Li Jiaqi หรือ Austin Li เจ้าของฉายา Lipstick King ไม่เพียงเป็นบุคคลทรงอิทธิพลที่มีผู้ติดตามกว่า 80 ล้านคน แบรนด์ต่าง ๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ในปี 2021 นี้ เขายังติดทำเนียบ “TIME100 Next” ในหมวด Innovators ร่วมกับคนดังจากอีกหลากหลายวงการด้วย
เขาเป็นใคร และมาถึงจุดที่ได้ฉายา “Lipstick King” ได้อย่างไร เราขอชวนไปดูเส้นทางการเติบโตของเขากัน
จากพนักงานขายเครื่องสำอาง สู่ “Lipstick King”
Li เริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นพนักงานขายเครื่องสำอางของ L’Oréal ในเมือง Nanchang ซึ่งเป็นเมืองระดับ Second-Tier ของจีน ในเวลานั้น เขาบอกว่าไม่คุ้นเคยกับการไลฟ์สตรีมมิ่งเลย แต่เจ้านายก็สนับสนุนให้เขาลองเป็น Online BA หรือพนักงานแนะนำสินค้าออนไลน์ให้กับทางแบรนด์ผ่านการไลฟ์สตรีมมิ่งบนเถาเป่าเมื่อปี 2017 (โดยเขายอมรับด้วยว่าในช่วงไลฟ์ครั้งแรก ๆ นั้น ยอดการรับชมค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่ที่ทำเพราะมองว่าการทำงานเพิ่มอีกสัก 2 ชั่วโมงน่าจะทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้น)
ในช่วงแรก เขายอมรับว่ากำลังจะยอมแพ้ แต่เจ้านายของเขาบอกว่า ขอให้ลองสู้กับมันสัก 3 วันติดกัน ซึ่งเขาก็ทำตาม และพบว่า ผลลัพธ์ในวันต่อมานั้นดีขึ้นเท่าตัว และวันที่ต่อมาก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นทำให้เขาบอกกับใคร ๆ ว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเจ้านายครั้งสำคัญก็คือการ “Stick at it for another three days”
Li เผยว่า ในช่วงสองปีแรกอาจไม่ใช่ปีที่เขาได้รับความสนใจนัก จนกระทั่งปี 2019 ที่ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง กับผลงานการช่วยกันกับ Jack Ma ขายสินค้าในเทศกาลคนโสดในปี 2019 (บนเถาเป่า) ได้ถึง 145 ล้านเหรียญสหรัฐ (เขาเปิดเผยภายหลังว่า เขาไม่ได้นอนเลยเป็นเวลา 48 ชั่วโมงต่อเนื่องเพื่อเทศกาลดังกล่าว และนั่งแต่งหน้าแต่ตาหลับจนแฟน ๆ ที่นั่งดูไลฟ์อยู่ต้องบอกว่าให้เขาไปนอนพักก่อน และไม่ต้องกังวล เมื่อเขาตื่นขึ้นมา พวกเธอก็พร้อมจะอยู่ตรงนี้เพื่อซื้อของอยู่ดี)
การไลฟ์ในเทศกาล 11.11 ของ Li ยังสามารถดึงดูดผู้ชมได้มากกว่า 36 ล้านคน นอกจากนั้นยังมีผลงานในปี 2018 ที่เขาเคยขายลิปสติกได้ถึง 15,000 แท่งภายใน 5 นาทีมาแล้วเช่นกัน
Li เผยด้วยว่า ไม่เฉพาะเครื่องสำอาง แต่เมื่อแฟนคลับให้ความไว้วางใจ พวกเธอก็มักมาถามว่า มีสินค้าอย่างอื่นเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหาร ฯลฯ ที่น่าสนใจอีกไหม นั่นทำให้เขาเริ่มจับมือกับแบรนด์เครื่องใช้ในบ้าน – อาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งผลของหลาย ๆ โปรเจ็คที่ Li เล่าก็คือ ยอดขายสินค้าชนิดนั้น ๆ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว บางรายหลังจากทดลองไลฟ์แนะนำสินค้าไป 5 นาที ยอดขายสินค้าดังกล่าวก็พุ่งขึ้นแตะ 100,000 ชิ้นเลยทีเดียว
4 เคล็ดลับนักขายของ “Lipstick King”
