หลังจากที่ทวิตเตอร์ (Twitter) ประกาศนโยบายของการยืนยันตัวตนใหม่บนทวิตเตอร์สำหรับปี 2021 ไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน รวมถึงขอรับฟีดแบ็กจากผู้ใช้งานผ่านแฮชแท็ก #VerificationFeedback ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับกว่า 22,000 แบบสอบถามจากผู้คนบนทวิตเตอร์นั้น
ทางทวิตเตอร์ได้มีการเปิดเผยเกี่ยวกับฟีดแบ็กที่ได้รับเอาไว้ดังนี้
- เราได้รับฟีดแบ็กในส่วนของเกณฑ์การพิจารณาตรงโปรไฟล์ว่าจะต้องมีข้อมูล “ครบสมบูรณ์” ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเป็นการจำกัดมากเกินไป จึงได้อัปเดตคำจำกัดความใหม่โดยไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลของโปรไฟล์หรือภาพเฮดเดอร์
- เราได้อัปเดตข้อมูลอ้างอิงบน Wikipedia เพื่อให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเผยแพร่บทความของสารานุกรมเพื่อให้มีคุณภาพและโดดเด่นมากขึ้น
- เพื่อความชัดเจนและมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่เป็นหมวดหมู่ของ “ข่าว” เราได้เพิ่มเป็นหมวดหมู่ของ “ข่าวและนักข่าว” และในส่วนของหมวดหมู่ “กีฬา” มีการเพิ่มเป็น “กีฬาและอีสปอร์ตส” นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มส่วนของดิจิทัลคอนเทนท์ครีเอเตอร์ เข้าไปในหมวดหมู่ “ความบันเทิง” ด้วยเพื่อให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- เราได้รับฟีดแบ็กในเรื่องของข้อกำหนดของจำนวนผู้ติดตามขั้นต่ำที่นับตามฐานของแต่ละประเทศ ซึ่งอาจจะไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องในการพิจารณาเสมอไป ทั้งนี้ จึงได้อัปเดตการพิจารณาจำนวนผู้ติดตามที่อ้างอิงตามฐานของแต่ละภูมิภาค เพื่อให้ข้อกำหนดในการนับจำนวนผู้ติดตามมีความเสี่ยงต่อการถูกสแปมน้อยลงและมีความเท่าเทียมต่อประชากรในทุกพื้นที่มากขึ้น
ทวิตเตอร์เผยว่า ฟีดแบ็กที่ได้รับช่วยในกระบวนการพัฒนานโยบายใหม่ ซึ่งจะนำเป็นพื้นฐานในการปรับปรุงว่า ระบบการยืนยันตัวตนคืออะไร ใครควรได้รับการยืนยันตัวตน และทำไมบางบัญชีทวิตเตอร์ถึงถูกลบการยืนยันตัวตน
สำหรับใครที่สนใจนโยบายยืนยันตัวตนใหม่ของทวิตเตอร์สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ โดยทวิตเตอร์จะเริ่มใช้นโยบายนี้ใหม่ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2020 เป็นต้นไป
ภายใต้นโยบายใหม่ บัญชีที่มีความสมบูรณ์จะต้องมีหนึ่งในข้อกำหนดดังต่อไปนี้
- จะต้องมีการยืนยันอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์อย่างใดอย่างหนึ่ง
- มีรูปภาพโปรไฟล์
- แสดงชื่อผู้ใช้งาน
ส่วนบัญชีที่ไม่ได้มีการใช้งานและบัญชีที่ไม่สมบูรณ์ จะถูกลบเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าออกจากบัญชีโดยอัตโนมัติ
สำหรับบัญชีของใครที่มีความเสี่ยงจะสูญเสียเครื่องหมายยืนยันตัวตน เจ้าของบัญชีจะได้รับแจ้งทางอีเมลอัตโนมัติและมีการแจ้งเตือนจากในแอปการใช้งานของทวิตเตอร์ว่าจะต้องเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง หากคุณเข้าไปปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ ก่อนวันที่ 20 มกราคม 2020 ก็จะไม่โดนลบเครื่องหมายยืนยันตัวตน
