HomeInsightนีลเส็นไอคิว เผยผลวิจัย ผู้บริโภค 64% ยังลังเลฉีดวัคซีน

นีลเส็นไอคิว เผยผลวิจัย ผู้บริโภค 64% ยังลังเลฉีดวัคซีน

แชร์ :

การระบาดของโควิด-19 ถือเป็นวิกฤติที่ยากจะลืม เพราะนอกจากจะทำให้วิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ยังสร้างผลกระทบต่อการทำธุรกิจมากมาย และหลายคนคาดการณ์ว่าสถานการณ์เหล่านี้คงจะลากยาวไปอีกพักใหญ่ เพราะถึงแม้จะเริ่มมีวัคซีนออกมาปราบโควิด-19 และเริ่มใช้ในหลายประเทศแล้ว แต่ผู้คนยังคงลังเลหรือไม่ต้องการฉีดวัคซีน ขณะที่พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคเองอาจยังไม่เปลี่ยนทันที

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

บริษัท นีลเส็นไอคิว (NielsenIQ) ได้ทำการสำรวจผู้บริโภคกว่า 11,000 คนใน 15 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย แอฟริกาใต้ สเปน ไทย ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนธันวาคม 2563 เพื่อสะท้อนความคิดเห็น พฤติกรรมผู้บริโภค และสภาพเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหลังการมาของวัคซีนโควิด-19 เพื่อธุรกิจจะได้ปรับตัวและเตรียมความพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที

“ความมั่นใจ” กำแพงสำคัญที่คนยังลังเล ไม่ฉีดวัคซีน

จากผลสำรวจระบุว่า หากวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองให้ใช้งานมาถึง ผู้บริโภคเกือบ 2 ใน 3 หรือประมาณ 64% จะไม่รับการฉีดวัคซีนในทันที เนื่องจากผู้บริโภคมีความลังเลและกังวลในวัคซีน ส่งผลให้ผู้บริโภคกว่า 52% ลังเลที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายในทันที โดยกว่า 58% ขาดความมั่นใจในการรับประทานอาหารนอกบ้าน ขณะที่ 65% ไม่มั่นใจในการเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬา และอีกกว่า 70% กังวลเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลให้เศรษฐกิจอาจฟื้นตัวได้ช้า

“ระดับความเชื่อมั่นเกี่ยวกับวัคซีนและความต้องการที่จะรับวัคซีนอาจเปลี่ยนแปลงไป เมื่อประเทศต่างๆ เริ่มให้มีการใช้มากขึ้น รวมถึงให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีน แต่ขณะเดียวกันก็มีหลายสัญญาณที่บ่งชี้ว่าการมีวัคซีนจะไม่ทำให้โลกกลับมาเป็นเหมือนช่วงก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิดได้”

คุณ Scott McKenzie หัวหน้าทีม Global Intelligence บริษัทนีลเส็นไอคิว ย้ำถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่อาจจะไม่เหมือนเดิม โดยเหตุผลหลักเนื่องมาจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้วางแผนที่จะรับวัคซีนทันที โดย 41% จะขอรอเวลาก่อน ขณะที่ 12% จะไม่รับวัคซีนเลย และผู้บริโภคจำนวนมากกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 36% ระบุว่าจะรับวัคซีนทันที ในขณะที่ 11% ยังไม่แน่ใจ

นอกจากนี้ ผลสำรวจ ยังชี้ให้เห็นว่า ความพร้อมและจำนวนวัคซีนที่แพร่หลายจะทำให้ผู้บริโภคบางส่วนกลับมามีความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายมากขึ้น โดยพบว่า 16% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายในสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้น ขณะที่ 12% จะใช้จ่ายน้อยลง และผู้บริโภคจำนวนมากที่สุดยังคงมีความต้องการใช้จ่ายเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม 72% ของผู้บริโภคจะใช้จ่ายอย่างมีสติมากขึ้น

ผู้บริโภคชาวไทย แนวโน้มออมเงินและทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น

สำหรับผู้บริโภคชาวไทยกลับพบว่า มีทัศนคติเชิงบวก โดยผู้บริโภคจำนวนมากกว่าครึ่ง 53% มั่นใจจะกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ หากได้รับการยืนยันถึงช่วงเวลาที่สามารถรับวัคซีนโควิด-19 ที่ผ่านการรับรองแล้ว และหลังจากวัคซีนมีการฉีดอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ผู้บริโภคจะมีการใช้จ่ายเงินกับการออมเงินหรือการลงทุนมากขึ้น 32% และออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน 29%

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand


แชร์ :

You may also like