วันนี้ใครๆ ก็หันมาค้าขายออนไลน์ ตั้งแต่พ่อค้าแม่ค้า SMEs ไปถึงธุรกิจรายใหญ่ ในสถานการณ์ที่ต้องแข่งขันแย่งชิงลูกค้า ทุกกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ ต้องงัดมาใช้ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภคและสร้างจุดต่างให้ธุรกิจ หนึ่งในกิมมิคที่เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง คือ “กล่องพัสดุ” ที่สามารถนำมาทำการตลาดได้หลากหลายให้โดนใจผู้รับปลายทาง
หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ธุรกิจโลจิสติกส์ส่งพัสดุ Kerry Express ได้ฉีกรูปแบบการทำตลาดแบบเดิมๆ ด้วยการสร้างแบรนด์ให้เป็น Lifestyle & Creative Logistics หาลูกเล่นใหม่ๆ มาสร้างสีสันให้ตลาดอีคอมเมิร์ซ ภายใต้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “Outer Box Experience” หรือการทำการตลาดผ่านการสร้างประสบการณ์ผ่านกล่องพัสดุด้านนอก
แคมเปญที่ทำไปแล้วช่วงปลายปี เช่น การทำกล่องพัสดุเป็นสีส้มสดและกล่องของขวัญ New Year จำนวนหลายล้านใบให้ลูกค้าเคอรี่ได้ใช้ส่งสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้ตลาดเริ่มรับรู้แบรนด์เคอรี่ ที่เป็น Lifestyle & Creative มากขึ้น
กระทั่งการมีพาร์ทเนอร์ที่เข้ามาร่วมทำ Brand Collaboration ผ่านการดีไซน์กล่อง ไม่ว่าจะเป็น TedXBKK, Ad Addict ที่ใช้ส่งสินค้าให้ลูกค้าช่วงปีใหม่ แต่ที่สร้างกระแสแรงก็ต้อง กล่องพัสดุที่ดีไซน์เฉพาะให้กับ พ่อค้าออนไลน์ขายอาหารทะเลตากแห้งชื่อดัง “บังฮาซัน” ที่สามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 200% จากแคมเปญที่เคอรี่เข้าไปทำการตลาดผ่านกล่องให้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ลูกเล่นใหม่ “พัสดุกลิ่นเคอรี่”
มาปีนี้ คุณสีตลา ชาญวิเศษ ผู้จัดการกลุ่มงานสื่อสารการตลาด บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บอกว่าจะเป็นปีที่เคอรี่ผลักดันตลาด “Outer Box Experience” อย่างจริงจัง นั่นเพราะกลยุทธ์การตลาดนี้กำลังจะเป็นเทรนด์ใหม่ที่เข้ามาช่วยธุรกิจขายของออนไลน์ ทั้งอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซ ให้สามารถแข่งขันและสร้างรายได้ได้เพิ่มขึ้น
“การแข่งขันในตลาดขายของออนไลน์ถือว่าเดือดขึ้นเรื่อย ๆ จากจำนวนคนขายที่เข้ามาในตลาดนี้ หลายเจ้าแข่งกันตัดราคา สินค้าที่วางขายเหมือนๆ กันหมดจนไม่มีจุดขาย สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการหลุดจากเกมราคาและการแข่งขันนี้ได้ คือ การหันมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและการสร้างประสบการณ์พิเศษ โดยหนึ่งในนั้นคือ การสร้างประสบการณ์ผ่านกล่องพัสดุนั่นเอง”
ลูกเล่นใหม่ที่นำมาใช้ในปีนี้ คือการทำตลาดด้วย “กลิ่นหอมบนกล่องพัสดุ” โดยเห็นมาจาก แบรนด์กลิ่นหอมและไลฟ์สไตล์วัยรุ่นชื่อดังอย่าง “Everyday Karma Kamet” ในช่วงปีก่อนทาง EverydayKmKm ที่เน้นการขายผ่านทางหน้าร้านเป็นส่วนใหญ่ ได้รับผลกระทบหนักจากช่วงล็อคดาวน์ ไม่สามารถเปิดร้านได้ จึงเร่งปรับตัวด้วยการทำตลาดออนไลน์ แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น คือ EverydayKmKm ไม่ได้ปรับแค่วิธีการขายอย่างเดียว แต่เพิ่มมูลค่าจากการเป็นแบรนด์กลิ่นหอม ด้วยการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้รับ ด้วยการนำสเปรย์ฉีดลงไปในกล่องพัสดุที่จัดส่งให้กับลูกค้า จนกลายเป็นกระแสในกลุ่มลูกค้าและคนที่ติดตามแบรนด์ว่า ถ้าได้กลิ่นหอมๆ มาจากกล่องพัสดุ ก็รู้เลยว่านี่คือสินค้าจากแบรนด์ EverydayKmKm ทำให้ยอดขายจากการขายออนไลน์กลับมาช่วยแบรนด์ได้มากขึ้น
ปีนี้กลยุทธ์ “Outer Box Experience” จึงออกมาเป็นแคมเปญ Kerry Express x Everyday Karma Kamet ด้วยการทำ Parcel Box Spray สเปรย์ฉีดกล่องพัสดุ ซึ่งทาง EverydayKMKM ได้ปรุงเป็นกลิ่นพิเศษในชื่อ Kerry Express โดยเป็นกลิ่นส้มไซตรัส ที่มาจากการเอาสีของเคอรี่มาตีความออกมาเป็นกลิ่น ผสมกับกลิ่นดอกลิลลี่ ขนาด 100 ml. ราคา 395 บาท ฉีดได้ 200 ครั้ง เริ่มขายเดือนมีนาคม 2564 ผ่านช่องทางออนไลน์ และหน้าร้าน EverydayKmKm
เจาะกลุ่มแม่ค้าออนไลน์-SMEs สร้างจุดต่างสินค้า
สเปรย์ฉีดกล่องพัสดุกลิ่นเคอรี่ กลุ่มเป้าหมาย คือ คนที่ทำธุรกิจขายของออนไลน์ ทั้งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รวมทั้ง SMEs เพื่อใช้เป็นไอเท็มฉีดกล่องพัสดุให้มีกลิ่นหอมๆ สร้างประสบการณ์ดีให้กับลูกค้าปลายทาง สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ
กลุ่มธุรกิจออนไลน์ที่สามารถนำกลยุทธ์การตลาดด้วยกลิ่นมาใช้กระตุ้นยอดขายได้ เช่น เครื่องสำอาง เสื้อผ้า รีเทล กลุ่มสินค้า hospitality รวมทั้งคนทั่วไปที่ส่งพัสดุ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้รับ
การเปลี่ยนบทบาทของ Kerry Express ธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วน มาเป็น Lifestyle & Creative Logistics ผ่านกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับการปรับตัวของเหล่าพาร์ทเนอร์และลูกค้าที่นับวันพยายามหันมาเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดสินค้าออนไลน์ด้วยการสร้างแบรนด์และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ผ่านการจัดส่งพัสดุ เพื่อให้โดนใจผู้บริโภคในยุคนี้นั่นเอง