ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการอย่างมากตั้งแต่ธุรกิจ SME ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะไม่ใช่แค่การรับมือกับความไม่แน่นอนที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแล้ว แต่ยังต้องรับมือกับความท้าทายจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปแบบสุดขั้ว โดยเฉพาะช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัว ซึ่งนอกจากการงัดสารพัดกลยุทธ์มาใช้ในธุรกิจแล้ว การบริหารการเงินด้วย “ดิจิทัล” ยังเป็นอีกเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม แถมยังเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจผ่านพ้นความท้าทายในช่วงเวลานี้ไปได้ด้วย
อยากเข้าสู่โลกดิจิทัลแต่กลัวความยุ่งยาก-ซับซ้อน
ต้องยอมรับว่า การกลับมาของโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยคนทำงานเริ่มมีความคุ้นเคยกับการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ขณะที่เด็ก ๆ เริ่มคุ้นชินกับการเรียนออนไลน์มากขึ้น ส่วนผู้บริโภคเองก็ชินกับการสั่งของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร และการช้อปปิ้งสินค้า จนทำให้หลายคนชินกับวิถีชีวิตออนไลน์กันไปแล้ว
แม้การทำธุรกรรมออนไลน์จะเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าหลายธุรกิจต้องพบเจอกับปัญหาหลายอย่างในการทำธุรกรรมบนช่องทางดิจิทัล เช่น การใช้งานที่ยุ่งยาก เพราะต้องเข้าหลายระบบหลายแพลตฟอร์ม ทำให้จำรหัสเข้าใช้งานไม่ได้ แถมขั้นตอนยังซับซ้อน ทำให้ใช้เวลานานในการทำธุรกรรม ที่มากไปกว่านั้นเมื่อธุรกิจขยายกิจการเพิ่มขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้นด้วย แต่ระบบกลับไม่บอกว่าใครจ่ายเงินให้บริษัท ทำให้บางครั้งส่งผลต่อการตัดสินใจในการปรับแผนธุรกิจที่ไม่ถูกต้อง สุดท้ายทำให้ผู้ประกอบการหลายคนยังทำธุรกรรมแบบเดิมและทนกับปัญหาเดิม ๆ แบบนี้ต่อไป
จากปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ TMB เล็งเห็นอุปสรรคเหล่านี้ของลูกค้าธุรกิจ จึงพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อที่จะตอบโจทย์ Pain Points ของลูกค้าธุรกิจทุกขนาด จนเป็นที่มาของ Business ONE ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ที่เป็นมากกว่า Internet Banking ธรรมดาแต่เป็น Digital Business Management Platform ที่เชื่อมโยงส่วนของ Financial และ Non-Financial เข้าด้วยกันเพื่อให้เจ้าของธุรกิจสามารถบริหารธุรกิจได้จากที่เดียว ใช้งานง่าย และช่วยให้ธุรกิจไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือเล็กสามารถลดต้นทุนการทำธุรกรรมการเงินได้มากกว่าการทำธุรกรรมด้วยเงินสด ทำให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารธุรกิจต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น
แล้วทำไมต้องหันมาใช้ผู้ช่วยทางการเงินอย่าง Business ONE ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจล่ะ?
ต้องบอกว่าสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการขายสินค้าและบริการได้แล้ว ยังมีเรื่องของการบริหารจัดการข้อมูลทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว รวมถึงการลดต้นทุนด้วยการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งหากธุรกิจสามารถจัดการสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายนี้ได้
Business ONE ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ จึงไม่ใช่เป็นเพียง Internet Banking ที่รองรับการทำธุรกรรมทางการเงินดิจิทัลแบบธนาคารทั่วไปเท่านั้น แต่ถูกพัฒนามาจากประสบการณ์ของลูกค้าธุรกิจที่ใช้งาน Internet Banking จริง ๆ เพื่อให้ Business ONE ทำได้มากกว่าเรื่องการเงิน มาดูกันว่า Business ONE ได้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่างได้อย่างไรบ้าง
1. ช่วยให้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้สะดวก รวดเร็ว เพราะรวมทุกบริการไว้ในระบบเดียว
เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจหลายคนต้องประสบปัญหากับการทำธุรกรรมแต่ละอย่างที่ต้องเข้าหลายระบบ เช่น หากต้องการจ่ายเงินหรือโอนเงินให้คู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ หรือจะเบิกวงเงินสินเชื่อธุรกิจ ก็ต้องจำรหัสผ่านแต่ละระบบมากมาย แถมบางทียังต้องไปสาขาธนาคารเพื่อทำธุรกรรมบางอย่างอยู่ ด้วยปัญหาตรงนี้ ทำให้ Business ONE ได้พลิกโฉมด้วยการมี Financial Dashboard ที่ช่วยให้สามารถเห็นข้อมูลสำคัญทั้งหมดได้ในหน้าเดียว และสามารถทำทุกธุรกรรมผ่านระบบเดียว ไม่ต้องจำรหัสผ่านเยอะแยะอีกต่อไป รวมถึงการเพิ่ม ลดผู้ใช้งานก็สามารถทำได้ผ่านระบบ ไม่ต้องเสียเวลาไปสาขาธนาคารอีกต่อไป และที่สำคัญคือ สามารถใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน อีกด้วย
2. ช่วยให้ควบคุมธุรกิจได้จากระบบเดียว แถมมีตัวช่วยแนะนำการทำธุรกรรม และทำหลายรายการได้ในครั้งเดียว
