“อังกฤษ” ขึ้นแท่นเป็นชาติแรกของโลกตะวันตกที่มีการจัดให้ฉีดวัคซีน Covid-19 แก่ประชาชนอย่างเป็นทางการ โดยผู้ที่รับการฉีดวัคซีนเป็นคนแรกของประเทศก็คือคุณยาย Margaret Keenan วัย 90 ปี ส่วนผู้รับวัคซีนฝ่ายชายเป็นรายแรกของประเทศก็คือคุณตา William Shakespere ซึ่งหลังจากฉีดทั้งคุณตา-คุณยายยังบอกด้วยว่า รู้สึกได้อภิสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่นอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว
สำหรับการฉีดวัคซีนครั้งนี้มีขึ้นเมื่อเวลา 6.31 น. ที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยในเมือง Coventry ส่วนคุณยาย Keenan ที่เข้ารับการฉีดนั้นก็เปิดเผยว่า วัคซีนเปรียบได้กับของขวัญวันเกิดล่วงหน้า (คุณยายจะฉลองอายุครบรอบ 91 ปีในสัปดาห์หน้านี้) และหวังว่าจะได้ใช้เวลาช่วงเทศกาลฉลองปีใหม่กับครอบครัวเสียที
คุณยายท่านนี้ยังบอกด้วยว่า รู้สึกยินดีที่ตัดสินใจฉีดวัคซีน เนื่องจากไวรัสดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทำร้ายโลกมานานพอแล้ว ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้กำจัดมันเสียที พร้อมกันนั้นก็ได้เชิญชวนให้คนอื่น ๆ มาฉีดวัคซีนกันด้วย
“ถ้าฉันฉีดได้ คุณก็น่าจะทำได้เช่นกัน”
ไม่เฉพาะคุณยายที่ได้รับการบันทึกชื่อว่าเป็นคนแรกของอังกฤษ แม้แต่ May Parsons พยาบาลชาวฟิลิปปินส์ที่เป็นคนฉีดวัคซีนให้กับคุณยายก็ถูกจารึกชื่อ และถูกสัมภาษณ์เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าคุณพยาบาลก็บอกว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้
นอกจากผู้รับวัคซีนฝ่ายหญิงแล้ว ก็มีผู้รับวัคซีนฝ่ายชายด้วย เพราะคนที่สองที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกันก็คือคุณตา William Shakespere วัย 81 ปี ที่มีหลาน ๆ มาให้กำลังใจด้วย
ฉีดให้ผู้สูงอายุ – จนท.สาธารณสุข เป็นกลุ่มแรก
แม้ว่าอังกฤษจะมีการสั่งซื้อวัคซีนจำนวน 40 ล้านโดสไปแล้วเรียบร้อย แต่จนถึงตอนนี้ มีวัคซีนเพียง 800,000 ช็อทเท่านั้นที่ถูกจัดส่งมาให้ โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ อังกฤษถึงจะมีวัคซีนมากพอสำหรับฉีดให้ประชากร 1 ใน 3 ของประเทศ
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกที่ผู้ได้รับสิทธิในการฉีดวัคซีนก่อนใครในอังกฤษก็คือกลุ่มที่มีอายุเกิน 80 ปี และกลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ต้องทำงานด่านหน้า ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ Covid-19 นั่นเอง
ส่วนคุณยาย Keenan และคนอื่น ๆ ที่รับวัคซีนในวันนี้ไป จะต้องกลับมารับวัคซีนรอบที่สองภายใน 3 – 4 สัปดาห์หลังจากนี้ โดยทุกคนที่รับการฉีดวัคซีนจะได้รับบัตรขนาดเท่าเครดิตการ์ดที่บอกข้อมูลการนัดหมายครั้งต่อไป ส่วนภูมิคุ้มกันจะมีเมื่อไรนั้น ข้อมูลจาก CNN ระบุว่า หลังจากฉีดวัคซีนโดสที่สองเป็นเวลา 7 – 10 วันร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันที่สามารถต้านทานไวรัสได้
ด้านผลข้างเคียงของวัคซีนก็มีเช่นกัน นั่นคืออาจเกิดการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ หรือมีไข้ได้ นอกจากนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ภูมิคุ้มกันดังกล่าวจะอยู่ได้นานเท่าไร รวมถึงว่า คนที่มีภูมิคุ้มกันนั้นยังสามารถแพร่เชื้อไวรัสให้กับคนอื่นได้หรือไม่ด้วย
แม้จะมีรายงานเรื่องผลข้างเคียง แต่จากการสำรวจความคิดเห็นของชาวอังกฤษ โดย Savanta ComRes พบว่ามากกว่าครึ่ง (57%) เชื่อมั่นในวัคซีนว่าปลอดภัย โดยมีเพียง 16% ที่บอกว่าไม่มั่นใจในวัคซีน
นอกจากนั้น ชาวอังกฤษราว 47% ยังบอกว่าไม่รู้สึกกังวลที่วัคซีน Covid-19 ได้รับการพัฒนาสำเร็จเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็มีผู้ตอบแบบสอบถามอีกราว 23% ที่บอกว่าพวกเขารู้สึกกังวลด้วย
หลังจากนี้จึงเชื่อว่าในอังกฤษจะมีงานให้ทำต่ออีกมาก และการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการฉีดวัคซีนให้กับประชากรของประเทศจะทำให้อังกฤษเป็นที่จับตาของหลายฝ่าย ทั้งสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปที่ The European Medicines Agency (EMA) เตรียมจะตัดสินใจเรื่องการใช้วัคซีนในวันที่ 29 ธันวาคมนี้