เครื่องมือการตลาด Influencer Marketing เป็นเทรนด์ที่เติบโตมาต่อเนื่อง จากการสร้างคอนเทนท์ “รีวิว” สินค้า ตอบสนองการหาข้อมูลก่อนซื้อ ปัจจุบันแบรนด์มีโจทย์มากกว่าการสื่อสาร แต่ต้องการสร้างยอดขายไปในคราวเดียว “อินฟลูเอนเซอร์” จึงต้องอัพเลเวล แค่หน้าที่รีวิวไม่พอ แต่ต้อง “เชียร์” ให้ซื้อ ช่วยแบรนด์ปิดการขาย ในยุค “อินฟลูเอนเซอร์ อีคอมเมิร์ซ”
ปัจจุบัน “อีคอมเมิร์ซ” กลายเป็นช่องทางหลักขายสินค้า ในยุคที่ประชากรทุกวัยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ในวงกว้าง โซเชียลมีเดียต่างๆ จึงกลายเป็นแพลตฟอร์ม “ขายของ” ทุกรูปแบบ ที่ “อินฟลูเอนเซอร์” สามารถใช้เป็นช่องทางทั้งสร้างคอนเทนท์และช่วยขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็น การโพสต์ คอนเทนท์ คอลเลคชั่นรูปภาพ หรือที่กำลังมาแรงต้องยกให้ Live ขายของ
ตัวย่าง อินฟลูเอนเซอร์ และ KOL ดังจากจีน Viya หรือ Huang Wei โชว์ความสามารถทั้งรีวิวและขายสินค้าได้ทุกอย่าง แม้แต่ “บริการปล่อยกระสวยอวกาศ KZ-1A ในราคา 40 ล้านหยวน” ในอีเวนท์วันคนโสด 11.11 วันเดียว Viya เคยทำยอดขายได้มากกว่า 3,000 ล้านหยวน (13,500 ล้านบาท)
หรือจะเป็น Li Jiaqi อินฟลูเอนเซอร์ความงามอันดับ 1 จากจีน มีความเชี่ยวชาญด้านการขายเครื่องสำอาง โดยเฉพาะลิปสติกแบรนด์ดัง จากจำนวนยอดผู้ติดตามบนแอป Douyin กว่า 40 ล้านคน ทำให้สามารถขายลิปสติกได้ 15,000 แท่งได้ภายในเวลา 15 นาที นี่คือสิ่งที่สะท้อนถึงเทรนด์ “อินฟลูเอนเซอร์ อีคอมเมิร์ซ” ในฝั่งจีน ที่จะเกิดขึ้นในไทยเช่นกัน
เปิด Tellscore Shop ดึงอินฟลูเอนเซอร์ขายของ
Tellscore ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบริหารจัดการอินฟลูเอนเซอร์รีวิวสินค้า ปัจจุบันมีเครือข่ายกว่า 45,000 คน ได้เปิดตัวบริการใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์ อีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์ม” ภายใต้ชื่อ Tellscore Shop เป็นการตลาดแบบ Influencer Referral Marketing ตอบโจทย์แบรนด์ที่ต้องการสร้างยอดขายและเพิ่มช่องทางในการขายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ
คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Tellscore กล่าวว่าบริการ Tellscore Shop เป็นความร่วมมือกับ MyCloud Fulfillment บริษัทคลังสินค้าออนไลน์ ผู้ให้บริการ Order Fulfillment ด้วยการ เก็บ-แพ็ค-ส่ง สําหรับธุรกิจออนไลน์ ซึ่งมีระบบจัดการออเดอร์ (OMS) และระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) เข้ามาช่วยพัฒนาบริการและระบบจัดการออเดอร์ร่วมกัน และได้การสนับสนุนด้าน ออนไลน์ เพย์เม้นต์ จาก SME Ecosystem ธนาคารไทยพาณิชย์
