เป็นข่าวดีสำหรับนักพัฒนาแอปพลิเคชันที่มียอดขายไม่ถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เมื่อแอปสโตร์ (App Store) จากแอปเปิล (Apple) ได้มีโปรแกรมคิดค่าธรรมเนียมราคาประหยัดออกมาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มนักพัฒนาเหล่านี้แล้ว โดยจะคิดค่าธรรมเนียมแค่ 15% แทนที่จะเป็น 30% เหมือนที่บรรดานักพัฒนารายใหญ่โดนเรียกเก็บกัน
โปรแกรมดังกล่าวมีกำหนดจะใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคมนี้ แต่ในช่วงที่ผ่านมา เหมือนว่านักพัฒนาบางรายได้รับสิทธินั้นแล้ว เช่น กรณีของแอปพลิเคชันชื่อ ImageFramer ที่นักพัฒนาผู้เป็นเจ้าของบอกว่าพวกเขาได้รับสิทธิลดค่าธรรมเนียมไปแล้วเรียบร้อย
Looks like the reduced Small Business App Store fee is now in effect. This is for our Mac app, ImageFramer. Time in UTC. 42.5/50 = 0.85. @mjtsai @OliverJHaslam @9to5mac @MacObserver pic.twitter.com/7LkaAQMhAR
— Jacob Gorban (@jacobgorban) December 24, 2020
สำหรับเรื่องของค่าธรรมเนียมนี้ ต้องบอกว่าแอปเปิลและกูเกิลมีประเด็นกับนักพัฒนาอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา โดยจุดที่รุนแรงที่สุดคือการประท้วงของค่าย Epic Games เจ้าของเกม Fortnite ที่แอปเปิลบอกว่าละเมิดนโยบายของ App Store เนื่องจากเปิดให้มีการซื้อเหรียญได้จากบริษัทโดยตรง แถมยังได้ส่วนลดมากกว่าการซื้อผ่านแพลตฟอร์มของแอปเปิล
อย่างไรก็ดี จากความขัดแย้งดังกล่าว พบว่า บริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจำนวนมากเข้าข้าง Epic Games และมองว่า Apple กับ Google นั้นคิดค่าธรรมเนียมอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งผู้ที่เข้าข้าง Epic Games ยังรวมถึงเฟซบุ๊ก (Facebook) ด้วย เนื่องจากเฟซบุ๊กก็ได้รับผลกระทบจากบริการ Facebook Pay เช่นกัน
นอกจากนี้ Facebook และ Apple ยังมีความบาดหมางรอบใหม่ระหว่างกันด้วย ในกรณีของฟีเจอร์ Tracking Transparency บน iOS 14 ที่จะกระทบต่อการทำโฆษณาบน Facebook เนื่องจากไม่สามารถแทร็กพฤติกรรมของผู้ใช้งานได้อีกต่อไปหากผู้ใช้งานไม่อนุญาต โดยเฟซบุ๊กกล่าวโทษว่า การกระทำของ Apple นั้นเท่ากับไม่คำนึงถึงความอยู่รอดของธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคได้
การออกนโยบายช่วยเหลือนักพัฒนารายย่อยของแอปเปิลจึงอาจเป็นการแสดงความจริงใจได้อย่างหนึ่งว่า แอปเปิลไม่ได้มองข้ามคนตัวเล็ก ๆ อย่างที่โดนกล่าวหา