หากเอ่ยชื่อ SC GRAND
คนที่อยู่ในแวดวงแฟชั่นหลายคนคงรู้จักแบรนด์นี้กันดีในฐานะ “ผ้ารีไซเคิลยี่ห้อ SC GRAND “ หรือโรงงานรีไซเคิลของเสียในอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ มายาวนานกว่า 50 ปี ยิ่งกว่านั้น ยังต่อยอดนำเศษผ้าเก่าจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ (Textile waste) รวมถึงเสื้อผ้าเก่าที่ถูกทิ้งมารีไซเคิลให้กลายเป็นผ้าและเสื้อผ้าใหม่ที่สวยงาม เสน่ห์ในแบบฉบับของผ้ารีไซเคิล ซึ่งมี texture หรือ ผิวสัมผัส ที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากเสื้อผ้าทั่วไป รวมทั้ง คุณภาพของผ้าก็ได้ค่ามาตรฐานระดับสากล จนกลายเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้ง แบรนด์ชั้นนำต่างนำไปใช้ผลิตเสื้อผ้ากันมากมาย
จนถึงวันนี้ SC GRAND
อยู่ภายใต้การบริหารของทายาทรุ่น3 ที่ไม่เพียงเป็นโรงงานรีไซเคิลสิ่งทอแต่กำลังนำประสบการณ์และจุดแข็งของธุรกิจมาต่อยอด “โอกาส” ใหม่ๆให้กิจการครอบครัวเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งถ้าใครได้ไปเดิน Ecotopia ต้องเคยสัมผัสเสื้อผ้ารีไซเคิลที่สวยงามทันสมัยแถมมีส่วนช่วยให้โลกใบนี้ดีขึ้นด้วยทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ดังมากมายที่ใช้กระบวนการผลิตเสื้อรีไซเคิลจาก CIRCULAR By SC GRAND ซึ่ง Brand Buffet จะพามาคุยกับ คุณวัธ-จิรโรจน์ พจนาวราพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงเจริญแกรนด์ หรือ SC GRAND และ คุณกิ๊บ-เพชร วิภวพาณิชย์ Brand Manager ในนิทรรศการ Journey of Textile Recycling ที่จะทำให้รู้จักเรื่องราวเกี่ยวกับการรีไซเคิลของเสียจากอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ แบรนด์ CIRCULAR ไปพร้อมๆกัน
จาก SC GRAND สู่ CIRCULAR
Circular Economy หรือการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ไม่ใช่ “เทรนด์” แต่คือ “คำตอบ” ของอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอในอนาคต ในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา แบรนด์แฟชั่นในต่างประเทศมุ่งหน้าสู่วิถีของแฟชั่นที่ยั่งยืน (Sustainable Fashion) ด้วยการนำวัสดุรีไซเคิลหรือของเสียจากอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ มาใช้เป็นหนึ่งในวัสดุที่สร้างสรรค์สินค้าใหม่กันมากขึ้น แต่สำหรับวงการสิ่งทอในไทย คุณจิรโรจน์ยอมรับว่า ยังเป็นเรื่องใหม่มาก
“เวลาพูดถึงเสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิลหลายคนยังไม่เข้าใจเนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังกลัวมองเป็นเสื้อผ้ามือสองและคุณภาพยังเป็นรองเสื้อผ้าทั่วไปเราจึงอยากแชร์ความรู้และ PR ให้คนเข้าใจเรื่องผ้ารีไซเคิลมากขึ้นว่าสามารถจะนำของเสียที่เกิดจากกระบวนการการผลิตในอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ รวมทั้งเสื้อผ้าเก่ามาคัดแยกเฉดสีและรีไซเคิล เพื่อแปรสภาพเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าใหม่ได้หลากหลาย รวมถึงคุณภาพไม่ได้ต่างไปจากเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัตถุดิบใหม่ (Virgin raw material)”
คุณเพชร เล่าถึงความท้าทายของเสื้อผ้ารีไซเคิล และเป็นที่มาให้ SC GRAND แตกแบรนด์เสื้อผ้าใหม่อย่าง CIRCULAR ขึ้นโดยก้าวแรกในตลาดแฟชั่นและสิ่งทอ CIRCULAR ถูกวาง Positioning เป็นผู้ผลิตเสื้อผ้ารีไซเคิลครบวงจรตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล กระบวนการทอผ้าไปจนถึงการออกแบบและตัดเย็บกระทั่งออกมาเป็นเสื้อผ้าตัวใหม่แต่เมื่อพูดถึงการให้บริการผลิตเสื้อผ้าอย่างครบวงจร
คุณจิรโรจน์ ย้ำว่าเราตั้งใจทำ Brand CIRCULAR ขึ้นมา เพื่อ PR ผ้ารีไซเคิล SC GRAND ว่าสามารถตัดเสื้อผ้าได้หลากหลาย style ผ่านมาตรฐานจากสถาบันสิ่งทอทั้งในและต่างประเทศ เช่น GRS ‘global recycled standard’ and OEKO-TEX Standard 100 และ สร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง สร้างความตระหนักเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแฟชั่น กับ สิ่งแวดล้อม และ สร้างแรงบันดาลใจให้กับ value chain ของ อุตสาหกรรมแฟชั่น ในเรื่องของการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งแวดล้อม และโลกของเราในอนาคต
ดังนั้น หากใครต้องการนำผ้ารีไซเคิลมาออกแบบและตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าใหม่ บริการของ CIRCULAR ก็สามารถเข้ามาตอบโจทย์ได้เช่นกันเพราะ คุณจิรโรจน์เชื่อว่าการทำให้ลูกค้าเข้าใจถึงกระบวนการผลิตเสื้อผ้ารีไซเคิลและผลกระทบของอุตสาหกรรมแฟชั่น ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม จะทำให้ผู้บริโภคหรือลูกค้า มีความเข้าใจถึงเสน่ห์ของผ้ารีไซเคิลรวมทั้งแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆก็สามารถนำไอเดีย ความคิด รวมถึงการออกแบบเสื้อผ้าจากผ้ารีไซเคิล SC GRAND ไปต่อยอดได้ และที่สำคัญสามารถช่วยกันสร้างคุณค่าให้กับ value chain หรือ Supply chain ของ fashion industry ได้ คนเห็นกระบวนการผลิตเสื้อผ้ารีไซเคิลอย่างครบวงจรจะช่วยให้คนเข้าใจเรื่องการนำเสื้อผ้าเก่ามารีไซเคิลเป็นเสื้อผ้าใหม่มากขึ้นและเมื่อผู้บริโภคมีความเข้าใจรวมทั้งเห็นประโยชน์ของผ้ารีไซเคิลที่สามารถนำไปผลิตเสื้อได้หลากหลายรูปแบบจะทำให้คนตื่นตัวและช่วยขยายตลาด Sustainable Fashion เติบโตเพิ่มมากขึ้นตามมา
Journey of Textile Recycling อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
เสื้อผ้ารีไซเคิลเมื่อผ้ารีไซเคิลยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับวงการแฟชั่นและสิ่งทอไทย การทำตลาดอันดับแรกของ CIRCULAR จึงต้องการสร้างความรู้เกี่ยวกับผ้ารีไซเคิลก่อนว่าสามารถนำกลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้ จึงเป็นที่มาของนิทรรศการ Journey of Textile Recycling ที่จะทำให้ทุกคนได้สนุกไปกับการเดินทางของเส้นด้ายรีไซเคิลผ่านอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