เพราะการทำธุรกิจไม่ได้มีแค่เรื่องการทำธุรกรรมการเงินอย่างเดียวที่ต้องดู ไหนจะมีคู่ค้าหรือลูกค้าอีกมากมายที่ต้องติดต่อด้วย ดังนั้นการที่มีตัวช่วยอย่าง Payment Assistant เป็นระบบที่คอยช่วยแนะนำวิธีการโอนหรือจ่ายเงินให้เหมาะกับบัญชีปลายทางของผู้รับ จำนวนเงิน และวันที่รายการมีผล พร้อมสะดวกมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับ Live Search ที่เปรียบเสมือนมี search engine รวมรายการทุกอย่างไว้ในที่เดียว เพียงพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ไม่ว่าจะเป็นชื่อคู่ค้า จำนวนเงิน หรือ keyword อะไรก็ได้ ก็จะพบรายการที่ต้องการทันที ทำให้ในการทำธุรกรรมแต่ละครั้งง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และที่สำคัญคือ ไม่ว่าเจ้าของธุรกิจ หัวหน้าฝ่ายบัญชี หรือ จะเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล ย่อมมีหน้าที่ที่ดูแลแตกต่างกัน ดังนั้น Business ONE จึงให้ความสำคัญกับ Personalization ที่สามารถเลือกออกแบบหน้าจอการใช้งานได้ตามกลุ่มผู้ใช้งานของแต่ละคน เช่น หัวหน้าฝ่ายบุคคลไม่จำเป็นต้องเข้าหลายเมนูกว่าจะเจอเรื่องทำจ่ายเงินเดือน สามารถตั้งเมนูการจ่ายเงินเดือนไว้ตั้งแต่หน้าแรกได้เลย ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้งานได้ตรงตามความต้องการของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี
3. ช่วยให้ทบทวนข้อมูลภาพรวมทางการเงินของธุรกิจได้ด้วยตนเอง ทำให้พร้อมสั่งการหรือปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจได้ทันท่วงทีกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการต้องหมั่นดูภาพรวมการเงินอย่างละเอียด เพราะการทบทวนสถานะทางการเงินอย่างถ่องแท้ จะช่วยให้ธุรกิจอยู่เหนือคู่แข่งได้มากขึ้น ทั้งยังเห็นช่องโหว่ด้านการเงินและสามารถเข้าไปจัดการได้ทันท่วงที เช่น ถ้าธุรกิจขายส่งสินค้า เวลาไปเอาสินค้ามาขายเขาให้เครดิต 15 วัน ขณะที่ธุรกิจมาปล่อยเครดิตให้ลูกค้า 30 วัน ซึ่งถ้ายอดขายไม่เพิ่ม จะทำให้เงินจมกับลูกค้านานเกินไป และกลายเป็นลูกหนี้เพิ่ม ธุรกิจก็ต้องปรับช่วงเวลาใหม่โดยอาจขอเครดิตเจ้าหนี้นานขึ้นให้พอดีกับที่ให้เครดิตลูกค้า หรือขอลดเวลาการเก็บเงินจากลูกค้าลงเพื่อให้พอดีกับที่ต้องเอาเงินไปจ่ายเจ้าหนี้
ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายคนมักจะมอบหมายให้หัวหน้าบัญชีมาดูแลสถานะทางการเงินของธุรกิจ แต่ต้องบอกว่า ไม่มีใครสามารถดูแลธุรกิจได้ดีกว่าตัวเราเอง อีกทั้งปัจจุบันการดูสถานะทางการเงินไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะ Business ONE มีฟีเจอร์ Smart Dashboard ที่ช่วยให้เห็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ในเชิงกราฟที่เข้าใจง่าย และสามารถวิเคราะห์ได้ตอนนั้นเลยว่าสุขภาพทางการเงินของธุรกิจในแต่ละช่วงเป็นอย่างไร มาพร้อมกับตัวช่วยอย่าง Statement Enrichment ที่สามารถรู้ได้ทันทีว่าใครเป็นผู้โอนเงินเข้ามาในบัญชี กระทบยอดได้ทันที ช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้อีกทาง เพราะสามารถคาดการณ์เงินในอนาคต และตัดสินใจต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
และอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า การทำธุรกิจไม่สามารถดูได้แค่เรื่องการเงินอย่างเดียว ต้องมีเรื่อง ๆ อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ ทำให้ Business ONE ออกแบบระบบที่รองรับ Open API คือสามารถเชื่อมต่อ Financial Solutions กับ Non-Financial Solutions เข้าด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน HR Management ที่ช่วยให้บริหารเรื่องพนักงานและการจ่ายเงินเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สรุปง่าย ๆ Business ONE ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ จึงเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบครบวงจรที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยลดต้นทุน และสามารถวางแผนจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำพาธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต อีกทั้ง Business ONE เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งของ TMB ได้เป็นอย่างดี เพราะ TMB ต้องการให้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยในการบริหารธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ไม่ได้ต้องการให้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่คนหรือเจ้าของกิจการ เพราะสุดท้ายแล้วอำนาจการตัดสินใจก็อยู่ที่คนนั่นเอง
ถ้าไม่อยากตามหลังคนอื่น และพร้อมจะก้าวสู่สิ่งใหม่ ๆ ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดและเติบโตได้ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tmbbank.com/brandbuffet/fb หรือติดต่อสอบถามได้ที่ Corporate Call Center โทร. 02-643-7000