มีการคาดการณ์ว่า ความต้องการในการใช้กระแสไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2050 จะเพิ่มขึ้นจากตอนนี้อีกประมาณหนึ่งเท่าตัว นั่นเลยทำให้หลายประเทศทั่วโลกที่พัฒนาแล้วเริ่มมองหาวิธีผลิตไฟฟ้าที่หลากหลาย แถมต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมโลกกันมากขึ้น
หนึ่งในประเทศที่กล่าวมาคือญี่ปุ่น โดยหลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศว่าจะก้าวข้ามเชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาดให้ได้ภายในปี 2050 ก็เริ่มมีข่าวคราวการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดจากบริษัทภายในประเทศออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น กรณีของโตชิบา (Toshiba) ที่กำลังนำผลงานของนักวิจัยชาวญี่ปุ่นเรื่อง Perovskite photovoltaic cells ซึ่งเป็นเซลล์ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้จากพลังงานแสงอาทิตย์มาพัฒนาปรับปรุงอยู่อย่างขะมักเขม้น
ความพิเศษของ Perovskite Cell ก็คือมันมีความบาง และโปร่งใส จนสามารถเคลือบลงบนวัตถุต่าง ๆ เช่น สมาร์ทโฟน เครื่องขายของอัตโนมัติ รถยนต์ไฟฟ้า หรือแม้แต่ผ้าม่านได้ ด้วยเหตุนี้ เคนจิ โทโดริ (Kenji Todori) นักวิจัยจากโตชิบาจึงมองว่ามันคือโซลาร์เซลล์แห่งอนาคตที่สามารถเคลือบลงไปบนวัสดุประเภทต่าง ๆ และมีโอกาสที่จะนำมาใช้แทนโซลาร์เซลล์ในปัจจุบันได้เลย
ข้อจำกัดเดียวที่ยังทำให้การใช้งาน Perovskite solar cells ยังไม่แพร่หลายอาจเป็นเรื่องราคา ซึ่งหากโตชิบาสามารถพัฒนา Perovskite solar cells ให้มีราคาถูกลงได้ มันจะเป็นแหล่งผลิตพลังงานที่น่าสนใจตัวหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ และสามารถตอบโจทย์ Zero Emission ของประเทศได้ด้วย
แต่ญี่ปุ่นไม่ได้มีแหล่งพลังงานทางเลือกเพียงแค่นี้ เพราะนอกจาก Perovskite Cell แล้ว ยังมีการวิจัยพลังงานทางเลือกของ Kyuden Mirai Energy เกี่ยวกับพลังงานจากคลื่นด้วย โดย Nikkei ระบุว่า ภูมิประเทศของญี่ปุ่นเป็นหมู่เกาะ แหล่งพลังงานนี้จึงเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นมีอยู่อย่างเหลือเฟือ และมีตลอดเวลา ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่าโปรเจ็คนี้จะช่วยให้ญี่ปุ่นสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เท่ากับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 20 เครื่องเลยทีเดียว