ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาวะชะลอตัวลงอย่างมาก จากผลกระทบในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ LTV ซึ่งออกมาบังคับใช้ ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งไทยและทั่วโลก การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่าตลาดอสังหาฯ จะเจอปัจจัยลบรอบด้าน แต่หากมองปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ ตลาดอสังหาฯ ไทยยังมีความมั่นคง และมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ในอนาคต หากมองในประเด็นการลงทุน จะเห็นว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาฯ ไทยให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงมากกว่าการนำเงินไปฝากสถาบันการเงิน และยังมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นด้วยซ้ำ เพียงแต่ต้องเลือกอสังหาฯ ที่ใช่ ในเรื่องของทำเลที่ตั้ง รูปแบบการพัฒนา และชื่อเสียงของแบรนด์ให้ถูกต้อง
รูปแบบการลงทุนในตลาดอสังหาฯ ที่นิยมกันในปัจจุบัน คือ การเลือกซื้ออสังหาฯ มาทำกำไรส่วนต่าง จากราคาอสังหาฯ และราคาที่ดินซึ่งปรับเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็เลือกซื้อมาเพื่อปล่อยเช่า ได้ผลตอบแทนจากค่าเช่า ซึ่งนอกเหนือจากการลงทุนใน 2 รูปแบบดังกล่าวแล้ว ยังมีรูปแบบการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีไม่แพ้กัน แถมบางโครงการยังได้ผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์มากกว่าด้วย นั่นคือ การลงทุนในโครงการ Branded Residence
ทำไม บิ๊กอสังหาฯ สั่งลุย Branded Residence ?
ตลาดอสังหาฯ ไทย ในระยะหลัง ๆ เริ่มมีดีเวลลอปเปอร์หันมาพัฒนาโครงการในรูปแบบ Branded Residence มากขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบพัฒนาโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างดีเวลลอปเปอร์ กับเจ้าของแบรนด์สินค้าหรือบริการ เพื่อทำให้โครงการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น จากแบรนด์ที่มาร่วมกับดีเวลลอปเปอร์พัฒนาโครงการ อย่างเช่น แบรนด์โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่เข้ามาร่วมในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม โครงการนั้นก็จะต้องมีการออกแบบ การพัฒนา รวมถึงการดูแลลูกบ้าน ตามมาตรฐานของแบรนด์โรงแรม 5 ดาวนั้น ๆ ทำให้โครงการรูปแบบ Branded Residence มีมาตรฐานการพักอาศัยเช่นเดียวกันโรงแรม 5 ดาว ต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมทั่วไป ที่แม้ว่าจะเป็นโครงการระดับลักชัวรี่ แต่มาตรฐานการออกแบบ หรือการดูแลลูกบ้าน อยู่ภายใต้การดูแลของดีเวลลอปเปอร์รายนั้น
โดยจุดเด่นที่ทำให้ดีเวลลอปเปอร์เลือกจะพัฒนาโครงการในรูปแบบ Branded Residence ประกอบด้วย 6 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1. โครงการถูกพัฒนาตามมาตรฐานของแบรนด์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพวัสดุ ลักษณะของโครงการ การออกแบบ และการดีไซน์ ต้องสอดคล้องและไปในทิศทางเดียวกับแบรนด์ที่มาร่วมกันพัฒนาโครงการ Branded Residence ทำให้โครงการได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
2. โครงการ Branded Residence ถือเป็นทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้า ที่ต้องการเป็นเจ้าของห้องชุดที่มีการบริการภายใต้มาตรฐานโรงแรมของแบรนด์ชั้นนำ ทำให้ผู้พักอาศัยมีความสะดวกสบาย เหมือนกับการเข้าพักในโรงแรมของแบรนด์นั้น ๆ
3. โครงการมีมูลค่าเพิ่ม (Value Added) มากกว่าโครงการทั่วไป เพราะได้รับการดูแล และบริหารอาคารภายใต้มาตรฐานของแบรนด์ชั้นนำนั้น ทำให้ตัวอาคาร และพื้นที่ส่วนกลางมีสภาพที่ดีอยู่เสมอ ราคาจึงสูงขึ้นในอนาคต
4. ผลตอบแทนจากการลงทุนปล่อยเช่า (Rental Yield) ได้ในราคาที่สูงกว่าปกติ เพราะโครงการมีมาตรฐานการบริหารอาคาร การดูแลพื้นที่ส่วนกลาง และการให้บริการกับผู้พักอาศัย ตามมาตรฐานของแบรนด์ เหมือนพักโรงแรม 5 ดาว ซึ่งกลุ่มลูกค้ามาเช่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับที่มีกำลังซื้อสูง
5. โอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการ (Capital Gain) ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะนอกจากโครงการจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จากแบรนด์ที่มาบริหารแล้ว ส่วนใหญ่โครงการ Branded Residence มักจะพัฒนาบนทำเล Prime Location ซึ่งราคาที่ดินจึงสูงกว่าทำเลทั่วไป และที่ดินในทำเลศักยภาพสูงย่อมมีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าทำเลทั่วไป
6. ผู้ซื้อห้องชุดภายในโครงการ มักจะได้รับสิทธิพิเศษ หรือบริการพิเศษจาก Branded Residence ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ บางโครงการเป็นการซื้อห้องชุดเพื่อได้รับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า แต่ขณะเดียวกันผู้ซื้อยังมีสิทธิในการเข้าพักตามจำนวนที่โครงการกำหนด เช่น 14 วันต่อปี หรือ ได้รับส่วนลดราคาพิเศษในการเข้าพัก รวมถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมาย เป็นต้น
4 โปรเจกต์ Siamese Asset x Wyndham
หนึ่งในบรรดาดีเวลลอปเปอร์ที่เข้ามาพัฒนาโครงการในรูปแบบ Branded Residence คือ Siamese Asset (ไซมิส แอสเสท) แม้ว่าจะเป็นบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้นพัฒนาโครงการต่าง ๆ มาเมื่อปี 2553 ระยะเวลาการดำเนินธุรกิจอาจจะไม่มากนักเมื่อเทียบหลายบริษัท แต่หากวัดประสบการณ์ของผู้บริหารและผู้ก่อตั้งอย่าง คุณขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานและกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ถือว่าคลุกคลีและมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาฯ มายาวนานมากกว่า 30 ปี มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการมามากมาย และบริษัทได้รับการยอมรับจนได้รับรางวัลต่าง ๆ แบรนด์ Siamese Asset มีจุดแข็งในเรื่องของคุณภาพงานก่อสร้างจากทีมงานวิศวกรและฝ่ายออกแบบที่มีประสบการณ์ทำให้สามารถพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่ากว่าคู่แข่ง 15 – 20%
นอกจากนี้ คุณขจรศิษฐ์ ยังมีแนวคิดในการพัฒนาที่เล็งเห็นถึงคุณค่าการบริการแบบโรงแรมที่ให้กับลูกค้าให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากกว่าในราคาที่จับต้องได้ ภายใต้สโลแกน “Asset of Life” ที่มีความหมาย ว่าอสังหาริมทรัพย์ของเราเป็นสินทรัพย์ที่จะเพิ่มมูลค่าในอนาคต ด้วยที่ดินที่สวย Location ที่ดี ทำเลเป็นที่ต้องการ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย จึงเป็นสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ไม่ว่าจะค่าเช่าหรือขายต่อในอนาคต และยังสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งทางด้านการลงทุนทั้งระยะสั้น และระยะยาว ถือเป็นที่อยู่อาศัยที่สามารถส่งต่อให้ลูกหลาน และครอบครัวได้ดี ทำให้ที่ผ่านมาหลาย ๆ โครงการของ Siamese Asset ได้รับการตอบรับที่ดีมากทั้งลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย และลูกค้าที่ซื้อเพื่อการลงทุน
ด้วยวิสัยทัศน์ดังกล่าว Siamese Asset จึงได้ต่อยอดและพัฒนาธุรกิจมาในรูปแบบ Branded Residence ที่มีการดูแลส่วนกลาง และมีเซอร์วิส ในรูปแบบโรงแรมระดับ 5 ดาว โดย Siamese Asset ได้จับมือกับเเบรนด์โรงแรมที่มีมาตรฐานระดับโลกหลากหลายแบรนด์ เช่น Wyndham, Ramada , Cassia by BanyanTree และ Crowne Plaza by IHG เป็นต้น เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยของไลฟ์สไตล์แบบ New Normal รวมถึงเป็นการยกระดับมาตรฐานการบริการต่าง ๆให้อยู่ในระดับ International ตามมาตรฐานที่สูงของเเบรนด์นั้น ๆ เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะอยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนก็ตาม
โดย Siamese Asset ได้ร่วมทุนกับ บริษัท Kew Green เพื่อจับมือกับแบรนด์โรงแรมชั้นนำ อย่าง Wyndham Hotel Group ซึ่งเป็นเครือโรงแรมจากสหรัฐอเมริกา ถือเป็นหนึ่งในเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีมากกว่า 9,300 โรงแรมในกว่า 90 ประเทศ ซึ่งแบรนด์ Wyndham ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ระดับ 5 ดาว และยังมีโรงแรมในเครืออีกกว่า 20 แบรนด์ที่ตอบโจทย์ทุก Lifestyle ของลูกค้า การันตีได้ถึงคุณภาพของการให้บริการต่าง ๆ ของโรงแรม ด้วยการบริหารการเช่าที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้
จึงเป็นการจับมือกันระหว่างแบรนด์อสังหาฯ ระดับคุณภาพของไทยและโรงแรมระดับโลก ที่ร่วมกันพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวใหม่ Branded Residence ในราคาที่คนไทยจับต้องได้ โดยนำร่อง 4 โครงการ ในทำเลย่านใจกลางเมือง ได้แก่
1.Wyndham Residence Bangkok (Sukhumvit 16, เชื่อมซอยไผ่สิงโต) คอนโดมิเนียมที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง A49 บนนิยามของคำว่า Timeless โลเคชั่นติดกับรถไฟฟ้าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในระยะ 50 เมตร พร้อมวิวสวนเบญจกิติ และคุ้งแม่น้ำบางกระเจ้า เริ่มต้น 17x,xxx บาทต่อตร.ม.*
2.Wyndham Garden Residence (Sukhumvit 42) คอนโดมิเนียมที่ออกแบบสไตล์ Japanese-Zen โลเคชั่นใจกลางเอกมัย เพียง 300 เมตรจากรถไฟฟ้าเอกมัย เริ่มต้น 15x,xxx บาทต่อตร.ม.*
3.Ramada Plaza Residence (Sukhumvit 48) คอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดบนถนนสุขุมวิท มีความสูงสง่าถึง 196 เมตร เทียบเท่าสระว่ายน้ำโอลิมปิคถึง 4 สระต่อกัน จึงทำให้ได้ทัศนียภาพของทั้งแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวเมืองที่สวยงามที่สุด พร้อมห้องเพดานสูง 4.4 เมตร ตั้งอยู่ห่างจาก BTS อ่อนนุชเพียง 350 เมตร เริ่มต้น 11x,xxx บาทต่อตร.ม.*
4.Ramada Residence Bangkok (Sukhumvit 87) คอนโดมิเดียมสไตล์ สแกนดิเนเวียน เรียบง่ายแต่หรูหรา ผสมผสานกับพื้นที่สีเขียวพร้อมทัศนียภาพของทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา และห้องพักอาศัยเพดานสูง 4.4 เมตร ติดถนนสุขุมวิทห่างจาก BTS อ่อนนุชเพียง 350 เมตร เริ่มต้น 10x,xxx บาทต่อตร.ม.*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ภาพประกอบจากโครงการ Wyndham Residence Bangkok
ภาพประกอบจากโครงการ Wyndham Garden Residence
ภาพประกอบจากโครงการ Ramada Plaza Residence
ภาพประกอบจากโครงการ Ramada Residence Bangkok
Branded Residence ที่สุดแห่งการอยู่อาศัยมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว และคุ้มการลงทุน
Branded Residence ของ Siamese Asset จะแตกต่างจากคอนโดมิเนียมทั่วไป คือ การได้รับบริการตามมาตรฐาน Wyndham และการอัพเกรดการบริหารอาคาร จากรูปแบบปกติมาเป็น Branded Residence โดยมีเชนโรงแรมเข้ามาช่วยบริหารอาคารให้กับนิติบุคคล โดยที่ Siamese Asset ไม่คิดค่าส่วนกลางเพิ่ม (ในระยะเวลาที่กำหนด) ทำให้ผู้พักอาศัยได้รับการ Service ต่าง ๆ จากทางโรงแรมเพิ่มเข้ามา ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการนั้น ๆ และสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบายได้ดียิ่งขึ้นด้วย
ขณะที่กลุ่มนักลงทุน Siamese Asset มีการแยกชั้นพักอาศัยสำหรับคนซื้อเพื่ออยู่เอง และคนที่ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า รวมไปถึงการแยกพื้นที่ส่วนกลาง หมดปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกค้าที่พักอาศัย และลูกค้าที่เป็นลูกค้าโรงแรม อย่างสิ้นเชิง แต่ลูกค้าที่พักอาศัยได้รับบริการแบบมาตรฐานระดับโลกของโรงแรม และสิทธิพิเศษในการรับบริการจากแบรนด์โรงแรมในเครือทั่วโลกอีกด้วย ได้แก่
Exclusive Services อาทิ Personal Concierge Service – พนักงานอำนวยความสะดวกส่วนบุคคล ที่เชี่ยวชาญด้านการบริการในทุกด้าน Exclusive Juristic Person -ทีมบริหารจัดการและดูแลที่พักอาศัยระดับโรงแรม 5 ดาว Room Service – ทีมบริการดูแลห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด บริการซักรีด บริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงบริการดูแลความเรียบร้อยของที่พักอาศัย เป็นต้น
Exclusive Facilities ของแต่ละโครงการ อาทิ Business Center – ประกอบด้วยห้องสัมมนาและสังสรรค์ เพื่อรองรับการประชุมและทุกงาน Event สำคัญ Exclusive Sky Club – Club ที่บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยทัศนียภาพมุมสูงของสวนเบญจกิติและวิวคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา*
Exclusive Privileges อาทิ อัพเกรด Wyndham Rewards เป็น Gold Member ฟรี– สำหรับนำไปแลกรับสิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการแลกคะแนนสะสมเพื่อเข้าพักโรงแรมในเครือ Wyndham กว่า 9,000 สาขาทั่วโลก ส่วนลดพิเศษสำหรับการเข้าพัก และกิจกรรมต่าง ๆมากมาย
นอกจาก Branded Residence ทั้ง 4 โครงการดังกล่าว Siamese Asset ยังวางแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพเพื่อคนไทย ในราคาที่จับต้องได้ และเป็นทรัพย์สินที่จะเพิ่มมูลค่าต่อ ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาโครงการมา 20 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียม 16 โครงการ บ้านจัดสรร ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ 4 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 45,000 ล้านบาท และมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 62% ต่อปี
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ชมตัวอย่างได้ที่นี่ :
สำหรับการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่ม Luxury ครั้งนี้ได้ดึง “แต้ว ณฐพร” นางเอกตัวท๊อป มาช่วยนำเสนอและให้เห็นภาพมาตรฐาน ความครบครัน และ ความพิเศษ ของโปรเจกต์นี้ ด้วยวีธีการรีวิวชีวิตหนึ่งวันของแต้วในคอนโดแห่งนี้ ที่เพียบพร้อมทั้งบริการ Full Service และ เด่นด้วยโลเลคชั่น ราวกับอยู่โรงแรม 5 ดาว จึงทำให้แต้วกลายเป็นดั่งเจ้าหญิงในทุกวัน
สนใจสอบถามรายละเอียดโครงการ
Website : https://bit.ly/3jRKvrB
สนใจลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดขายหุ้น IPO ของ Siamese Asset
คลิ๊ก : www.iposiameseasset.com
เบอร์โทร : 1306
Line@ : https://lin.ee/hfYc1f7
หรือ @siameseassetcorp (มี @)
#BrandedResidence #SiameseAsset #AssetofLife #SABrandedResidence #WyndhamResidenceBangkok #WyndhamGardenBangkok #RamadaPlazaResidence #RamadaResidenceBangkok