พร้อมกับเรียนรู้ปัญหา และวิธีการนำเสื้อผ้าเก่าหรือเศษผ้าเก่า นำมาผลิตเป็นเสื้อผ้ารีไซเคิล จากขยะอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ถูกทิ้งไว้กองโต จนกลายเป็นหนึ่งในตัวการที่ทำโลกร้อนในปัจจุบันอย่างเข้าใจยิ่งขึ้น โดยจุดเริ่มต้นของนิทรรศการนี้ เกิดจากไอเดียคุณเพชรที่มีความสนใจเกี่ยวกับสิ่งทอ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Sustainable Textile) จึงต้องการบอกเล่าปัญหาจากขยะแฟชั่นในอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นหนึ่งในต้นตอสำคัญ ในการสร้างมลพิษให้โลกทุกวันนี้ และวิธีการนำเศษผ้าเก่ามาแปลงร่างให้กลายเป็นผ้ารีไซเคิลผ่านนิทรรศการ เพื่อให้คนเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้มากขึ้นและหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
โดยนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ คือ The Past that we have left there, The Present that we are starting และ The Future that we co-create ความพิเศษอยู่ที่ทุกอย่างในนิทรรศการจะถูกทอขึ้นจากเส้นด้ายรีไซเคิล ที่ไม่ผ่านการฟอกย้อมเพื่อลดการใช้น้ำให้มากที่สุดอดีตที่เราทิ้งไว้คือจุดเริ่มต้นของขยะแฟชั่นกองโต โดยเมื่อเดินเข้ามาในงานส่วนแรกจะสะดุดตากับเศษผ้ากองโตที่จำลองให้เหมือนขยะจากอุตสาหกรรมแฟชั่นมีทั้งเสื้อผ้าเก่าเศษผ้าจากโรงงานตัดเย็บ และเศษด้ายจากโรงงานทอผ้า เพื่อให้เห็นว่าขยะเหล่านี้คือจุดเริ่มต้นที่วงการแฟชั่นทิ้งไว้ในอดีต โดยไม่ได้คำนึงถึงปัจจุบันว่า ส่งผลมากมายขนาดนี้และหากผลิตเสื้อผ้าด้วยวิธีการเดิมๆภายในปี 2040 คนจะเริ่มขาดแคลนน้ำ เพราะทรัพยากรบนโลกนี้มีจำกัด เมื่อประชากรมากขึ้นการผลิตเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นการใช้น้ำในการผลิตและฟอกย้อมย่อมมากขึ้นเช่นกัน
ชุบชีวิตผ้าเก่าให้กลายเป็นเสื้อใหม่
เมื่อเดินต่อมาจะเจอถังผ้าขนาดใหญ่ที่จะทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงกระบวนการผลิตเสื้อผ้าที่เราใส่ว่ากว่าจะเป็น “เสื้อผ้าหนึ่งตัว” ให้ได้สวมใส่ต้องผ่านการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติมากมาย เช่น การผลิตเสื้อยืด 1 ตัว ต้องใช้น้ำ 2,700 ลิตร ในกระบวนการการผลิตและกระบวนฟอกย้อม หรือเทียบเท่ากับคนทั่วไปดื่มน้ำ 3 ปี หรือการปลูกฝ้าย (cotton) 1 kg ต้องใช้น้ำถึง 10,000 ลิตร
