การทำธุรกิจในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน (Uncertainty) สูงมาก การคาดการณ์อนาคตกลายเป็นเรื่องยากและท้าทายมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเองตลอด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
หากจะกล่าวถึงความผันผวนและกลายเป็น “วิกฤต” ครั้งใหญ่ของโลกในปี 2563 ยกให้ โรคระบาด “โควิด-19” เป็น Disruption ที่ทำลายล้างหลายสิ่ง ทั้งสุขภาพประชากรโลก เศรษฐกิจ และธุรกิจให้เสียหายมหาศาล
แม้ท่ามกลางวิกฤตจะมี “โอกาส” แทรกตัวอยู่ โดยเฉพาะภาคการค้าขาย ช่องทางหน้าร้านถูก “ล็อกดาวน์” เป็นเวลาหลายเดือน ส่งผลให้ช่องทาง “ออนไลน์” เติบโตอย่างก้าวกระโดด และกลายเป็น “ทางเลือก” เพื่อสร้างความ “อยู่รอด” สำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคตด้วย
“JD CENTRAL” หรือ เจดี เซ็นทรัล หนึ่งในบิ๊ก Market Place ที่สร้างผลงานการเติบโตได้อย่างโดดเด่นหลัก 100% ในช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด เนื่องจากแบรนด์ “ปรับตัว” อย่างรวดเร็วให้ทันต่อสถานการณ์ และความต้องการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ไม่เพียงมีการออกแคมเปญการตลาดที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังให้ความสำคัญกับการส่งสินค้า โดย JD MAN ที่มีมาตรการด้านความสะอาด ปลอดภัยอย่างเข้มข้น เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจยิ่งขึ้นในการใช้บริการ เป็นต้น
โควิด-19 รอบแรกกำลังคลี่คลาย แต่ประเทศไทยต้องรับมือการระบาดของไวรัสอีกระลอก แม้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น แต่ในมิติด้านธุรกิจ ปฏิเสธไม่ได้ว่า สถานการณ์เปราะบางดังกล่าว จะส่งผลให้ธุรกิจ E-Commerce มีแนวโน้มเติบโตยิ่งขึ้น จากปี 2564 ตลาดเติบโต 81% มูลค่าแตะ 2.94 แสนล้านบาท การแข่งขันสูงขึ้น โดย JD CENTRAL เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของตลาด
JD CENTRAL ตระหนักถึงภัยคุกคามครั้งใหญ่ของโลก มีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการผนึกกำลังทุกภาคส่วน เพื่อก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน จึงริเริ่มโครงการ “JD CENTRAL JOY OF GIVING – ส่งใจให้เธอ” ซึ่งเป็นการมอบความห่วงใยให้คนไทยทั้งประเทศผ่าน “การให้” แบบไม่เว้นระยะห่าง
คุณก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานบริหารฝ่ายการตลาด JD CENTRAL ผู้นำด้านเทคโนโลยี E-Commerce และธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า “ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 JD CENTRAL อยากเปลี่ยนช่วงเวลาที่แสนลำบาก ด้วยการส่งต่อกำลังใจดีๆ ให้คนที่คุณรักและห่วงใย แม้ต้องอยู่ห่างไกลด้วยมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม”
สำหรับกิจกรรม JOY OF GIVING ส่งใจให้เธอ JD CENTRAL ไม่ได้ดำเนินการเพียงลำพัง แต่ได้ร่วมมือกับ 3 ศิลปินคนดัง ได้แก่ ก้องกานต์ ซันเต๋อ และ P7 มาสร้างสรรค์งานศิลปะที่สื่อความหมายถึง “การให้” กลายเป็นลวดลายบนเสื้อยืดทั้งสิ้น 3 ลาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “JOY OF GIVING ส่งใจให้เธอ”