รูปแบบการทำงานของ Tellscore Shop เริ่มจากการให้อินฟลูเอนเซอร์รีวิวสินค้า จากนั้นจะมีลิงก์ขายสินค้ารายไอเท็ม (1 ไอเท็ม 1 ลิงก์) สําหรับผู้สนใจสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านหน้า Tellscore Shop ที่แสดงอยู่บนแพลตฟอร์มที่อินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนรีวิว โดยจะแสดงสินค้ารายการเดียว ไม่มีสินค้าใกล้เคียงกันมาแสดงเหมือนมาร์เก็ตเพลส ซึ่งจะช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้าและชําระเงิน จบภายใน 1 นาทีบนลิงก์เดียว โดยผู้ซื้อสามารถติดตามสถานะของการจัดส่งสินค้า เพราะระบบจะมีการ Tracking
“วันนี้ผู้บริโภคมีแพลตฟอร์มซื้อสินค้าออนไลน์จำนวนมาก การรีวิวคงไม่พอ แต่อินฟลูเอนเซอร์ ต้องทำหน้าที่เชียร์ กระตุ้นให้ลูกค้าซื้อของในทันที”
ปกติธุรกิจอีคอมเมิร์ซลูกค้ามักยกเลิกการสั่งซื้อในขั้นตอนการจ่ายเงิน หากมีความยุ่งยาก ต้องเปลี่ยนหน้าจอไปที่ระบบเพย์เม้นต์ต่างๆ Tellscore Shop จึงแก้ไขจุดนี้ให้ทุกขั้นตอนอยู่ในหน้าจอเดียว
แม้ว่าแบรนด์ต่างๆ จะขยายช่องทางเข้าสู่อีคอมเมิร์ซ ในทุกมาร์เก็ตเพลสแล้วก็ตาม แต่การบาลานซ์ช่องทางออนไลน์ใหม่ๆ ที่เข้าถึงผู้ซื้อยังเป็นเรื่องจำเป็น เพราะแบรนด์ไม่สามารถพึ่งพายอดขายจากช่องทางใดช่องทางหนึ่งได้ แต่ต้องกระจายไปทุกแพลตฟอร์ม Tellscore Shop จึงเห็นโอกาสเข้าสู่ตลาดนี้
เพิ่มช่องทางหารายได้อินฟลูเอนเซอร์
บริการ Tellscore Shop เป็นอีกช่องทางที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเดิมจะได้ค่าจ้างจากการทำคอนเทนท์รีวิว แต่บริการนี้จะได้รับส่วนแบ่ง 4% จากยอดขาย โดยสามารถทำคอนเทนท์เพื่อช่วยแบรนด์ขายของ ทั้งโพสต์รีวิว และ Live ขายของ ในแพลตฟอร์มที่อินฟลูเอนเซอร์ถนัด ทั้งเฟซบุ๊ก ไอจี ยูทูบ
ในฝั่งของนักการตลาดและแบรนด์จะได้เห็นผลลัพธ์ทั้งการทำรีวิว ในด้าน Awareness Engagements และ Conversion ในรูปแบบ Online Traffic รวมทั้งผลลัพธ์เป็นยอดขายจากอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคน
ช่วงเปิดตัวบริการ Tellscore Shop มี 2 แพ็คเกจ คือ ราคา 5,000 บาท มีอินฟลูเอนเซอร์ 5 คน สร้างคอนเทนท์รีวิวและขายสินค้า 1 เดือน และ ราคา 30,000 บาท มีอินฟลูเอนเซอร์ 33 คน สร้างคอนเทนท์และขายของ 1 เดือน โดยอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนจะมีผู้ติดตาม 10,000 คนขึ้นไป
กลุ่มสินค้าที่จะมาใช้บริการมีทั้ง SMEs และแบรนด์ สัดส่วนอย่างละ 50% ช่วงแรกเน้นกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าแบรนด์แฟชั่นไทย
บริการ Tellscore Shop ถือเป็นการขยายตลาด อินฟลูเอนเซอร์ เข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโต ปีนี้ประเมินกันว่ามูลค่าอยู่ที่ 2.2 แสนล้านบาท เติบโต 35% ซึ่งจะช่วยให้ อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง ปีนี้เติบโตได้ราว 30% จากมูลค่า 2,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ถือเป็นสื่อดิจิทัลที่เติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับประเภทอื่นๆ
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand