จ๊อบส์ ดีบี (JobsDB) แพลตฟอร์มหางานเผยรายงานอัตราเงินเดือนของพนักงานไทยประจำปี 2564 (Salary Report 2021) ข้อมูลฐานเงินเดือนต่ำสุด-สูงสุดแบ่งตามประเภทงาน ครอบคลุมตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ถึงระดับผู้บริหาร
พบว่าในปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรมในทุกภาคส่วน จึงเป็นเหตุให้ความต้องการในตลาดแรงงานส่วนใหญ่เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีการจ่ายผลตอบแทนเพื่อดึงดูดคนทำงานเพิ่มมากขึ้นในสายเฉพาะทาง รายงานอัตราเงินเดือน แต่ละระดับงานดังนี้
ระดับเจ้าหน้าที่ (Officer Level) สายงานที่มีฐานเงินเดือนสูงสุด ได้แก่ 1. สายงานไอที 2. สายงานบริการเฉพาะทาง 3. สายงานโทรคมนาคม
ระดับหัวหน้างาน (Supervisor Level) 1. สายงานอีคอมเมิร์ซ 2. สายงานโทรคมนาคม 3. สายงานไอที
ระดับผู้จัดการ (Manager Level) 3 อันดับแรก คือ 1. สายงานประกันภัย 2. สายงานไอที 3. สายงานธนาคาร และ
ระดับผู้บริหาร (Top Level) 3 อันดับแรก ประกอบด้วย 1. สายงานบริการเฉพาะทาง 2. สายงานอีคอมเมิร์ซ 3. สายงานธนาคาร
ความต้องการแรงงานในปี 2563 ได้สะท้อนแนวโน้มการจ้างงานในปีนี้ของหลายภาคธุรกิจ โดยพบว่างานไอที เป็นสายงานที่มียอดตำแหน่งงานเปิดรับสูงสุดอันดับหนึ่ง
นอกจากนี้ จ๊อบส์ ดีบี ได้จัดทำรายงานอัตราเงินเดือนของพนักงานไทยประจำปี 2564 (Salary Report 2021) ใน 4 ระดับงาน ประกอบด้วย ระดับเจ้าหน้าที่ (Officer Level) ระดับหัวหน้างาน (Supervisor Level) ระดับผู้จัดการ (Manager Level) ระดับผู้บริหาร (Top Level) โดยพบข้อมูลฐานเงินเดือนต่ำที่สุด-สูงที่สุดแบ่งตามประเภทงาน ดังต่อไปนี้
1.ระดับเจ้าหน้าที่ (Officer Level)
- สายงานไอที มียอดเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดระหว่าง 23,225 ถึง 41,122 บาท
- สายงานบริการเฉพาะทาง ระหว่าง 22,872 ถึง 39,331 บาท
- สายงานโทรคมนาคม ระหว่าง 22,785 ถึง 38,612 บาท
- สายงานบริการด้านการแพทย์ ระหว่าง 21,945 ถึง 37,320 บาท
- สายงานอีคอมเมิร์ซ ระหว่าง 21,599 ถึง 35,283 บาท
- สายงานวิศวกรรม ระหว่าง 21,406 ถึง 35,571 บาท
- สายงานธนาคาร ระหว่าง 21,036 ถึง 37,623 บาท
- สายงานประกันภัย ระหว่าง 21,025 ถึง 34,860 บาท
- สายงานจัดซื้อ ระหว่าง 20,829 ถึง 33,442 บาท
- สายงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ ระหว่าง 20,524 ถึง 32,589 บาท
2.ระดับหัวหน้างาน (Supervisor Level)
- สายงานอีคอมเมิร์ซ มียอดเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดระหว่าง 36,857 ถึง 64,787 บาท
- สายงานโทรคมนาคม ระหว่าง 36,541 ถึง 67,134 บาท
- สายงานไอที ระหว่าง 36,522 ถึง 66,920 บาท
- สายงานบริการเฉพาะทาง ระหว่าง 35,962 ถึง 63,888 บาท
- สายงานประกันภัย ระหว่าง 35,802 ถึง 63,790 บาท
- สายงานบัญชี ระหว่าง 35,252 ถึง 58,403 บาท
- สายงานธนาคาร ระหว่าง 35,124 ถึง 64,460 บาท
- สายงานขนส่ง ระหว่าง 35,049 ถึง 55,624 บาท
- สายงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ ระหว่าง 35,037 ถึง 59,943 บาท
- สายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล ระหว่าง 34,919 ถึง 56,372 บาท
3.ระดับผู้จัดการ (Manager Level)
- งานประกันภัย มียอดเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดระหว่าง 55,762 ถึง 90,716 บาท
- สายงานไอที ระหว่าง 54,435 ถึง 93,324 บาท
- สายงานธนาคาร ระหว่าง 52,993 ถึง 94,481 บาท
- สายงานโทรคมนาคม ระหว่าง 52,353 ถึง 94,607 บาท
- สายงานบริการเฉพาะทาง ระหว่าง 52,274 ถึง 90,941 บาท
- สายงานบัญชี ระหว่าง 52,061 ถึง 86,158 บาท
- สายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล ระหว่าง 51,803 ถึง 85,079 บาท
- สายงานวิทยาศาสตร์ งานห้องปฏิบัติการ และงานวิจัยพัฒนา ระหว่าง 51,615 ถึง 88,427 บาท
- สายงานขนส่ง ระหว่าง 51,302 ถึง 80,680 บาท
- สายงานวิศวกรรม ระหว่าง 51,237 ถึง 84,776 บาท
4.ระดับผู้บริหาร (Top Level)
- สายงานบริการเฉพาะทาง มียอดเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดระหว่าง 113,563 ถึง 164,071 บาท
- สายงานอีคอมเมิร์ซ ระหว่าง 113,271 ถึง 161,588 บาท
- สายงานธนาคาร ระหว่าง 112,917 ถึง 165,114 บาท
- สายงานวิทยาศาสตร์ งานห้องปฏิบัติการ และงานวิจัยพัฒนา ระหว่าง 109,726 ถึง 160,753 บาท
- สายงานการผลิต ระหว่าง 109,566 ถึง 161,045 บาท
- สายงานบริการด้านการแพทย์ ระหว่าง 106,630 ถึง 158,478 บาท
- สายงานไอที ระหว่าง 105,135 ถึง 160,033 บาท
- สายงานบัญชี ระหว่าง 104,978 ถึง 159,970 บาท
- สายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล ระหว่าง 104,714 ถึง 156,134 บาท
- สายงานวิศวกรรม ระหว่าง 102,298 ถึง 153,763 บาท
จากรายงานอัตราเงินเดือนข้างต้น พบว่า สายงานไอที-ดิจิทัล ทุกระดับงานไต่อันดับขึ้นเมื่อเทียบกับผลการสำรวจเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเฉพาะในระดับเจ้าหน้าที่ (Officer Level) ที่ขึ้นแท่นอันดับ 1 จากอันดับ 3 อีกทั้งระดับหัวหน้างาน (Supervisor Level) และ ระดับผู้บริหาร (Top Level) ที่ติดโผสายงานหน้าใหม่ที่มีเงินเดือนสูง จากที่เคยอยู่ในอันดับ 13 และ 12 ตามลำดับ ในเวลาเพียงสองปี ตอกย้ำให้เห็นถึงความต้องการคนทำงานจากผลของการปฏิรูปและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Disruption)
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 สายงานที่น่าจับตามอง ได้แก่ สายงานโทรคมนาคม ที่ขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 5 ในระดับเจ้าหน้าที่ (Officer Level) ระดับหัวหน้างาน (Supervisor Level) และ ระดับผู้จัดการ (Manager Level) สายงานธนาคาร ที่ปรับขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 10 ของรายงานในทุกระดับงาน สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของทั้งสองสายงานหลังการปฏิรูปและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Disruption) เช่นกัน เห็นได้จาก ธนาคารต่าง ๆ ที่หันมาให้ความสำคัญกับ Digital Banking จนมียอดธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และปรับรูปแบบการให้บริการของธนาคารสู่ดิจิทัลเต็มตัว เป็นเหตุให้สายงานธนาคาร มีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านไอที การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างบริการใหม่ ๆ มาช่วยพัฒนาระบบ Digital Banking
สายงานโทรคมนาคม ที่พบว่า ไม่ได้มีเพียงแค่องค์กรยักษ์ใหญ่เท่านั้นที่มีสถิติฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่ยังรวมถึงองค์กรขนาดกลางและเล็กที่ลงสนามแข่งขันเพื่อแย่งชิงบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านไอทีมาช่วยพัฒนารากฐานระบบต่าง ๆ ขององค์กร ให้พร้อมต่อการประยุกต์ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในภาคเศรษฐกิจ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ที่สร้างปรากฏการณ์ New Normal ทำให้หลายองค์กรต้องหันมาปรับตัวพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ มากขึ้นอีกด้วย
10 สายงานที่ตลาดต้องการสูง
นอกจากนี้ JobsDB ยังได้เผยถึงความต้องการแรงงานประจำปี 2563 ซึ่งสะท้อนแนวโน้มการกลับมาของหลายภาคธุรกิจในปีนี้ พบ 10 อันดับสายงานที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาด ดังนี้
- สายงานไอที คิดเป็น 19%
- สายงานขาย งานบริการลูกค้า และพัฒนาธุรกิจ คิดเป็น 17%
- สายงานวิศวกรรม คิดเป็น 10%
- สายงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ คิดเป็น 8%
- สายงานบัญชี คิดเป็น 7%
- สายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล คิดเป็น 7%
- สายงานธนาคาร คิดเป็น 5%
- สายงานการผลิต คิดเป็น 3%
- สายงานขนส่ง คิดเป็น 3%
- สายงานบริการเฉพาะทาง คิดเป็น 2%
สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นในสายงานเหล่านี้ และเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัลที่สายงานไอที-ดิจิทัล กำลังได้รับความนิยม จ๊อบส์ ดีบี ยังได้มีการแนะถึง 3 ทักษะใหม่ที่คนทำงานต้องมีในยุค New Normal ได้แก่ ทักษะความรู้ด้านไอที ความสามารถในการสื่อสาร และความสามารถในการรู้จักและเข้าใจตัวเอง