นิปปอนเพนต์ ประเทศไทย เปิดเกมรุกตลาดปี 64 มั่นใจยอดขายเติบโต ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกงานสี พร้อมเปิดตัวแคมเปญใหม่ “เครื่องสำอางเพื่อบ้านคุณ” มุ่งสร้างการรับรู้ ความใส่ใจในระบบการทาสีที่ถูกต้อง พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ปลอดภัยในช่วงการระบาดระลอกใหม่ มั่นใจภาพรวมอุตสาหกรรมสีและวัสดุเคลือบผิวเติบโตเป็นบวก
นายวัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีนิปปอนเพนต์ในประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตสีรายใหญ่อันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายของนิปปอนเพนต์ ประเทศไทยที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยความใส่ใจ ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกงานสี ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มผู้บริโภค (B2C) และกลุ่มผู้ประกอบการโครงการ (B2B) อาทิ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้รับเหมา สถาปนิก ช่างสี เป็นต้น ทำให้ในปีนี้บริษัทจะเดินหน้ารุกสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความสำคัญของการเลือกใช้สีและวัสดุเคลือบผิวที่มีคุณภาพ และขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้อง
“ปัจจุบันต้องยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสีทาบ้านหรือสีทาอาคาร มีทั้งการเกิดรอยด่าง สีซีด สีลอกล่อน ซึ่งมาจากหลากหลายสาเหตุ ขณะที่บางคนมองแต่ความสวยงามแต่เมื่อใช้งานผ่านไปเพียง 3-4 ปีเริ่มเกิดปัญหา ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพสูง จะช่วยป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาได้”
การนำเสนอแคมเปญการตลาดในครั้งนี้ได้ต่อยอดจากความสำเร็จในปีก่อน เพื่อตอกย้ำความเป็น The Coatings Expert ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และบริษัทฯ ยังมีเป้าประสงค์ที่ต้องการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างแท้จริงให้ผู้บริโภค ว่าสีและวัสดุเคลือบผิวแต่ละชนิด แต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน การเลือกสี การใช้สี การเตรียมสี ก็แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพพื้นผิวของผนังหรือวัสดุนั้น ๆ เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีและมีคุณภาพ ผ่านแคมเปญโฆษณา “เครื่องสำอางเพื่อบ้านคุณ” ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราว ของการแต่งเติมบ้านให้ยังคงความสวยสด งดงาม แม้เวลาจะผ่านไป โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์เป็นหลัก
สำหรับแคมเปญ “เครื่องสำอางเพื่อบ้านคุณ” มีแนวคิดที่ว่า บ้านเปรียบเสมือนใบหน้าของผู้หญิงที่รอการแต่งเติมโดยผู้สร้างสรรค์ความงามเพื่อความสมบูรณ์แบบ ส่วนสีทาบ้านผลิตภัณฑ์เพื่อพื้นผิวเปรียบเสมือนเครื่องสำอางบนใบหน้า ที่ดึงความสวยงามของบ้านที่ต้องการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญด้านสีเช่นกัน
วิธีการสื่อสารของแคมเปญเลือกที่จะหยิบยกประเด็นเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันเพื่อสร้างความเข้าใจขั้นตอนการทำงานและผลิตภัณฑ์ได้เข้าใจง่ายขึ้น พร้อมสร้างความคุ้นเคย รวมถึงความเข้าใจที่ถูกต้องและรวดเร็ว
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ด้วยประสบการณ์ที่สะสมมายาวนานกว่า 140 ปี ของนิปปอนเพนต์.บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ผ่าน R&D Center ที่มีอยู่หลายประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน ทำให้นิปปอนเพนต์มีความโดดเด่นในด้านนวัตกรรมสีและวัสดุเคลือบผิวที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและรวดเร็ว เช่น นิปปอนเพนต์ แอร์แคร์ ด้วยเทคโนโลยีซิลเวอร์ไอออน (Silver Ion Technology)
เป็นประจุเงินที่ได้จากธรรมชาติที่มีความปลอดภัย มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อไวรัสโคโรนา 99.96% และกำจัดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ถึง 99.99% เพื่อให้ห่างไกลจากไวรัสและเชื้อโรคต่างๆ ตอบรับไลฟ์สไตล์ยุค New Normal ที่มีความใส่ใจสุขภาพ หรือ Professional Series นวัตกรรมระบบสีคุณภาพสูงสำหรับงานโครงการคุณภาพและช่างสีมืออาชีพ (Professional Series) ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการโครงการ (B2B) ได้อย่างลงตัว ซึ่งในปีนี้จะมีการนำนวัตกรรมต่างๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ปลอดภัยในยุค Covid-19 ที่กำลังระบาด ระลอกใหม่ในขณะนี้
ทั้งนี้พบว่า การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในปีที่ผ่านมาส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดสีและวัสดุเคลือบผิวอย่างมาก โดยพบว่าตลาดสีทาบ้านและสีทาอาคารซึ่งมีมูลค่าราว 25,000 ล้านบาท มีการเติบโตลดลงประมาณ 10- 15% ปัจจัยหลักเกิดจากการลดการใช้จ่ายของผู้บริโภค ที่ขาดความมั่นใจต่อสภาพเศรษฐกิจ ทำให้ลดหรือชะลอการปรับปรุงบ้าน อาคาร โรงงาน สำนักงานต่าง ๆ เป็นต้น ขณะที่โครงการขนาดใหญ่ทั้งแนวราบ และอาคารสูงต่างชะลอหรือยกเลิกการขึ้นโครงการใหม่ รวมถึงการล็อกดาวน์ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ทำให้ต้องปิดร้านค้าในช่องทางโมเดิร์นเทรดเป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือน จึงส่งผลกระทบในวงกว้าง
“แม้วิกฤติโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อตลาดรวมสีทาบ้านและอาคาร แต่ก็พบว่า กลุ่มสีเพื่อสุขภาพ กลับมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,000-1,500 ล้านบาท รวมทั้งยังพบว่า ผู้ประกอบการสีหันไปลงทุนในธุรกิจอื่น เช่น เคมีภัณฑ์ ผนังบ้าน เป็นต้น ส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจยังคงเดินหน้าและมีการเติบโตต่อไป”
ขณะที่ในปีนี้เบื้องต้นประเมินว่า การแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกใหม่ อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดรวมสีทาบ้านและอาคารบ้างหากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ เชื่อว่าตลาดจะกลับมาคึกคักขึ้นส่งผลให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน หลังจากที่พบว่าในไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ธุรกิจเริ่มขยับตัวเดินหน้ามากขึ้น ขณะเดียวกันพบว่า กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการโครงการต่างมุ่งที่จะเดินหน้าให้โครงการสำเร็จต่อเนื่อง การมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเป็นตัวช่วยเสริมให้การทำงานเร็วขึ้น ลดการใช้แรงงานคน ลดต้นทุน ขณะเดียวกันยังคงประสิทธิภาพของงานได้ดี ทำให้ส่งมอบงานได้เร็วยิ่งขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสของนิปปอนเพนต์ที่โฟกัสกลุ่มลูกค้า B2B มาต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี วันนี้ “นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคตติ้ง ” ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคคนไทยมากขึ้น เห็นได้จากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของแบรนด์โดย BrandAge พบว่า ในหมวดวัสดุก่อสร้าง สีทาภายใน/ภายนอก ในปี 2563 นิปปอนเพนต์ ได้คะแนนความน่าเชื่อถือ 23.29% เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ได้คะแนน 9.88% จัดอยู่ในอันดับ 2 แสดงให้เห็นถึงการรับรู้และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคทุกกลุ่ม จนส่งผลให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด