การดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการร้านอาหาร หรือบริการส่วน Food & Beverage (F&B) ของธุรกิจต่างๆ เช่น ห้องอาหารในโรงแรม และสถานที่จัดประชุม ไม่ใช่แค่ความได้เปรียบด้านโลเกชั่นที่ตั้งร้าน ตั้งชื่อร้านเก๋ๆ มีคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ หรือออกแบบร้านสวย ถ่ายรูปได้ทุกมุม เพื่อตอบโจทย์ชาว Instagrammer เท่านั้น หากแต่รากฐานสำคัญคือ “การนำเสนอประสบการณ์ความอร่อยให้กับลูกค้า” ที่สร้างประทับใจ และอยากกลับมาใช้บริการอีก
ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี “คนอร์” (Knorr) ไม่เพียงเป็นวัตถุดิบทำอาหารอยู่คู่ครัวเรือนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็น “ผู้ช่วยมือหนึ่ง” ที่สนับสนุนธุรกิจในทุกขนาดมายาวนาน นับตั้งแต่ร้านสตรีทฟู้ด ร้านอาหารขนาดกลาง ไปจนถึงเชนใหญ่ และธุรกิจโรงแรมที่พักมากมาย
ล่าสุด “Unilever Food Solutions” ผู้นำธุรกิจอาหารและเบเกอรี่ระดับโลกในกว่า 74 ประเทศ ได้ปรับโฉมรีแบรนด์ “คนอร์” ที่เจาะตลาดร้านอาหารครั้งใหญ่ ทั้งโลโก้ และแพ็คเกจจิ้งใหม่ อยู่ภายใต้แบรนด์ “Knorr Professional” หรือ “คนอร์ สำหรับผู้ประกอบการมืออาชีพ”
เบื้องหลังรีแบรนด์ และ 3 เหตุผลทำไมร้านอาหารเลือกใช้ “Knorr Professional”
แน่นอนว่าใครที่เปิดร้านอาหาร และธุรกิจที่มีบริการส่วน Food & Beverage (F&B) ก็อยากให้ลูกค้ารับประทานอาหารของเรา ด้วยความสุข และความอร่อย แต่ในความเป็นจริงแล้วนี่คือโจทย์ท้าทายไม่น้อยสำหรับทั้งเจ้าของร้าน และเชฟ ในการเสิร์ฟอาหารอร่อย และรักษามาตรฐานรสชาติให้คงที่ทุกจาน
เพราะในแต่ละวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาลูกค้าหนาแน่น งานในครัวต้องเร่งทำอาหารให้ทันต่อออเดอร์ที่เข้ามา เพื่อเสิร์ฟลูกค้าได้เร็ว และยังต้องเจอกับความไม่เสถียรของวัตถุดิบของสดบางประเภทที่ใช้ปรุงรส เช่น มะนาว ผันแปรตามฤดูกาล ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจากแหล่งต้นทาง ทำให้ยากต่อการควบคุมรสชาติของวัตถุดิบ
ด้วยเหตุนี้เอง Unilever Food Solutions กลุ่มธุรกิจที่ก่อตั้งขึ้นโดยเชฟ เพื่อสร้างสรรค์ Solutions ทั้งด้านคุณภาพวัตถุดิบ มาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบอาหาร ยกระดับรสชาติ และสร้างความสะดวกให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร ได้พัฒนาเครื่องปรุงรส และวัตถุดิบอาหารพร้อมใช้ “คนอร์” สำหรับร้านอาหาร โดยเฉพาะ ซึ่งรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่เป็น “Knorr Professional” ทั้งโลโก้ และแพ็คเกจจิ้งใหม่ มาพร้อมกับแนวคิด “เปลี่ยนให้ทุกจาน เป็นไปได้” (A Little Big Difference)
เพื่อตอกย้ำถึง Brand Purpose ที่ต้องการเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ไม่ว่าจะทดลองทำสิ่งใหม่ๆ เปลี่ยนจากการใช้วัตถุดิบธรรมดา ไปใช้วัตถุดิบที่พิเศษขึ้น หรือปรับเทคนิคการปรุง ดีไซน์การจัดจานใหม่ หรือแม้แต่การเปลี่ยนภาชนะ และแพ็คเกจจิ้งให้เหมาะสมกับประเภทอาหาร จะทำให้องค์รวมของอาหารเมนูนั้นๆ ดูดี และน่ารับประทานขึ้น
ที่สำคัญเปิดความเป็นไปได้ให้กับอาหารทุกจานได้อย่างไม่รู้จบ ในการช่วยให้เชฟสามารถสร้างสรรค์เมนูอาหารหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารเอเชีย อาหารตะวันตก และเมนูนานาชาติ ให้มีความโดดเด่น แตกต่าง และมีรสชาติกลมกล่อมลงตัว
จากการอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการร้านอาหาร ทำให้ทุกวันนี้ “Knorr Professional” เป็นหนึ่งใน Solutions ของร้านอาหารและเชฟไปแล้ว เพราะสามารถตอบโจทย์ 3 ด้านหลักคือ
1. สร้างความสะดวก และประหยัดเวลา
การบริหารจัดการร้านอาหาร และบริการส่วน F&B ทั้งระบบงานหน้าบ้าน และหลังบ้านต้องสอดประสานไปด้วยกัน ถ้าทั้งสองส่วนมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ตามมาคือ ประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า (Customer Experience)
หนึ่งในงานระบบหลังบ้าน คือ งานครัว ที่ต้องจัดเตรียมวัตถุดิบ และปรุงอาหารตามออเดอร์ที่เข้ามา ซึ่งด้วยความที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ Knorr Professional ครบวงจร เช่น ซุปรสไก่ ซุปรสหมู ซุปรสเนื้อ ซอสปรุงรส ผงมะนาวแท้ จึงสร้างความสะดวกให้กับร้านอาหารในหลายด้าน ทั้งช่วยลดขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ ลดเวลาการปรุงอาหาร และเพิ่มความคล่องตัวในการทำอาหาร และเมื่ออาหารทำเสร็จเร็ว มีคุณภาพ รสชาติคงที่ ย่อมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
2. มาตรฐานรสชาติคงที่
สิ่งที่เป็นมาตรวัดว่าลูกค้าจะกลับมาใช้บริการร้านอาหารนั้นๆ อีกหรือไม่ นอกจากความอร่อยแล้ว ต้องมีเรื่องของคุณภาพ และมาตรฐานรสชาติคงที่ ไม่แกว่ง ไปกี่ครั้ง ก็ยังเป็นรสชาติที่ประทับใจไม่เปลี่ยน
แต่การรักษามาตรฐานรสชาติ เป็นอีกโจทย์ใหญ่ของร้านอาหาร เพราะมีปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยน ทั้งเรื่องเชฟ – พ่อครัวแม่ครัว วัตถุดิบ ความหนักเบาในการใส่ส่วนผสม ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาความไม่นิ่งของรสชาติอาหาร ปัจจุบันร้านอาหารหลายร้านเลือกใช้ “Knorr Professional” ผสานกับสูตรเด็ดเคล็ดลับของทางร้าน เพื่อมั่นใจได้ว่าทุกจานที่เสิร์ฟลูกค้า จะมีรสชาติมาตรฐานเดียวกัน
3. สร้างสรรค์หลากหลายเมนู
ความหลากหลายของเมนู เป็นกลยุทธ์สำคัญในการดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าร้านไหนที่มีทั้งเมนูหลักยอดนิยม และครีเอทรายการอาหารใหม่อยู่เสมอ ช่วยสร้างประสบการณ์ความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ ได้ทดลองสั่งเมนูใหม่มารับประทาน ซึ่ง Knorr Professional เห็นความสำคัญดังกล่าว จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นผู้ช่วยเชฟรังสรรค์อาหารให้มีความหลากหลาย
สินค้าสูตรใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุขภาพ – แพ็คเกจจิ้งใหม่ ดีไซน์รักษ์โลก รีไซเคิลได้ 100%
ทุกวันนี้ “สุขภาพ” กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนทั่วโลกไปแล้ว และการมีสุขภาพดีนั้น มากถึง 70 – 80% มาจากอาหารการกิน
เพราะตระหนักของการให้ความสำคัญด้านสุขภาพ Knorr Professional คิดค้นโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร พัฒนาเพื่อเชฟ และผู้ประกอบการร้านอาหารโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตทันสมัย และความชำนาญการพัฒนาสูตรอาหารระดับโลก ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสุขภาพของคนกิน ภายใต้แนวคิด “Better to you better for the world” ที่ใส่ใจทั้งส่วนประกอบที่นำมาทำผลิตภัณฑ์ มาจากธรรมชาติ ไม่ใส่สีสังเคราะห์ รวมถึงการปรับสูตร และใส่สารอาหารที่ตอบโจทย์สุขภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ลดผงชูรส โซเดียม
ทำให้โปรดักต์ไลน์ของ Knorr Professional ไม่เพียงแต่ครอบคลุมทุกประเภททอาหาร โดยเฉพาะ “อาหารไทย” ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเมนูต้ม ผัด นึ่ง ทอด หรือ ยำเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองไลฟ์สไตล์ Well-being หรือการกินดีอยู่ดี ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้ ด้วยวิสัยทัศน์ของ “Unilever” คือ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้แผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน (Unilever Sustainable Living Plan : USLP) ที่มีพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ดังนั้น ในฐานะที่ “Unilever Food Solutions” อยู่ในกลุ่มธุรกิจ Unilever จึงยึดแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่มุ่งลดการใช้พลาสติก และหันไปใช้พลาสติกรีไซเคิลมากขึ้น
– ภายในปี 2025 100% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติก สามารถนำกลับมารีไซเคิล หรือย่อยสลายได้
– 25% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติก ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลที่ผ่านการใช้แล้ว (Post-Consumer Recycling : PCR)
– ตั้งเป้าลดการใช้พลาสติกให้ได้มากกว่า 100,000 ตัน
– เก็บรวบรวมพลาสติก และนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ให้ได้มากกว่าปริมาณที่จำหน่ายออกไป
จากเป้าหมายดังกล่าว “Unilever Food Solutions” กำหนดกลยุทธ์ลดการใช้พลาสติก 3 แนวทางคือ
- ไม่ใช้พลาสติก
- ลดการใช้พลาสติก
- ใช้พลาสติกคุณภาพดีขึ้น
จึงนำมาสู่การออกแบบนวัตกรรมบรรุจภัณฑ์ “Knorr Professional” ที่นอกจากปรับโลโก้แล้ว บรรจุภัณฑ์ใหม่ยังสามารถรีไซเคิล 100% และใช้ตัวอักษร โทนสีเขียว – ขาว ภาพอาหาร และคำอธิบายผลิตภัณฑ์ ช่วยเสริมภาพลักษณ์สินค้าให้ดูมีความเป็นมืออาชีพ ให้สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ
ตั้ง “Chefmanship Academy” แหล่งความรู้ และไอเดียด้านอาหาร – การบริหารจัดการร้าน
การดำเนินธุรกิจทุกวันนี้ แบรนด์ต้องมีเป้าประสงค์ Win-Win กับทุกฝ่าย เพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน อย่าง “Unilever Food Solutions” ที่ก่อตั้งขึ้นโดยเชฟ พร้อมด้วย “Knorr Professional” หวังให้การสนับสนุน และสร้างแรงบันดาลใจให้เชฟ และผู้ประกอบการ จึงได้จัดตั้ง “Chefmanship Academy”
เพื่อเป็นแหล่งความรู้ที่ได้จากการรวบรวมข้อมูล และจากประสบการณ์ของทีมเชฟผู้เชี่ยวชาญของ Unilever Food Solutions ทำงานใกล้ชิดกับธุรกิจทุกขนาด ทั้งร้านอาหารขนาดเล็ก จนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว เชนโรงแรมใหญ่ และโรงงานชั้นนำ ในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างศูนย์กลางองค์ความรู้ที่ครอบคลุมความต้องการที่แตกต่างกันของทุกขนาดธุรกิจในด้านต่างๆ เช่น
– แหล่งความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหาร ตั้งแต่งานครัว จนถึงหน้าร้าน
– จุดประกายไอเดีย และแรงบันดาลใจด้วยสูตรอาหารต่างๆ ที่รวบรวมจากเชฟมืออาชีพทั้งในไทย และระดับโลก
– อัพเดทเทรนด์อาหารทั่วโลก
– ให้คำปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์ และเมนูอาหาร
– มีหลักสูตรอบรมสำหรับผู้ประกอบการ พร้อมประกาศนียบัตร
– อบรมการบริหารจัดการครัวมาตรฐานสากล และสุขอนามัยในการผลิตอาหาร
– โปรแกรมประเมินผล และติดตามกระแสบน Social Media ของธุรกิจผู้ประกอบการ
ทั้งหมดนี้เพราะ “Knorr Professional” ต้องการเป็นผู้ช่วยเชฟ และผู้ประกอบการในการนำเสนอ Solution ความครบวงจรด้านอาหาร ตั้งแต่การพัฒนาวัตถุดิบ และส่วนผสมอาหารที่มีคุณภาพระดับโลก การสร้างมาตรฐานด้านรสชาติอาหารคงที่ สร้างสุขอนามัยในงานครัว และความปลอดภัยของอาหารทุกจาน – ทุกเมนูที่เสิร์ฟให้กับลูกค้า สร้างความสะดวก รวมทั้งเป็นแหล่งความรู้ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเชฟ และผู้ประกอบการทุกคนในการมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจ และสร้างสรรค์เมนูอาหารที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอประสบการณ์ความอร่อยให้กับลูกค้าได้ประทับใจ และกลับมาใช้บริการอีก
สำหรับเชฟ และผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูล Unilever Food Solutions และ Knorr Professional เพิ่มเติม พร้อมอัพเดทความเคลื่อนไหวด้านเทรนด์ และความรู้ด้านอาหาร สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ : https://www.unileverfoodsolutions.co.th/th.html และ Facebook Fan Page มือโปรความอร่อย : https://www.facebook.com/UnileverFoodSolutionsThailand/
รับรองได้ว่าธุรกิจของคุณจะไม่พลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเทรนด์ สูตรจากเชฟมืออาชีพ และความรู้ด้านอาหารที่นำไปต่อยอด ไม่แน่ว่าอาจกลายเป็นเมนูขายดีประจำร้านก็เป็นไปได้!