เคล็ดลับของ Li ในการสร้างผลงานที่โดดเด่นมีองค์ประกอบหลายอย่างผสมกัน หนึ่งในนั้นคือเรื่องของจุดที่ทาลิปสติก เพราะ Li เป็นคนที่ไม่ทาลิปสติกลงบนแขนแบบที่สาว ๆ บล็อกเกอร์หลายคนชอบทำ ตรงกันข้าม เขาเลือกที่จะทาลิปลงบนริมฝีปากเขาเอง โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้ผู้ชมทางบ้านได้เห็นสีจริง ๆ ว่าพอทาแล้วเป็นอย่างไร
ข้อสอง “ความเร็ว” ก็มีส่วนสำคัญ โดย Li สามารถลองลิปสติกสีต่าง ๆ ได้รวดเร็วมาก และเขาเคยจัดไลฟ์สตรีมมิ่งที่มีการลองสีลิปสติกมากถึง 380 สีภายในเวลา 7 ชั่วโมงมาแล้วด้วย และด้วยสปีดที่กล่าวมานี้ ทำให้เขาได้รับการบันทึกลงในกินเนสบุ๊กด้วยว่าเป็น “the most lipstick applications to models in 30 seconds”
ข้อสาม เอกลักษณ์ที่ทำให้ Li เข้าถึงใจสาว ๆ ทั่วเมืองจีน “การทำตัวเหมือนเพื่อน” โดย Li บอกว่าเขาวางโพสิชันตัวเองไว้ประมาณเพื่อนชายข้างบ้านที่พร้อมจะแนะนำสิ่งดี ๆ ให้กับลูกค้าสาว ๆ เหล่านั้น
ความสำเร็จประการสุดท้ายมาจาก การใช้คำศัพท์ที่เขาใช้ในการบรรยายสรรพคุณของสินค้า Li มีคลังศัพท์ที่หลากหลาย และน่าสนใจ การเรียกสีของลิปสติกของเขาไม่ใช่แค่บอกว่ามันมีสีฟ้า สีพีช หรือสีม่วง แต่เขาจะบรรยายเพิ่มลงไปให้มันน่าดึงดูดมากขึ้น เช่น สีพีชที่ทำให้หัวใจหยุดเต้น หรือสีฟ้าที่อ่อนโยนเหมือนสายน้ำ เป็นต้น ซึ่งเขาเล่าว่า คลังศัพท์เหล่านี้ เขาสะสมเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เป็นพนักงานขายตัวเล็ก ๆ ให้กับ L’Oréal ในเมือง Nanchang นั่นเอง
ผันตัวช่วยงานรัฐบาล
ส่วนผลงานในปี 2020 ยุคที่จีนเผชิญกับ Covid-19 เขาก็ผันตัวมาช่วยงานรัฐบาล ด้วยการนำพืชผลการเกษตรของเมืองอู่ฮั่นมาช่วยโปรโมตบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมือง ซึ่งสามารถทำเงินได้นับสิบล้านหยวนในการไลฟ์แต่ละครั้ง
ไม่เพียงเท่านั้นเขายังช่วยระดมทุนผ่านไลฟ์สตรีมเพื่อหาเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 และยังได้บริจาคหน้ากากอนามัย 40,000 ชิ้นให้กับศูนย์ควบคุมโรคระบาดในเมืองอู่ฮั่นด้วย
ความสามารถของ Li ทำให้เขาได้รับตำแหน่ง Hukou จากเมืองเซี่ยงไฮ้ และได้รับสิทธิพิเศษในฐานะ Talent ของทางเมืองด้วย (เซี่ยงไฮ้มีโปรแกรมดังกล่าวเพื่อดึงดูดคนเก่ง ๆ ให้เข้ามาทำงานและพักอาศัย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็มีเมืองใหญ่ของจีนหลายแห่งเริ่มทำตามแล้วเช่นกัน)
สื่อจีนยังรายงานด้วยว่า รายได้ของเขาในปี 2019 นั้นแซงหน้าบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมากไปแล้ว โดยรายได้ของเขาในปีดังกล่าวอยู่ที่ 29 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
ชื่อของ Li ในหมวด Innovators ของ Time100 NEXT ยังอยู่เคียงข้างกับ Innovator หลายคนที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น Rohan Pavuluri เจ้าของแอปพลิเคชัน Upsolve แอปที่ให้ผู้ใช้งานยื่นล้มละลายได้ด้วยตัวเอง หรือ Chloe Zhao ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีนชื่อดังด้วย