ส่วนบัญชีที่ไม่มีการใช้งานเนื่องจากการเสียชีวิต ทางทวิตเตอร์บอกว่ากำลังดำเนินการหาวิธีที่จะระลึกถึงบัญชีเหล่านั้นในปี 2021 ต่อไป
ใครบ้างจะถูกลบเครื่องหมายยืนยันตัวตน
ภายใต้นโยบายใหม่นี้ ทวิตเตอร์จะทำการลบเครื่องหมายยืนยันตัวตนจากบัญชีที่พบกว่ามีการละเมิดกฎของทวิตเตอร์อย่างรุนแรงหรือมีการละเมิดกฎซ้ำ ๆ โดยจะมีการพิจารณาบัญชีเหล่านั้นตามแต่ละกรณี และจะมีการปรับปรุงการใช้งานระหว่างการบังคับใช้นโยบายการยืนยันตัวตนในปีหน้า (อ่านเกี่ยวกับกฎของทวิตเตอร์ว่ามีขอบเขตในการดำเนินการอย่างไรบ้างได้จากที่นี่)
“บอท” เตรียมตัว
ทวิตเตอร์ให้เหตุผลด้วยว่า เพื่อให้เกิดความไว้วางใจว่าผู้ใช้งานกำลังพูดคุยโต้ตอบอยู่กับใครบนทวิตเตอร์ ทางแพลตฟอร์มจะเริ่มมีการติดป้ายรับรองบัญชีให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง หน่วยงานรัฐบาล และสื่อที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล โดยกำลังดำเนินการออกแบบวิธีในการแบ่งประเภทของบัญชีใหม่ ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น
- บัญชีที่เป็นอัตโนมัติ บัญชีที่มีการโพสต์ข้อความอัตโนมัติ หรือที่เรียกกันว่า “บอท” สามารถช่วยในเรื่องการให้บริการได้เป็นอย่างมาก เมื่อต้องแชร์ข้อความจำพวกการเตือนภัยแผ่นดินไหว หรือการแจ้งเตือนถึงวิธีในการดูแลตัวเอง ซึ่งบางครั้งอาจสร้างความสับสนให้กับหลายๆ คนได้หากว่าไม่มีการระบุให้ชัดเจนว่าบัญชีนั้นเป็นบอท ดังนั้นในปี 2020 ทวิตเตอร์วางแผนที่จะแบ่งประเภทบัญชีที่เป็นบอทออกจากบัญชีที่มีผู้ใช้งานเป็นมนุษย์จริงๆ ให้ชัดเจนเพื่อทุกคนจะได้ทราบว่าบัญชีไหนเป็นบอทบ้าง
- บัญชีเพื่อการระลึกถึง สำหรับผู้ที่เสียชีวิต ทวิตเตอร์อยู่ระหว่างการปรึกษากันว่าควรรักษาบัญชีประเภทนี้ไว้อย่างไร ในปี 2020 เราวางแผนที่จะสร้างประเภทของบัญชีใหม่ๆ สำหรับบัญชีเพื่อการระลึกถึง ซึ่งในนโยบายใหม่จะมีการอัปเดตถึงรายละเอียดของบัญชีประเภทนี้และขั้นตอนการสมัครเพื่อขอให้บัญชีนั้นเป็นบัญชีเพื่อการระลึกถึงได้อย่างไร
งานที่ทวิตเตอร์กำลังทำอยู่นั้นอาจจะห่างไกลจากคำว่าสำเร็จเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนมองไปข้างหน้าถึงสิ่งที่เรากำลังทำ เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าใจในแนวทางของของทวิตเตอร์มากขึ้น เรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่กำลังจะเริ่มเปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตนอีกครั้งและจะเริ่มเปิดตัวบัญชีประเภทใหม่ๆ ซึ่งเราจะมาอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมในเร็ววันนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อเสนอแนะในช่วงที่เปิดให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นสาธารณะเพื่อช่วยให้เราสามารถกำหนดนโยบายใหม่ได้อย่างชัดเจน