ปี และได้รับความไว้วางใจให้ในการใช้งานที่ DIGITAL ART MUSEUM : Team Lab Borderless ที่กรุงโตเกียวของเอปสัน จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ และเพิ่มอรรถรสในการรับชม House of Illumination ในครั้งนี้ให้น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน
เตรียมพบกับความอลังการเหล่านี้ได้ที่งาน House of Illumination ศิลปะดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ เซ็นทรัลแกลอรี ชั้น 8 ห้างเซ็นทรัล @ เซ็นทรัลเวิลด์ เริ่มจัดแสดงวันที่ 28 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป บัตรผู้ใหญ่ 350บาท, บัตรนักเรียน นักศึกษา ราคา 300 บาท และบัตรเด็ก (สูงไม่เกิน 130 ซม.) ราคา 250 บาท ซื้อบัตรได้ที่หน้างาน หรือซื้อบัตรออนไลน์ได้ที่ https://www.houseofillumination.com สอบถามเพิ่มเติมโทร 065-956-0170 ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook: House of Illumination