เริ่มที่หนุ่ม “SUNTUR” หรือ ซันเต๋อ ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล ศิลปินและนักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ที่มีผลงานโดดเด่นคนหนึ่งในยุคนี้ ซึ่งมาพร้อมกับผลงานในสไตล์มินิมอลที่มีชื่อว่า “Give and Take” มีแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตก็เหมือนการดินทาง ต้องมีทั้งการรับและ “การให้” แบ่งปันช่วยเหลือ ดังนั้นภาพที่สื่อบนเสื้อจึงแทนทั้งผู้รับและผู้ให้ด้วยคาแร็คเตอร์ของคน และน้องหมาที่ร่วมเดินทางในเรือลำเดียวกัน
ถัดมาคือ “Gongkan” หรือ ก้อง กันตภณ เมธีกุล ศิลปินที่สร้างงานด้วยลายเส้นเรียบง่าย และมีเอกลักษณ์ที่หลุมดำทะลุมิติ (Teleport) กับผลงานออกแบบที่ชื่อ “Love Power” โดยมีแรงบันดาลใจจากการให้ความรัก ส่งต่อความหวังดี เปรียบเสมือนพลังที่เปลี่ยนความเศร้าเป็นพลังแห่งความสุขได้
ปิดท้ายที่ ‘P7’ หรือ ‘พีระพงศ์ ลิ้มธรรมรงค์’ ที่หลายคนรู้จักในฐานะศิลปินกราฟฟิตี้และศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดังระดับแนวหน้าของเมืองไทย ได้ออกแบบผลงานด้วยแนวคิด “การร่วมกันให้เป็นการสร้างความสุข” มีแรงบันดาลใจจากการร่วมกันสร้างความสุขสดใส รอยยิ้ม ความมีชีวิตชีวา สีสันในชีวิตด้วยความรัก
เพราะการให้นั้นยิ่งใหญ่ จึงไม่ได้มีแค่ศิลปินสาย Art แต่ยังมี “คู่จิ้น” สุดฮอต “มีน พีริวิชญ์” และ “แปลน รัฐวิทย์” มาร่วมกิจกรรมเชิญชวนคนไทยร่วมระดมทุนบริจาคให้แก่โรงพยาบาลเพื่อสนับสนุนและสมทบทุนบริจาคจัดซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19
อย่างไรก็ตาม การเลือกผนึกพลังกับศิลปินสายศิลปะ นักแสดงคู่จิ้น เพราะต่างมีฐานแฟนคลับจำนวนมาก เมื่อชวนกันมาทำกิจกรรมดีๆ ทำให้สาวกรวมถึงคนไทยทั้งประเทศต้องการมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ส่วนเสื้อลวดลายที่หลากหลาย มีดีไซน์เท่ห์ เก๋ แปลกตา ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคนด้วย ทำให้การนำไปสวมใส่เท่ ได้บุญ และสุขใจ ส่วนคนสร้างสรรค์ผลงานก็สุขใจไม่ต่างกัน
สำหรับรายละเอียดของ “การให้” และ “การรับ” ทางโครงการมีการจัดทำเสื้อทั้ง 3 ลาย และเปิดพรีออเดอร์ในราคาตัวละ 399 บาท โดยมีบริการจัดส่งฟรีจาก JD CENTRAL ทั่วประเทศ หากผู้สนใจสามารถเลือกซื้อเพื่อสนับสนุนกิจกรรม JOY OF GIVING ส่งใจให้เธอ ได้ตั้งแต่วันนี้ – 19 มี.ค. 64 ผ่านแอปพลิเคชัน JD CENTRAL หรือผ่านทาง www.jd.co.th โดยรายได้จากการจำหน่ายหลังหักค่าใช้จ่าย จะมอบแก่โรงพยาบาลเพื่อสมทบทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ทาการแพทย์ต่างๆ ได้อีกด้วย
“เรามุ่งมั่นว่าแคมเปญนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทย ผ่านแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้อย่าง JD CENTRAL และเราจะก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน”
JD CENTRAL มีสินค้าและแคมเปญการตลาดมากมายที่เอาใจผู้บริโภคให้ช้อปปิ้งได้อย่างจุใจ สะดวกสบาย ง่ายเพียงปลายนิ้ว แต่อีกมิติไม่เคยละทิ้งแคมเปญเพื่อสังคม ทำให้วงการธุรกิจ E-Commerce เติบโตอย่างยั่งยืน