ในยุค Covid-19 ที่หลายคนต้องนั่งทำงานอยู่บ้านคนเดียว บางครั้งอาจจะดีกว่าหากมีอะไรนุ่ม ๆ วางไว้ใกล้มือให้ลูบคลำเล่นแก้เหงา ซึ่งหลายคนที่ยอมเป็นทาสแมวกันก็อาจมาจากเหตุผลนี้ ส่วนคนที่ยังรับผิดชอบชีวิตน้องแมวไม่ไหว แต่อยากมีเพื่อนคู่ใจในบ้าน ทางพานาโซนิค (Panasonic) ก็อยากเอาใจด้วยเพื่อนรักคนใหม่ในรูปแบบหุ่นยนต์จิ๋วชื่อนิโคโบะ (Nicobo)
การใช้ชีวิตร่วมกับ Nicobo ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแต่เจ้าของต้องอุ้มมันไปด้วยหากอยากให้มันย้ายที่ เพราะด้วยเวอร์ชันแรกนี้ มันยังไม่สามารถเดินเองได้
Nicobo น้ำหนักประมาณ 1.2 กิโลกรัม เส้นผ่าศูนย์กลาง 21 เซนติเมตร ชาร์จหนึ่งครั้งอยู่ได้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ส่วนวัสดุที่หุ้มตัว Nicobo มีลักษณะคล้ายถุงเท้าหนา ๆ ให้ความรู้สึกนุ่ม สามารถจับเล่นได้ แถม Nicobo สามารถสร้างเสียงผายลมให้ขำเล่น ๆ ได้ด้วย
Nicobo เป็นผลงานการพัฒนาของ Panasonic ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี Toyohashi โดยพวกเขาบอกว่า นี่เป็นโปรเจ็คที่ต้องการศึกษาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์อย่างจริงจัง เหตุที่ต้องทำเช่นนั้น เพราะเครื่องมือสื่อสาร และเทคโนโลยีต่าง ๆ รอบตัวเราในวันนี้ ได้เปลี่ยนรูปแบบความสัมพันธ์ของคนไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้คนเพียงอย่างเดียวจึงอาจไม่เพียงพออีกต่อไป พานาโซนิคจึงมองว่า การทำให้คนรู้สึกมั่นคง เป็นตัวของตัวเอง หรือรู้สึกว่าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เวลาอยู่ที่บ้าน เป็นเรื่องท้าทายใหม่ของพานาโซนิคเช่นกัน และพวกเขาก็มองว่าหุ่นยนต์นี่แหล่ะคืออาวุธลับที่จะช่วยให้เข้าใจอินไซต์เหล่านั้น
ด้วยเหตุนี้ Nicobo เวอร์ชันแรกจึงถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด Weak Robot ที่ไม่ใช่หุ่นยนต์สุดล้ำช่วยเก็บผ้า – ทำงานบ้าน แต่เป็นหุ่นยนต์อ้อน ๆ หมุนไปหมุนมา และตดได้
ทางเว็บไซต์ของพานาโซนิคบอกด้วยว่า มันอาจยังพูดได้ไม่คล่องนัก แถมบางครั้งสิ่งที่มันพูดออกมาอาจจับใจความไม่ได้ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า เป็นภาษาแบบ Katakoto หรือภาษาเด็กที่กำลังหัดพูดกันประมาณนั้นเลย แต่ Nicobo ก็มีอย่างอื่นมาทดแทน นั่นคือ มันมาพร้อมกล้องดิจิทัล สามารถจดจำใบหน้าของเจ้าของได้หลายคน และมีไมโครโฟนติดตั้งเอาไว้หลายตัวเพื่อให้มันหันไปมาตามเสียงได้ และที่สำคัญ มันน่ารักทีเดียวล่ะ
อย่างไรก็ดี หุ่นยนต์ Nicobo ตัวนี้ไม่ได้ขายตามช่องทางปกติ เพราะพานาโซนิคเปิดให้พรีออเดอร์ผ่านเว็บไซต์ระดมทุนของทางบริษัทเท่านั้น โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะระดมทุนให้ได้ 10 ล้านเยนก่อนจึงจะผลิต และตอนนี้ก็ทำสำเร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีผู้ได้ครอบครอง Nicobo เวอร์ชันแรกนี้ประมาณ 300 คน แต่คนที่จะได้ครอบครอง Nicobo อาจไม่ได้จบแค่จ่ายเงินก้อนนี้ก้อนเดียว เพราะหลังจาก 6 เดือนเป็นต้นไป จะมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเดือนละ 10 เหรียญสหรัฐ เพื่อแลกกับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมด้วย