เวฟเมคเกอร์ มีเดียเอเยนซี่ผู้ดูแลและบริหารสื่อชั้นนำในเครือ กรุ๊ปเอ็ม กลุ่มบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการลงทุนสื่อ ระดับโลกของ ดับบลิวพีพี เปิดตัวแพลตฟอร์มการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดรูปแบบใหม่อย่างเป็นทางการทั่วโลกภายใต้ชื่อ ‘Maximize’ โดย “Maximize” จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักวางแผนสามารถสร้างแผนกลยุทธ์การวางสื่อโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายได้พร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที
ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้นในทุกวัน ส่งผลให้ขั้นตอนการทำงานของนักการตลาดรวมถึงเอเยนซี่บนการสร้างและบริหารแบรนด์มีความซับซ้อนและต้องใช้เวลามากขึ้น เครื่องมือ “Maximize” ของเวฟเมคเกอร์จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายได้อย่างแม่นยำด้วยระบบ AI และ Machine Learning ที่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลระดับโลกอย่าง GroupM LivePanel รวมไปถึง Momentum ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเฉพาะของเวฟเมคเกอร์ทั่วโลก ทำให้นักการตลาดและทีมงานวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารสามารถมองภาพรวมและเลือกใช้สื่อโฆษณาผ่านช่องทางที่เหมาะสมเพื่อนำเสนอโอกาสและผลลัพธ์ทางการลงทุนทางการตลาดภายใต้ระยะเวลาที่สั้นและดีที่สุดให้กับแบรนด์ของลูกค้าที่เวฟเมคเกอร์ดูแล
คุณโทบี้ เจนเนอร์ Global CEO ของเวฟเมคเกอร์ อธิบายเพิ่มเติมว่า “ก่อนหน้านี้รูปแบบของการวางแผนกลยุทธ์สื่อสารทางการตลาดจะมีความคล้ายกันหมด” “Maximize จะเปลี่ยนข้อจำกัดของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่เคยมีด้วยการรวมฐานข้อมูลคุณภาพพร้อมกับเทคโนโลยี AI ซึ่งจะส่งผลให้ต่อจากนี้การวางแผนสื่อโฆษณาสำหรับลูกค้าของเวฟเมคเกอร์จะมีความได้เปรียบทั้งด้านประสิทธิภาพและความเร็ว”
การที่เวฟเมคเกอร์ได้รับเลือกให้เป็นมีเดียเอเยนซี่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของไตรมาสที่ 1-3 ผ่านการจัดลำดับของ COMvergences ในปีที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งมาจากแพลตฟอร์ม Maximize ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างแผนกลยุทธ์การวางแผนสื่อได้มากขึ้นถึง 30% ไม่ว่าจะสำหรับการทำงานให้แก่ลูกค้า หรือการนำเสนองานเพื่อการแข่งกับเอเยนซี่อื่น ๆ
คุณรัฐกร สืบสุข กรรมการผู้จัดการ เวฟเมคเกอร์ (ประเทศไทย) อธิบายถึงที่มาของ Maximize ว่า “จุดกำเนิดของ Maximize คือความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญ 75 คนในสาขาต่าง ๆ ของเวฟเมคเกอร์ทั่วโลก โดยมีทั้งลูกค้า ทีมวางแผนกลยุทธ์ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการข้อมูล นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ร่วมกันพัฒนาและทดสอบระบบกันที่ เวฟเมคเกอร์ วอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ในปีที่ผ่านมา”
เครื่องมือนี้ได้รับการออกแบบและสนับสนุนการใช้งานโดย มายรัม (Mirum) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือดับบลิวพีพี โดยในระหว่างการพัฒนานี้ ทางทีมงานเวฟเมคเกอร์ในแต่ละประเทศ ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของระบบในเรื่องต่าง ๆ ไปควบคู่กัน ซึ่งได้ผลดีเกินคาด ตัวอย่างเช่น เวฟเมคเกอร์ สหราชอาณาจักร ได้ทำการทดสอบการแข่งขันการวางแผนสื่อโฆษณา โดยให้ทีมนักวางแผนที่มีประสบการณ์แข่งกับ AI ในการวางแผนสื่อเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวน 3 กลุ่มที่ทับซ้อนกัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคือเครื่องมือ Maximize สามารถจัดการแก้โจทย์ที่ทั้งหมดภายในระยะเวลาเพียง 2 นาที ซึ่งเร็วกว่าคนมาก เมื่อเราเอามาใช้งาน ลูกค้าก็ได้แผนงานที่ละเอียดและรวดเร็วขึ้น
คุณชัยพร อินทเส ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ เวฟเมคเกอร์ (ประเทศไทย) กล่าวถึงการเปิดตัวเครื่องมือ Maximize ในประเทศไทยว่าทุกวันนี้การวางแผนการตลาดในอุตสาหกรรมโฆษณาของประเทศไทยมีความท้าทายสูงมาก ลูกค้าของเวฟเมคเกอร์ไม่เพียงต้องแข่งกับคู่แข่งสินค้าประเภทเดียวกันเท่านั้น แต่ยังต้องรับมือกับสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอน เช่น การระบาดของไวรัสโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
Maximize ทำให้ทีมงานของเวฟเมคเกอร์สามารถบริหารการวางแผนสื่อโฆษณาได้ในทุกแพลตฟอร์มในเวลาเดียวกันผ่านเทคนิคและเทคโนโลยีที่เป็นสิ่งใหม่สำหรับอุตสาหกรรมการตลาด ส่งผลให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีศักยภาพผ่านความรวดเร็ว แม่นยำ และมีความพร้อมที่จะช่วยสร้างสรรค์แผนงานการวางสื่อโฆษณาที่มีประสิทธิภาพให้กับลูกค้าภายใต้ระยะเวลาที่สั้นลงมาก และเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่เวฟเมคเกอร์สามารถมอบให้แก่ลูกค้าของเราในเวลานี้
เครื่องมือ Maximize จะเป็นส่วนหนึ่งบนระบบการวางแผน Provocative ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเฉพาะของเวฟเมคเกอร์ที่หลอมรวม Machine Learning และการทำงานของนักวางแผนโฆษณาออกมาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด