การหายไปของแจ็คหม่า (Jack Ma) มหาเศรษฐีอันดับสามของประเทศจีน จากการจัดอันดับของ Bloomberg Billionaire Index กำลังเป็นที่สนใจของสื่อตะวันตกในเวลานี้ หลังพบว่าเขาไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นเวลากว่าสองเดือนแล้ว รวมถึงเกมโชว์ทางทีวีที่เขาจะต้องเข้ามาทำหน้าที่ตัดสินใน EP สุดท้าย ก็ถูกยกเลิกและเปลี่ยนตัวเป็นผู้อื่นด้วย
แม้ว่าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของอาลีบาบา (Alibaba) จะชี้แจงถึงการเปลี่ยนตัวแจ็ค หม่าในรายการเกมโชว์ Africa’s Business Heroes ซึ่งเป็นรายการเกี่ยวกับการเฟ้นหาผู้ประกอบการดาวรุ่ง ว่ามาจากการจัดตารางที่ผิดพลาด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสงสัยคลายลง เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2020 แจ็ค หม่า ยังเคยกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า เขารอคอยที่จะได้เจอผู้เข้าแข่งขันรอบสุดท้ายของรายการอยู่อย่างใจจดใจจ่อ จึงทำให้เชื่อได้ยากว่า ผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือทีมงานของ แจ็ค หม่า จะจัดตารางผิดพลาดจนเขาไม่สามารถมาร่วมบันทึกเทปใน EP สุดท้ายได้จริง
เวทีสุดท้ายที่แจ็ค หม่า ปรากฏตัวคือ เวทีสัมมนาในเซี่ยงไฮ้ ที่แจ็ค หม่า ได้กล่าวถึงระบบกำกับดูแลของจีนที่ไม่สนับสนุนการสร้างนวัตกรรม และอาจเป็นคำกล่าวนั้นเองที่ทำให้เขาและบริษัทน้อยใหญ่ในอาลีบาบา (รวมถึงคู่แข่งอย่างเท็นเซนต์) ประสบปัญหายุ่งยากอยู่ในเวลานี้
คำกล่าวเต็ม ๆ ของแจ็ค หม่า ในเวทีดังกล่าวมีดังนี้
“What we need is to build a healthy financial system, not systematic financial risks,”
“To innovate without risks is to kill innovation. There’s no innovation without risks in the world.”
หลังจากนั้นเพียงหนึ่งวัน หน่วยงานด้านการกำกับดูแลของจีนก็เรียกแจ็ค หม่า และผู้บริหาร Ant Group เข้าพบ รวมถึงการ IPO ของ Ant Group ก็ถูกยกเลิกแบบกระทันหัน ไม่นับรวมการชี้แจงข้อกล่าวหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการผูกขาดตลาดของอาลีบาบาในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาด้วย
ตามการคาดการณ์ของสื่อต่างชาติ โดยเฉพาะสื่อจากตะวันตกก็คือ รัฐบาลปักกิ่งกำลังพยายามสกัดการเติบโตของแจ็ค หม่า และอาณาจักรของเขา ผ่านข้อหาต่าง ๆ เช่น การผูกขาดตลาด และการทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหลาย ๆ ฉบับที่อาจนำไปบังคับใช้กับบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ในอนาคต ซึ่งจะมีผลให้บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ขยับตัวได้ยากขึ้น ไม่คล่องแคล่วว่องไวเหมือนในอดีต
ด้านแจ็ค หม่า เอง ปัจจุบันเขายังคงเป็นผู้ถือหุ้น (individual shareholder) รายใหญ่ที่สุดของอาลีบาบา โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 5% หรือคิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
มหาเศรษฐีจีนควรเก็บตัว?
ข้อแตกต่างอีกข้อของแจ็ค หม่า เมื่อเทียบกับมหาเศรษฐีคนอื่น ๆ ของจีนก็คือ มหาเศรษฐีจีนคนอื่น ๆ จะค่อนข้างเก็บตัว และไม่ปรากฏตัวในข่าวต่าง ๆ มากนัก กระทั่งบุคคลที่รวยที่สุดในจีนอย่าง Zhong Shanshan เจ้าพ่อบริษัทน้ำดื่ม และยา ตามการจัดอันดับของ Bloomberg Billionaire Index ก็แทบไม่มีใครทราบข้อมูลของเขามากนัก
ส่วนแจ็ค หม่านั้นตรงกันข้าม เขาเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และชาติตะวันตก ซึ่งหลังจากการก้าวลงจากตำแหน่งประธานบริหารของอาลีบาบาเมื่อปี 2019 แจ็ค หม่ายังคงโพสต์เกี่ยวกับกิจกรรมการกุศลที่เขาทำอยู่เรื่อย ๆ ผ่านแพลตฟอร์ม Weibo ก่อนที่จะหยุดโพสต์ไปในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2020 จึงไม่แปลกที่จะเกิดคำถามว่าเขาหายไปไหน โดยเฉพาะในเวลาที่อาลีบาบา บริษัทที่เขาสร้างมากับมือกำลังเผชิญสถานการณ์ยากลำบากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งปรากฏการณ์นี้ทำให้หุ้นของอาลีบาบาในตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และในวันจันทร์ที่ผ่านมาก็ลดลงอีก 2.15% เลยทีเดียว