สิ่งที่ยืนยันคำพูดของ “เฮียฮ้อ” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ผู้ก่อตั้ง RS ผู้ที่ไม่ยอมถูก Disrupt และปรับตัวเองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ ก็คงเป็นตัวเลขผลประกอบการ ปี 2563 ท่ามกลางหลายอุตสาหกรรมกระทบหนักจากโควิด-19 แต่ธุรกิจพาณิชย์ ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2 ไตรมาสติดกัน นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปี 2558
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 2563 ยังหดตัวในหลายธุรกิจ แต่มีทิศทางดีขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด จากการปรับตัวของ RS Group ด้วยการบริหารคอนเทนท์และฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจพาณิชย์ ทำให้ผลประกอบการ งวดไตรมาส 3 ปี 2563 มีรายได้รวม 938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% มีกำไรสุทธิ 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากธุรกิจพาณิชย์ทำรายได้ New High และอัตราทำกำไรขั้นต้น 51.6% สูงกว่าจากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 44.5%
ธุรกิจพาณิชย์ New High อีกแล้ว
ปัจจุบันอาร์เอส มีรายได้จากธุรกิจพาณิชย์ 68% มาจากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด และสินค้าจากพันธมิตร จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม RS Mall และ COOLanything ทีวีดิจิทัล ช่อง 8 ทีวีดาวเทียม วิทยุ และสื่อออนไลน์ และร้านค้าปลีกโมเดิร์น เทรด ทั่วประเทศ รวมทั้งร่วมมือกับทีวีดิจิทัลช่องพันธมิตรรายอื่นๆ เพื่อขยายช่องทางจัดจำหน่าย
ไตรมาส 3 ปีนี้ ธุรกิจพาณิชย์ มีรายได้ 643 ล้านบาท เติบโต 45% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจพาณิชย์ในปี 2558 เป็นต้นมา เป็นการทำรายได้ New High 2 ไตรมาสติดกันในปีนี้ แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจไทยยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด แต่การขยายช่องทางขายได้เพิ่ม ทำให้ปัจจุบันมีฐานลูกค้า 1.5 ล้านราย จากการใช้ระบบ Predictive Dialing System (PDS) ทำให้พนักงานเทเลเซลล์ สามารถติดต่อลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ใช้ดาต้าวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอขายสินค้าได้แม่นยำขึ้น
ธุรกิจสื่อ-เพลง เริ่มฟื้นหลังปลดล็อกดาวน์
ส่วนธุรกิจสื่อ ธุรกิจเพลง และอื่นๆ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ การใช้งบโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
รายได้ธุรกิจสื่อ ไตรมาส 3 ปีนี้ อยู่ที่ 255 ล้านบาท ลดลง 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 15.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า การลดลงของรายได้ธุรกิจสื่อเป็นไปตามอุตสาหกรรมสื่อที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะการแข่งขันด้านราคาและการหดตัวของงบโฆษณาจากผลกระทบโควิด-19 อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มดีขึ้นจากจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 โดยปรับตัวทั้งด้านการขายและการบริการคอนเทนท์เพื่อขยายไปในตลาดต่างประเทศและบนแพลตฟอร์มออนไลน์ (OTT)
ภาพรวมงบโฆษณาธุรกิจสื่อทีวีดิจิทัลในไตรมาส 3 ยังได้รับผลกระทบจากโควิด ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง โดยงบโฆษณาผ่านสื่อทีวีดิจิทัลเดือนกันยายน ลดลง 5.1% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้น 23.3% จากเดือนมิถุนายน สำหรับช่อง 8 เรตติ้งดีขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เป็นต้นมา ทำให้บริหารนาทีโฆษณาได้เพิ่มขึ้น จากการนำมาโฆษณาและขายสินค้าธุรกิจพาณิชย์ของอาร์เอส
ธุรกิจวิทยุ ภาพรวมโฆษณายังหดตัว 28.6% แต่ COOLfarenheit ยังคงได้รับความนิยมอันดับ 1 ของกลุ่มเพลง Easy Listening และเริ่มกลับมาทำกิจกรรมสำหรับผู้ฟังได้อีกครั้ง ทั้ง COOL Outing และ อิ๊งค์ Eat All Around หลังจากต้องเลื่อนออกไปจากสถานการณ์โควิด โดยไตรมาส 3 วิทยุยังมีรายได้ลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้น 51.7% เมื่อเทียบไตรมาส 2 ปีนี้
ธุรกิจเพลงและอื่นๆ ไตรมาส 3 มีรายได้ 39.5 ล้านบาท ลดลง 77% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้หลักธุรกิจเพลง มาจากการฟังผ่านออนไลน์ การบริหารลิขสิทธิ์เพลงผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ หลังปลดล็อกดาวน์สถานประกอบการต่างๆ เริ่มกลับมาจัดกิจกรรม ทำให้รายได้จากการบริหารศิลปินและลิขสิทธิ์เพลงเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากไตรมาส 2
ช่วงปลายปีนี้ธุรกิจเพลง เตรียมแผนเปิดตัวศิลปินใหม่ เพื่อต่อยอดสู่การดำเนินงานรูปแบบ Star Commerce ร่วมกับธุรกิจพาณิชย์ในปี 2564
คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าอาร์เอส ดำเนินธุรกิจภายใต้โมเดล Entertainmerce ขยายฐานให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกแพลตฟอร์ม ในไตรมาส 4 นี้ จะยังคงเห็นแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นทั้งช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยมีผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ๆ ออกมาทำตลาดแมสมากขึ้น
“กลยุทธ์ของทุกกลุ่มธุรกิจภายใต้โมเดล Entertainmerce ช่วยสร้างรายได้ทั้ง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาเติบโตก้าวกระโดด แม้ต้องเผชิญภาวะที่ยากลำบากจากโควิด เป็นการยืนยันว่า อาร์เอส สามารถดึงศักยภาพจากความเชี่ยวชาญของแต่ละกลุ่มธุรกิจมาใช้ได้อย่างเต็มที่ คาดว่ารายได้ภายในสิ้นปี 2563 จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้”