ในแวดวงการเงิน มีการเคลื่อนไหวหนึ่งที่น่าจับตา นั่นคือการเข้าควบกิจการ Curv บริษัทด้านคริปโตเคอเรนซีสัญชาติอิสราเอลโดย PayPal Holdings
แม้ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของดีลนี้ แต่ PayPal บอกว่า เป็นการควบกิจการที่ได้ทั้งตัวทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถด้านสกุลเงินดิจิทัล และเทคโนโลยีของ Curv ไว้ในคราวเดียว โดยปัจจุบัน Curv มีพนักงานประมาณ 40 คน และทั้งหมดจะเข้าร่วมทีม PayPal ไม่มีแตกแถว ซึ่งคาดว่าการควบกิจการจะเสร็จสิ้นได้ภายในกลางปีนี้
ปัจจุบัน Curv เป็นผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านคลาวด์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นสำหรับการให้บริการด้านคริปโตเคอเรนซีอย่างมาก เนื่องจากเงินเหล่านี้ถูกจัดเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถจับต้องได้ และถูกจัดเก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งหากถูกอาชญากรไซเบอร์โจมตี อาจหมายถึงความเสียหายมูลค่ามหาศาล
ในจุดนี้ คาดว่า PayPal คงมองเห็นเทรนด์ข้อหนึ่งที่ว่า ธุรกิจขนาดใหญ่เริ่มให้การสนับสนุนเงินดิจิทัลเหล่านี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับสกุลเงินอย่างบิทคอยน์ก็ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง รวมถึงมีการลงมาซื้อเก็บของนักธุรกิจดังอย่างอีลอน มัสก์ (Elon Musk) แห่งเทสล่าด้วย แต่ในขณะเดียวกัน PayPal ก็มองเห็นด้วยว่าผู้บริโภคในตอนนี้มีทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอยอยู่มากมาย ด้วยเหตุนี้ จะให้ธุรกิจมาลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเงินดิจิทัลในตอนนี้ก็ดูจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่เข้าตา
ดังนั้น หาก PayPal เป็นผู้ลงทุนเอง เตรียมพร้อมเองก่อน เมื่อถึงเวลาที่สกุลเงินดิจิทัลมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และมีผู้บริโภคบอกว่าอยากจะชำระด้วยคริปโตเคอเรนซีมากขึ้นเรื่อย ๆ การเตรียมพร้อมในวันนี้ ก็อาจออกดอกออกผลอย่างงดงาม โดยมีธุรกิจค้าปลีกที่ไม่อยากลงทุนเหล่านั้นเป็นลูกค้าคนสำคัญของ PayPal นั่นเอง