การเกิดขึ้นของ COVID-19 สร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งต่อกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ และวิถีชีวิตของผู้บริโภค อย่างในตลาด FMCG หรือสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ความต้องการในตลาดยังคงมีอยู่ และหมวดหมู่มาแรงในเวลานี้ ต้องยกให้กับสินค้าเกี่ยวกับสุขอนามัย
ขณะเดียวกันตลาดขนมขบเคี้ยวโตสวนวิกฤตการแพร่ระบาดเช่นกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก Work From Home และ Learn From Home ทำให้คนซื้อขนมขบเคี้ยวสำหรับบริโภคภายในบ้านมากขึ้น
“Kantar” (คันทาร์) บริษัทวิจัยชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกและที่ปรึกษาทางการตลาดระดับโลก เผยข้อมูลผลกระทบจากวิกฤติ COVID-19 ที่มีต่อพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้า FMCG (Fast Moving Consumer Goods) ระดับโลก ปี 2020 ที่ผ่านมาและส่งผลต่อเนื่องในปี 2021 ถึงแม้ว่าเราจะเข้าสู่ปีใหม่แล้วก็ตาม แต่ในบางภูมิภาคก็ยังรู้สึกเหมือนกลับไปสู่ในยุคเริ่มต้นของการแพร่ระบาด
โดยพิจารณาอัตราการเติบโตของ FMCG ทั่วโลก หมวดหมู่สินค้าที่ได้รับผลกระทบ แบรนด์และผู้ผลิตที่ทำได้ดีท่ามกลางวิกฤติ และผลกระทบที่มีต่อพฤติกรรมการจับจ่ายอย่างแท้จริงของผู้บริโภค
FMCG ทั่วโลกโต 10% – สินค้าความงามกระทบหนักสุด!
การเติบโตของ Global FMCG คาดว่าจะแตะ 10% ภายในสิ้นไตรมาสที่ 1/2021 และเราอาจจะไม่ได้เห็นการเติบโตแบบ Double-digit ของสินค้า FMCG อีก ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยความไม่แน่นอนต่างๆ เช่น แผนการเปิดตัววัคซีน ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย กระแสการทำงานที่บ้านหลังการแพร่ระบาด และการเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดต่างๆ ที่ส่งผลโดยตรงกับผู้บริโภค
สำหรับกลุ่มสินค้าที่กระทบหนัก คือ สินค้า Health & Beauty จากเติบโตเร็วที่สุดกลายเป็นช้าที่สุด ท่ามกลางการแพร่ระบาด คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งเมื่อผู้บริโภคออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างปกติอีกครั้ง แน่นอนตรงกันข้ามกับสินค้าหมวดอาหารที่เติบโตขึ้นขณะผู้บริโภคอยู่บ้าน
เปิดโผแบรนด์ และผู้ผลิต FCMG โตมากสุดในเอเชีย สวนวิกฤต COVID-19
สถานการณ์ COVID-19 ไม่เพียงแต่สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าเชื้อโรคที่ได้รับอานิสงส์จากวิกฤตินี้ แต่แบรนด์ขนมขบเคี้ยวก็ยังได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาดอีกด้วย บ่งชี้ว่าแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ก็ยังมีโอกาสที่จะชนะใจในการตอบสนองของผู้บริโภคและการกู้คืนสถานการณ์ยอดขายของตัวเอง
4 แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่เติบโตมากสุดในเอเชีย ประกอบด้วย
อันดับ 1 Dettol ของ Reckitt Benckiser มีอัตราการเติบโต 60%
อันดับ 2 Harpic ของ Reckitt Benckiser อัตราการเติบโต 44%
อันดับ 3 Cheetos ของ PepsiCo มีอัตราการเติบโต 14%
อันดับ 4 Nestea ของ Nestle และ Doritos ของ PepsiCo มีอัตราการเติบโต 13%
ขณะที่บริษัทผู้ผลิต พบว่ามีเพียง 3 รายที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในเอเชีย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ผลิตแบรนด์ระดับโลก ได้แก่ Reckitt Benckiser, Kellogg’s และ Pepsico
7 เทรนด์ตลาด FMCG และผู้บริโภคที่นักการตลาดควรโฟกัส
ผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจจะคงอยู่กับเราไปอีกสักระยะ โลกของ FMCG จะมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ในฐานะแบรนด์ต้องไม่เพียงแต่วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดภายในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ต้องจับกระแสตลาดทั้งโลกให้ได้ เทรนด์ที่นักการตลาดควรตระหนักหลังจากนี้
1. สินค้าที่เน้นสุขอนามัย มีความจำเป็นช่วงนี้และหลังจากนี้ แบรนด์ต้องทำให้เกิด “Trust” และสินค้าต้องทำใช้งานง่าย
2. ผู้บริโภคจะ Work-from-home กันมากขึ้น กว่าช่วง Pre-COVID อาหารคลีนกำลังได้รับความนิยม
3. ความเป็นอยู่ที่ดี ผู้บริโภคมองว่าจิตใจมีความสำคัญเท่ากันกับร่างกาย
4. การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change) ส่งผลให้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลและการจัดหาอย่างยั่งยืนเป็นที่โดดเด่นในการแข่งขัน ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมตัวเองเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซ
5. การเปิดรับ E-Commerce จะสูงขึ้น ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการจับจ่ายใหม่
6. กลยุทธ์ Premiumization จะเป็นช่องทางในการเติบโตของแบรนด์ในอีก 3 ปีข้างหน้า
7. การ Fragment ผู้บริโภค ยังคงดำเนินต่อไป และการตลาดมวลชนแบบ “Personalized” จะถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
Credit Photo : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand