เห็นภาพรถคันเล็กน่ารักขนาดนี้ แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มเป้าหมายจะไม่ใช่แม่บ้านจ่ายกับข้าว หากแต่เป็นการเจาะตลาดใหม่ของธุรกิจรถยนต์ในจีน นั่นคือรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับให้บริการเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ
สาเหตุที่ต้องมีรถยนต์ดังกล่าวขึ้นมาเป็นเพราะความต้องการของธุรกิจเดลิเวอรี่ที่เพิ่มสูงในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับยานพาหนะของคนขับรถส่งของอาจยังไม่ตอบโจทย์มากพอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวรถที่มักเป็นรถสามล้อ ทำให้ไม่สามารถวิ่งได้เร็วนักบนถนนใหญ่ และหากประสบอุบัติเหตุก็อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อคนขับได้
Juzhen Shuju Technology บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามองเห็น Pain Point ดังกล่าวของธุรกิจเดลิเวอรี่ จึงส่งรถยนต์ไฟฟ้าสี่ล้อคันเล็กกะทัดรัดออกมาแก้ปัญหานี้แทน พร้อมตั้งชื่อให้ว่า Chengshi 01 ซึ่งคำว่า Chengshi มีความหมายคล้ายกับคำว่า Chance ที่แปลว่าโอกาสในภาษาอังกฤษนั่นเอง
รถรุ่นดังกล่าวเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเทศกาลคนโสดของจีน และมาพร้อมการออกแบบให้เล็กกะทัดรัด โดยมีความยาว 3.5 เมตร กว้าง 1.5 เมตร และสูง 1.7 เมตรเท่านั้น
แต่เห็นขนาดเล็ก ๆ แบบนี้ ภายในตัวรถมีพื้นที่บรรทุกสินค้าได้ถึง 2.6 ลูกบาศก์เมตร และรับน้ำหนักได้สูงสุด 600 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับว่า มันสามารถบรรทุกตู้เย็น หรือเครื่องปรับอากาศได้เลยทีเดียว
สำหรับระยะทางในการวิ่ง Juzhen Shuju Technology บอกว่าบริษัทได้พัฒนาระบบควบคุมแบตเตอรี่ด้วยตัวเอง ทำให้รถ Chengshi 01 สามารถวิ่งได้สูงสุด 240 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ที่สำคัญ ตัวรถยังมาพร้อมเซนเซอร์ที่คอยระบุตำแหน่ง ทำให้หน่วยงานด้านการจราจรสามารถ Track ได้ว่ารถยนต์แต่ละคันอยู่ตรงจุดไหนของเมืองกันบ้าง
ขณะที่ด้านหลังของตัวรถ ก็มีป้ายดิจิทัล (Digital Signage) ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน Ziaoge Jiadao ของ Juzhen Shuju Technology คนขับสามารถแสดงโฆษณาต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ได้อีกทางหนึ่งด้วย
เป้าหมายของบริษัทคือรถไร้คนขับ
แต่เป้าหมายของ Juzhen Shuju Technology ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับธุรกิจเดลิเวอรี่ เพราะจริง ๆ แล้ว เป้าหมายของบริษัทคือการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับที่สามารถวิ่งได้จริง ๆ บนท้องถนน โดยทุกวันนี้ บริษัทมีห้องทดลองชื่อ “Lab No.0” สำหรับวิจัยและพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของตนเอง ซึ่ง Gu Zulin ซีอีโอของ Juzhen Shuju Technology คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 24 เดือน อาจจะได้เห็นรถยนต์ไร้คนขับรุ่นโปรโตไทป์
ซีอีโอคนดังกล่าวยังบอกด้วยว่า หากบริษัทสามารถพัฒนาเซนเซอร์และชิปที่ได้มาตรฐานของอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนไลน์การผลิตของรถยนต์ Chengshi 01 เป็นรถยนต์ไร้คนขับ Chengshi 00 ได้ในหลักเดือนด้วย
“การที่เราสามารถเริ่มผลิตรถยนต์ไร้คนขับ Chengshi 00 แบบ Mass-Production ได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คู่แข่งยากจะตามได้ทันมากขึ้นเท่านั้น” Gu Zulin กล่าวปิดท้าย