โลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มใบ และนับวันการพัฒนาของเทคโนโลยีจะก้าวหน้ายิ่งขึ้น การทำธุรกิจและการตลาดดิจิทัลหรือ Digital Marketing จะทวีความสำคัญ ถูกหลอมรวม (Integration) กับการตลาดแบบเดิมๆ เพื่อสร้างความผูกพันธ์ มีส่วนร่วม (Engagement) กับผู้บริโภค
Magnolia International ผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการคอนเทนท์ (Magnolia CMS) ระดับแถวหน้าของโลกให้บริการลูกค้ากว่า 100 ประเทศใน 6 ภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งบริษัทมุ่งเน้นเสิร์ฟระบบบริหารจัดการคอนเทนท์ที่มีประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการสร้างประสบการณ์ด้านดิจิทัล (Digital Experience) จนคว้ารางวัล Digital Experience Platform ที่ดีที่สุดสำหรับนักการตลาด เห็นโอกาสการขยายตัวของดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งในประเทศไทย ประกอบกับวิสัยทัศน์ของบริษัทต้องการขยายตลาดและบริการเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น จึงรุกเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในไทย
ปัจจุบันการมีพันธมิตรเสริมศักยภาพธุรกิจเป็นกลยุทธ์สำคัญช่วยสร้างการเติบโต ดังนั้น Magnolia International จึงร่วมทุนกับกลุ่ม NeuMerlin Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นทางการตลาดแบบครบวงจร เพื่อการตั้งสำนักงานแห่งใหม่ในไทยครั้งนี้ โดยจะช่วยยกระดับการให้บริการที่ดียื่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้าน Digital Experience Platform (DXP) ได้เต็มศักยภาพ เพราะแต่ละบริษัทต่างมี “จุดแข็ง” ที่แตกต่างกัน นำมาต่อยอดเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กันยิ่งขึ้น สามารถเชื่อมต่อกับระบบเทคโนโลยีการตลาดเฉพาะทางที่องค์กรการตลาดในประเทศเลือกใช้มีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญประจำที่สำนักงานประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัวซึ่งเป็นจุดเด่นของ Magnolia CMS
ความโดดเด่นของ Magnolia ยังโดดเด่นจนได้รับการจัดอันดับจาก Gartner ภายใต้กรอบ Magic Quadrant ด้านการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล หรือ Digital Experience Platform ปี 2564 เป็นครั้งแรก
สำหรับ Magic Quadrant Report คือรายงานวิจัยที่เน้นการคัดกรองที่ได้มาตรฐานอย่างเข้มงวด มีการศึกษาอ้างอิงจากข้อมูลจริงในกลุ่มเฉพาะ ให้มุมมองที่กว้างและครอบคลุมถึงผู้ให้บริการทุกภาคส่วนในตลาดที่อัตราการเติบโตพุ่งสูงและให้บริการที่แตกต่างชัดเจน ผู้ให้บริการจะถูกจัดแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ Leaders, Challengers, Visionaries และกลุ่ม Niche Players ขณะที่การจัดอันดับครั้งนี้ Magnolia ถูกจัดให้อยู่ระดับสูงที่สุดในกลุ่ม Niche Players ที่มีวิสัยทัศน์ครอบคลุมรอบด้าน
“เราเชื่อมั่นว่า Magnolia มีศักยภาพเต็มที่ที่พร้อมจะนำเสนอสิ่งที่ทีมการตลาดต้องการในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าผู้ใช้บริการได้ โดยไม่ต้องยุ่งยากด้วยข้อจำกัดทางเทคนิค ด้วยเทคโนโลยีอย่าง SPA (Single-page app) Magnolia นำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการสร้างสรรค์ข้อมูลและเชื่อมโยงช่องทางที่เผยแพร่เข้าด้วยกัน โดยนักการตลาดสามารถเลือกออกแบบ ควบคุมและเห็นภาพรวมของสิ่งที่จะนำเสนอออกไปได้ในแต่ละช่องทาง” Tim Brown ประธานกรรมการบริหารของ Magnolia กล่าว
ทั้งนี้ การที่ Magnolia ได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน Gartner DXP ในฐานะของกลุ่ม Niche Players ตอกย้ำกระแสความต้องการของตลาดเปลี่ยนจากระบบ DXP แบบกินรวบของผู้ให้บริการรายใหญ่ มาสู่การสร้าง DXP ในรูปแบบ best-of-breed ที่เป็นการสร้างโดยการนำเอาแพลทฟอร์มย่อยที่ต้องการเชื่อมโยงเข้าด้วยกันแบบบูรณาการและเสริม Ecosystems ขณะที่ Magnolia อยู่ในระดับแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยการช่วยให้เหล่าองค์กรและบริษัทรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จในการขยายเครือข่ายระบบ software ได้อย่างว่องไวและมีทางเลือกหลากหลายที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
“วิสัยทัศน์ของเราในระบบปฏิบัติการ DXP คือ การสร้างขึ้นโดยเลือกนำเอาระบบบูรณาการที่การเสริมกันมาใช้แก้ปัญหา ซึ่งจะช่วยแบรนด์ในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ DXP ให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการเสริมให้ระบบการทำงานส่วนต่างๆ และการบริการให้ดียิ่งขึ้น”
ด้าน Rasmus Skjoldan ประธานบริหารฝ่ายการตลาดของ Magnolia กล่าวเสริมว่า บริษัทเล็งเห็นถึงอนาคตที่สดใสของระบบปฏิบัติการแบบเชื่อมต่อกันที่จะช่วยให้องค์กรและบริษัทต่างๆ สามารถให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลที่รวดเร็วขึ้น ขณะที่ข้อจำกัดของชุดระบบปฏิบัติการสำเร็จรูปขนาดใหญ่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นสิ่งที่ช้าอืดอาดเกินไปสำหรับบริษัทยุคใหม่ที่ต้องเผชิญการแข่งขันอย่างรวดเร็วง(Speed) จึงคาดว่าจะเห็นวิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการใหม่ๆเข้ามมาแทนที่ระบบปฎิบัติการสำเร็จรูปขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนและยากในการบริหารจัดการ
ส่วนแนวโน้มโลกของการสร้างประสบการณ์แบบดิจิทัลสำหรับปี 2021 เพียงแค่ดีไม่พอ แต่ต้องรวดเร็วด้วย เห็นได้จากบริษัทหรือองค์กรทั่วๆ ไปที่เตรียมความพร้อมสำหรับระบบปฏิบัติการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์การเชื่อมต่อทางเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีคุณภาพสูงและรวดเร็วกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ให้กับลูกค้า มีแผนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการผ่านทางระบบช่องทางดิจิทัลโดยตรงต้องให้ความสำคัญกับความเร็วในการเผยแพร่และการใช้งาน
“เราเชื่อว่าความสามารถในการรวบรวมข้อมูลส่วนต่างๆ การลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการเขียน Code และความสามารถในระบบการทำงานแบบ headless จะมอบโอกาสสร้างความเปลี่ยนแปลงสำหรับประสบการณ์การใช้งานการเชื่อมต่อของเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งนี่คือสิ่งที่เรานำเสนอให้บรรดาผู้ใช้บริการ DXP ของเรา”
Website: