ภาพประกอบเป็นแผนกผักผลไม้จากสาขา Muji Ginza (ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ Muji)
ต่อจากนี้ เราอาจได้กลิ่นขนมปังหอม ๆ เป็นตัวนำในการเดินเข้าร้าน Muji ก็เป็นได้ เพราะทาง Ryohin Keikaku บริษัทแม่ของ Muji เผยว่า มีแผนจะขยายพื้นที่การ “ขายอาหาร” ในร้านเพิ่มขึ้น โดยอาจมีสัดส่วนถึง 30% ของพื้นที่ร้านค้าเลยทีเดียว
เป็นแผนที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง Muji ที่เตรียมจัดเต็มทั้งแผนกขนมปัง มาอบกันสด ๆ ในร้าน แผนกขายอาหารเบนโตะ แผนกผักผลไม้จากผู้ประกอบการท้องถิ่น รวมถึงอาจเปิดตัวอาหารแช่แข็งและเครื่องดื่มด้วย
ขอบคุณภาพจาก Muji
ส่วนการคัดเลือกสินค้าเข้ามาขายนั้น ทาง Muji บอกว่าจะพิจารณาสินค้าที่มีคุณภาพสูง และมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยราคาเริ่มต้นของสินค้าก็อาจจะสูงกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปอยู่พอสมควร นั่นคือเริ่มต้นที่ 300 เยน (แต่ถ้าซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตอื่น ๆ อาจซื้อได้ในราคา 100 – 200 เยน)
Muji บอกด้วยว่า ทางบริษัทมีแผนจะเปิดตัวร้านค้าในลักษณะนี้ราว 50 แห่ง ภายในเดือนสิงหาคม 2022 โดยจะเริ่มเปิดสาขาแรกตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปีนี้
เน้นเปิดร้านชานเมือง ตอบโจทย์คน Work From Home
สำหรับพื้นที่ที่จะเลือกเปิดร้านที่มาพร้อมแผนกอาหาร Muji บอกว่าเน้น “พื้นที่ชานเมือง” เป็นหลัก เนื่องจากพิษไวรัส Covid-19 ทำให้ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็น Work From Home หรือ Work From Anywhere กันมากขึ้น และเมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ในเมืองกันเหมือนก่อน ร้านค้าของ Muji ก็ต้องปรับตัวตามผู้บริโภคออกมาเช่นกัน
ภาพประกอบเป็นแผนกขนมปังจากสาขา Muji Ginza (ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ Muji)
ปัจจุบัน ยอดขายอาหารของ Muji คิดเป็น 10% ของยอดขายทั้งหมด และบริษัทตั้งเป้าว่าจะเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวให้กลายเป็น 30% ภายในปี 2030
อย่างไรก็ดี การปรับตัวครั้งนี้มีความเสี่ยงอยู่พอสมควร เพราะไม่มีใครทราบได้ว่า หลังจากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ดีขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคในญี่ปุ่นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ซึ่งหากพวกเขาถูกเรียกตัวกลับเข้ามาทำงานในเมืองอีกครั้ง ร้านค้าที่เตรียมไว้รองรับชุมชนชานเมืองก็อาจไม่เติบโตอย่างที่หวังไว้นั่นเอง