วันนี้ถนนทุกสายในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มวิ่งสู่ “สายเขียว” เกาะเทรนด์พืชเศรษฐกิจใหม่ “กัญชง” หลังภาครัฐปลดล็อกให้ใช้ประโยชน์บางส่วนโดยไม่จัดเป็นสารเสพติด “อิชิตัน” ไม่พลาดเช่นกัน เตรียมออกเครื่องดื่มกัญชง ไตรมาส 3-4 ปีนี้ พร้อมประกาศตัวเป็นฐานการผลิต OEM ให้พันธมิตรทุกราย ประเดิมสร้างการรับรู้ด้วยเครื่องดื่มกลิ่นเทอร์ปีนแบรนด์ “กรีนแล็บ” มีสารช่วยผ่อนคลายคล้ายกัญชง วางตลาดเมษายนนี้
เรียกว่าเป็นโอกาสทองของตลาด “เครื่องดื่ม” ก็ว่าได้ หลังจากปีก่อนมีเทรนด์ฮิตเครื่องดื่มผสมวิตามินซี และวิตามินวอเตอร์ เข้ามากระตุ้นตลาดให้กลับมาคึกคัก ทุกค่ายออกสินค้าใหม่มาชิงกำลังซื้อ มาปีนี้กระแส “กัญชง” กลายเป็นขุมทรัพย์ใหม่ของตลาดเครื่องดื่มมาแรงในรอบ 20 ปี ต่อจากปรากฏการณ์ชาเขียว วันนี้ทุกรายประกาศชัดพร้อมลงสนามแล้ว
โอกาสทองกัญชง ลุยสินค้าใหม่-รับจ้าง OEM
คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI กล่าวว่าต้องยอมรับว่า “กัญชง” เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่ได้รับความสนใจทั่วโลก ในประเทศไทยได้ปลดล็อกให้มีการขอใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์, ปลูก, โรงงานสกัดสาร CBD และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมกัญชง โดยขั้นตอนการปลูกกัญชงแต่ละรอบต้องใช้เวลา 3-4 เดือน ส่งไปโรงงานสกัดสาร CBD อีก 1 เดือน ดังนั้นสารสกัดที่จะนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และออกเป็นสินค้าวางจำหน่ายได้ เร็วที่สุดน่าจะอยู่ที่ไตรมาส 3-4 ปีนี้
ปัจจุบัน “อิชิตัน” ได้เซ็น MOU กับพันธมิตรเพื่อใช้สารสกัด CBD ในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกัญชงเรียบร้อยแล้ว โดยมีการทำ R&D สินค้า รสชาติ และบรรจุภัณฑ์ไว้พร้อมแล้ว รอขั้นตอนการขออนุญาตเลขทะเบียนสินค้าจาก อย. และการใช้สารสกัด เมื่อได้รับอนุญาตทางโรงงานพร้อมผลิตทันที โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม คาดว่าสินค้าน่าจะวางตลาดได้ในช่วงไตรมาส 3-4 อิชิตันวางเป้าหมายต้องเป็นรายแรกๆ ที่เปิดตัวทำตลาดเครื่องดื่ม CBD กัญชง
“กัญชงเป็นโอกาสทองของทั้งภาครัฐ เกษตรกร ผู้ประกอบการหลายภาคส่วน ในกลุ่มเครื่องดื่มเองถือเป็นเทรนด์แรงที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ก่อนหน้านี้ก็คือ ชาเขียว เมื่อ 20 ปีก่อน เชื่อว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่อยู่ยาวไม่ใช่แค่แฟชั่น ก็เหมือนกับชาเขียว น้ำอัดลม กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง ยังขายดีมาตลอดเพราะมีสารคาเฟอีน ส่วนกัญชงมีสารช่วยผ่อนคลาย เป็นเทรนด์ที่คนสนใจและทำตลาดไม่ยาก”
ไม่เพียงทำตลาดเครื่องดื่มกัญชงแบรนด์ของตัวเองเท่านั้น แต่ อิชิตัน จะรับจ้างผลิต OEM ให้กับค่ายเครื่องดื่มรายอื่นๆ ด้วย การผลิตเครื่องดื่มชาเขียวและกัญชงมีขั้นตอนเหมือนกัน จึงสามารถใช้โรงงานเดิมซึ่งยังมีกำลังการผลิตเหลืออีก 50% ผลิตสินค้าได้ทันที
“วงการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเกือบทุกรายต่างประกาศโดดลงมาตลาดกัญชงแล้วทั้งสิ้น และนั่นเป็นอีกโอกาสของอิชิตัน ในการทำหน้าที่รับจ้าง OEM”
ส่ง “กรีนแล็บ” เครื่องดื่มกลิ่นเทอร์ปีนลงตลาด เม.ย.นี้
ก่อนเปิดตัวเครื่องดื่มกัญชงในไตรมาส 3-4 ปีนี้ อิชิตันได้ประเดิมเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ “กรีนแล็บ” (Green Lab) 2 SKU น้ำชาเขียวผสมคาโมมายล์ กลิ่นเทอร์ปีน และกลิ่นเลมอน เทอร์ปีน ขนาด 440 มล. ราคา 30 บาท โดยกลิ่นเทอร์ปีนเป็นน้ำมันหอมระเหยสกัดจากพืช (ไม่มีฤทธิ์เมา) ช่วยเรื่องผ่อนคลายและนอนหลับสบาย
เครื่องดื่มกลิ่นเทอร์ปีน กรีนแล็บที่มีกลิ่นและคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายคล้ายกัญชง จึงเป็นสินค้านำร่องออกมาสร้างแบรนด์และความคุ้นเคยให้ตลาดก่อนสินค้ากัญชง โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ ทั้งโมเดิร์นเทรดและร้านค้าทั่วไป (Traditional Trade) ที่สนใจนำสินค้าไปวางจำหน่ายด้วย และยังเป็นอีกโอกาสสร้างรายได้ในปีนี้ ประเมินยอดขายไว้ที่เดือนละ 50 ล้านบาท
“การเปิดตัว กรีนแล็บ ในเดือนเมษายนนี้ เราต้องการเป็นเบอร์ 1 ที่เปิดตัวเครื่องดื่มกลิ่นเทอร์ปีนในตลาดไทย”
กำลังซื้อฟื้นโควิด ปี 64 เล็งรายได้ 6,200 ล้าน
ภาพรวมปี 2564 คุณตัน มองว่าเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวจาก COVID-19 หลังทยอยฉีดวัคซีน เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนกำลังซื้อในประเทศไทยก็ดีขึ้นเช่นกันตั้งแต่ช่วงสงกรานต์นี้
สำหรับ “อิชิตัน” ปีนี้วางเป้าหมายรายได้ 6,200 ล้านบาท เติบโต 21.6% ตลาดในประเทศจะมีความโดดเด่นจากเครื่องดื่มในกลุ่ม Non-Tea ไม่ว่าจะเป็น วิตามินวอเตอร์,น้ำด่าง และเครื่องดื่มใหม่ คาดมีรายได้ 1,000 ล้านบาท
กลุ่มสินค้าใหม่ปีนี้ คือ น้ำด่าง PH Plus 8.5 จะมีรสชาติใหม่ สารสกัดใบแปะก๊วย ผสมวิตามินดี ขนาด 550 มล. ราคา 20 บาท และขนาด 350 มล.ราคา 10 บาท วางขายเดือนเมษายนนี้ เป้าหมายกลุ่มน้ำด่าง จะเป็นอีกเครื่องดื่มทำตลาดถาวรและสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคดื่มแทนน้ำเปล่า นอกจากนี้จะรีลอนช์บรรจุภัณฑ์ใหม่เครื่องดื่มวิตามินวอเตอร์ C200 ให้ดื่มสะดวกมากขึ้น
อีกธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในปีนี้ คือการรับจ้าง OEM จากกระแสแรงของกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผสมวิตามิน ทำให้ได้ลูกค้าบริษัทรายใหญ่ในกลุ่มเครื่องดื่มมาจ้าง OEM ผลิต “วิตามินวอเตอร์” กลุ่มพรีเมี่ยม 2 รสชาติ เตรียมวางตลาดทั่วประเทศในเดือนเมษายนนี้ นอกจากนี้แบรนด์ Asahi ได้จ้างผลิตเครื่องดื่มใหม่เพื่อส่งไปจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์ และยังมีโอกาสได้ลูกค้า OEM เพิ่มจากกลุ่มเครื่องดื่มกัญชงอีกในครึ่งปีหลัง วางเป้าหมายรายได้ OEM ปีนี้ 300 ล้านบาท
อิชิตัน ได้ลงทุนโรงงานผลิตไปแล้วกว่า 6,000-7,000 ล้านบาท ในปี 2563 ใช้กำลังการผลิตไป 52% ปีนี้ทั้งกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสินค้าใหม่ของบริษัทและ OEM ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตขยับมาที่ 63% ซึ่งสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นนี้ ถือเป็นโอกาสสร้างรายได้ใหม่โดยไม่มีต้นทุนเพิ่ม เพราะได้ตัดค่าเสื่อมโรงงานไปล่วงหน้าแล้ว จึงมองว่าปี 2564 จะเป็นปีทองของอิชิตัน เช่นกัน