การพัฒนารถยนต์ของ Apple หรือที่หลายคนเรียกว่า Apple Car กลับมาเป็นที่จับตาอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีการยกชื่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีอย่าง ฮุนได (Hyundai) ขึ้นมาประกบอย่างใกล้ชิด เห็นได้จากรายงานล่าสุดของทาง CNBC ที่อ้างแหล่งข่าวว่า ทั้ง Apple และ Hyundai อาจมีการเซ็นสัญญามูลค่า 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐกันในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อใช้โรงงานของ Kia Motor บริษัทลูกของ Hyundai ผลิตรถยนต์ Apple Car อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ สถานที่ผลิต Apple Car คาดว่าจะเป็นโรงงานของ Kia Motor ในย่านเวสต์พอยต์ รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา โดยมีการประเมินกันว่า เป้าหมายแรกในการผลิตรถนั้นอยู่ที่ 100,000 คันต่อปี และมีกำหนดจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024 ซึ่งรถที่ผลิตจากโรงงานดังกล่าวจะไม่ใช่รถยนต์ยี่ห้อ Kia ที่ภายในมีซอฟต์แวร์ของ Apple หากแต่เป็น Apple Car ตัวจริงเสียงจริงที่ Apple ควบคุมเองทุกกระบวนการ ทั้งซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และแบตเตอรี่ ที่สำคัญ รถคันนี้จะต้องขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วย
หุ้นของ Hyundai และ Kia Motor ปรับตัวเพิ่มขึ้นทันที 14.5% หลังจากข่าวชิ้นนี้เผยแพร่ออกไป และจนถึงวันนี้ก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทั้ง Apple และ Hyundai ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใด ๆ เพิ่มเติม
เหตุที่ดีลดังกล่าวเป็นที่จับตา ส่วนหนึ่งมาจากผู้บริหาร Hyundai เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทเป็นหนึ่งในคู่เจรจากับ Apple เรื่องการผลิตรถยนต์ด้วยเช่นกัน (แต่ในภายหลังได้มีการปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยบอกว่าการเจรจายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ) แต่การให้ข้อมูลครั้งนั้นก็น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า การพัฒนา Apple Car นั้น ต้องหาพาร์ทเนอร์ในการผลิต
ข่าวลือเกี่ยวกับการพัฒนา Apple Car เริ่มปรากฏตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งในช่วงนั้น Apple ได้มีการว่าจ้างวิศวกรที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่จนถึงทุกวันนี้ Apple ก็ยังไม่เคยปริปากเล่าเกี่ยวกับโปรเจ็คดังกล่าวต่อสาธารณะแต่อย่างใด และทำให้โปรเจ็ค Apple Car เป็นความลับที่ใครต่อใครก็อยากจะรู้มาโดยตลอด โดยหนึ่งในคนดังที่ทำให้ข่าวดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นก็คืออีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผู้ก่อตั้งเทสล่า (Tesla) เนื่องจากเขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า Apple คู่แข่งในอนาคตของ Tesla (ส่วนหนึ่งในคำให้สัมภาษณ์ของอีลอน มัสก์คือการบอกว่า ถ้าคุณไม่มาทำรถอัตโนมัติที่ Tesla คุณก็ไปทำที่ Apple)
ส่วนหนึ่งที่ทำให้อีลอน มัสก์เอ่ยปากออกมาตรง ๆ อาจเป็นเพราะวิศวกรของ Tesla ที่ลาออกไปนั้น จุดหมายปลายทางของพวกเขาก็คือบริษัท Apple นั่นเอง ซึ่งวิศวกรเหล่านี้ คงไม่นำความรู้ด้านยานยนต์ที่มีไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจสมาร์ทโฟนเป็นแน่
ที่สำคัญ การทำให้บริษัทมูลค่าล้านล้านเหรียญสหรัฐของ Apple เติบโตต่อไปนั้น บางทีจุดหมายปลายทางของพวกเขาอาจไม่ใช่ธุรกิจสมาร์ทโฟนมูลค่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐอีกต่อไป แต่อาจเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจด้านการคมนาคมขนส่งที่ Morgan Stanley ระบุว่ามีมูลค่า 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐก็เป็นได้ เพราะขอแค่ Apple มีส่วนแบ่ง 5% ในตลาดนี้ ก็เท่ากับมูลค่าตลาดสมาร์ทโฟนทั้งตลาดแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ มีรายงานจาก Bloomberg โดยอ้างแหล่งข่าวว่า การเจรจากันระหว่างแอปเปิล กับฮุนได เรื่องการผลิตรถยนต์ Apple Car ได้ยุติลงแล้ว และยังไม่สามารถระบุได้ว่า ทั้งคู่จะกลับมาเจรจากันอีกเมื่อไร โดยแหล่งข่าวระบุด้วยว่า แอปเปิลผิดหวังมากที่การเจรจาดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยออกไป ซึ่งผิดวิสัยของบริษัทที่ต้องการเก็บทุกเรื่องเป็นความลับสุดยอดนั่นเอง