การจัดแสดงงานครั้งนี้ เราจัดแสดงผ่านกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นให้คนนำเสื้อเก่านำมาแลกส่วนลดของเสื้อตัวใหม่ หรือการบริจาคเสื้อผ้าตัวเก่าในการผลิตเสื้อยืด 1 ตัว ผ่านกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้คนนำเสื้อผ้าเก่ามาบริจาคพร้อมแฝงเกร็ดความรู้บอกระดับการลดของเสียและน้ำสะอาด แถมยังได้รับส่วนลดในการซื้อเสื้อผ้าใหม่ได้อีกด้วย โดยเสื้อผ้าเก่าที่ทุกคนนำมาบริจาค จะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเสื้อใหม่ในคอลเล็คชั่นพิเศษ CIRCULAR x ECOTOPIA ที่มาในคอนเซ็ปท์ Timeless Design นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นให้ผู้ชมนำเสื้อผ้าเก่าและใหม่มาแขวนให้ 2 ฝั่งเท่ากัน เพื่อสื่อให้เห็นว่าหากนำของเก่ามารีไซเคิลเป็นของใหม่ได้เท่ากันจะช่วยทำให้โลกใบนี้เกิดความสมดุลมากขึ้น
โลกใบใหม่ที่ถูกฟื้นฟูอย่างสวยงามอีกครั้ง
เขยิบจากปัจจุบันมาถึงอนาคต โซนนี้จะนำเสนอเสื้อผ้า CIRCULAR ที่ทำมาจากของเสียและขยะอุตสากรรมแฟชั่นและสิ่งทอ โดยใช้การออกแบบให้เป็นเหมือนสวนสีเขียวร่มรื่นจากน้ำสะอาดที่เปรียบเสมือนโลกใบใหม่ที่ถูกฟื้นฟู ซึ่งเสื้อผ้าที่นำมาจัดแสดงไม่ใช่แค่เสื้อยืดและเสื้อ Cardigan แต่เป็นการ Collaboration กับแบรนด์เสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงอย่าง Carnival และ IndigoSkin เพื่อให้เห็นกระบวนการนำเศษผ้าและเสื้อผ้าเก่า มาแปลงร่างให้เป็นเส้นใยแล้วนำกลับมาผลิต จนกลายเป็นเสื้อใหม่ที่นุ่มสวมใส่สบาย จนลืมไปเลยว่าเคยเป็นเสื้อผ้าเก่ามาก่อนรวมถึงทาง CIRCULAR ได้มีการรับผลิตเสื้อผ้าจากวัตถุดิบรีไซเคิล ให้กับองค์กรต่างๆด้วย เช่น เครื่องดื่มสิงห์ เครือข่ายดีแทค และค่ายเพลง LOVEiS ก็เคยมีการสั่งเสื้อผ้าบางส่วนจากทาง CIRCULAR นอกจากนี้ เสื้อทุกตัวยังมาพร้อม QR-Code เมื่อสแกนจะบอกข้อมูลเลยว่าเสื้อตัวนี้ผลิตจากวัตถุดิบอะไร ช่วยลดการใช้ทรัพยากรเท่าไหร่ และสร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง
นอกจากการบอกเล่าปัญหาจากขยะแฟชั่นในอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ รวมทั้งวิธีการนำเสื้อผ้าเก่ามาแปลงโฉมให้ฟื้นคืนชีพใหม่อย่างสวยงามแล้ว ภายในงานนิทรรศการยังรวบรวมมุมมองความคิดของผู้นำระดับโลกที่มีต่อสถานการณ์เกี่ยวกับโลกร้อนและ Climate Change เช่น Bill Gates , Barack Obama ให้ผู้เข้าชมได้เห็นมากมายอีกด้วย
ซึ่งหลังจากกวาดสายตาไปรอบๆนิทรรศการ เพื่อมองดูเส้นด้ายและผ้ารีไซเคิล ทำให้เรามีมุมมองผ้ารีไซเคิลต่างไปจากเดิมมากขึ้น
ซึ่งคุณจิรโรจน์หวังว่า ท้ายที่สุดแล้วนิทรรศการนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ให้คนเปลี่ยนมุมมองใหม่ในการบริโภคเสื้อผ้าเพราะแค่เริ่มจากการหันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทุกคนก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งให้วงการแฟชั่นเดินหน้าต่ออย่างยั่งยืนได้
สำหรับใครที่อยากรู้จัก CIRCULAR กันให้มากขึ้น สามารถมาชมนิทรรศการ Journey of Textile Recycling นี้กันได้ โดยงานจะจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 2564 ณ Ecotopia สยามดิสคัฟเวอรี
