ข้อมูลจาก ยูโรมอนิเตอร์ สรุปอุตสาหกรรม “เชนฟู้ดเซอร์วิส” ปี 2563 ในประเทศไทย ช่วงโควิด-19 พบว่ามูลค่าอยู่ที่ 419,353 ล้านบาท –26% ประเมินการฟื้นตัวยังต้องใช้ระยะเวลา ปี 2564-2565 ก็ยังไม่กลับไปเท่ากับช่วงก่อนโควิด ดังนั้นการใช้เงินลงทุนจำนวนมากโดยเฉพาะการขยายสาขา จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เมื่อกำลังซื้อและสถานการณ์โควิดยังเป็นเรื่องท้าทาย
แม้ปี 2563 ร้านขนมหวานแบรนด์ดัง After You มีการปรับตัวมาต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด หลังต้องเจอกับภาวะขาดทุนครั้งแรกในไตรมาส 2 นับตั้งแต่เข้าตลาดในปี 2559 จึงงัดทุกกลยุทธ์หารายได้ ทั้งเปิด After You Marketplace เพิ่มยอดซื้อกลับบ้าน เปิด Pop-up Store ในทำเลใหม่ๆ ขยายแฟรนไชส์ร้านกาแฟ Mikka ทำให้ปิดปี 2563 After You ยังเห็นตัวเลขกำไร 55 ล้านบาท แต่ก็ลดลงถึง 77%
5 กลยุทธ์ After You ในปี 64 ที่อยากโต 15%
มาในปี 2564 สถานการณ์โควิดยังคงไม่แน่นอน ทิศทาง After You เป็นอย่างไร คุณแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU สรุปไว้ 5 เรื่องหลักๆ ในงาน Opportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน ดังนี้
1.เร่งแฟรนไชส์ร้านกาแฟ Mikka ปีนี้อีก 100 สาขา
ปี 2563 ร้านกาแฟมิกก้า (Mikka) ถือว่ามีผลการดำเนินการน่าพอใจ โดยเร่งขยายสาขาแฟรนไชส์ตั้งแต่ช่วงกลางปี ทำให้ถึงสิ้นปี 2563 มี 43 สาขา เป็นแฟรนไชส์ 32 สาขา หรือ 70% และลงทุนเอง 12 สาขา หรือ 30% ร้านกาแฟ Mikka เป็นร้านขนาดเล็กใช้พื้นที่ไม่มาก เป็นรูปแบบ Grab & Go และเดลิเวอรี่ ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงโควิด
สำหรับปีนี้ตั้งเป้าหมายขยายร้าน Mikka อีกไม่ต่ำกว่า 100 สาขา รวมถึงสิ้นปีนี้อยู่ที่ 150 สาขา เน้นการขยายสาขาในบริเวณพื้นที่ที่มีอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยมากขึ้น และจะเพิ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเช้า เช่น เครื่องดื่มร้อน ขนมปัง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเมนู ตอบสนองผู้บริโภคที่เร่งรีบในชั่วโมงเร่งด่วน และเตรียมจะนำสินค้าจากร้าน After You เข้าไปจำหน่ายด้วย รายได้จากร้าน Mikka จะมาจากค่าแฟรนไชส์ 6% และการขายวัตถุดิบ 94%
“ข้อดีของแฟรนไชส์ Mikka คือ ใช้พื้นที่ไม่มากทำให้สามารถเจาะทำเลดีๆ ได้ ทั้งในเมืองและนอกเมือง อีกทั้งเป็นการลงทุนต่ำจึงเปิดสาขาได้เร็ว การลงทุน Mikka ของอาฟเตอร์ยูเองจะเน้นร้านแฟลกชิป ในต่างจังหวัดเพื่อให้แฟรนไชส์ได้เห็นตัวอย่างร้าน”
2.ขยาย Marketplace ใน After You ให้ได้ 30 สาขาปีนี้
อีกไฮไลท์ในปีที่ผ่านมา คือการเปิด Marketplace ซึ่งเป็นไอเดียใหม่เพิ่มรายได้ให้แต่ละสาขาของ After You โดยเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่เดิมที่มีอยู่ (Asset Utilization) เป็นการนำเสนอสินค้าที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ลูกค้า ทั้งสินค้าของ After You และพันธมิตร เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการซื้อสินค้ากลับบ้าน ปัจจุบันมี Marketplace แล้วกว่า 10 เอาท์เล็ต ปีนี้จะขยายเพิ่มให้ได้ 30 สาขา จากจำนวนร้าน After You ที่มีอยู่ 41 สาขา
“Marketplace เป็นจุดขายที่เราตั้งใจทำระยะยาว จะเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้ามาต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ชดเชยจากสถานการณ์โควิดและเปิดตลาดลูกค้าใหม่”
ตลอดปีที่ผ่านมาถึงปีนี้ After You ได้พัฒนาสินค้าใหม่นั่งรับประทานในร้าน เดลิเวอรี่ และซื้อกลับบ้านเข้ามาเติมใน Marketplace ต่อเนื่อง โดยออกสินค้าใหม่ 2-3 ไอเท็มต่อเดือน รวมทั้งการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์และเชฟที่มีชื่อเสียง เพื่อออกสินค้าใหม่ หรือใช้โรงงานผลิตสินค้าให้กับเชฟต่างๆ นำมาจำหน่ายในร้าน
เรียกว่าเป็นกลยุทธ์ที่ win win ทั้ง 2 ฝ่าย โดย After You มีความแข็งแกร่งด้านการผลิตสินค้าจำนวนมากและมีช่องทางจำหน่าย กระจายสินค้าให้ทั่วถึง ส่วนพาร์ทเนอร์มีสูตรสินค้าที่โดดเด่น
3.Pop-up Store ลงทุนน้อยเจาะทำเลเด่น
อย่างที่รู้กันว่าสถานการณ์โควิดปีนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูง เห็นได้จากการระบาดระลอก 3 ในขณะนี้ ทำให้ After You ยังไม่มีแผนขยายสาขาใหม่ในปี 2564 โดยจะดูตามจังหวะที่เหมาะสม หากสถานการณ์คลี่คลายและเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ ก็อาจลงทุนขยายสาขาอย่างมาก 1-2 สาขาเท่านั้น
“มองว่าปีนี้ยังไม่ใช่ปีที่เหมาะสมในการลงทุนขยายสาขาใหม่ และการลงทุนที่มีความเสี่ยงกับการทำสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาว”
กลยุทธ์ปี 2564 จึงมุ่งไปที่การเปิด Pop-up Store ในหลายทำเล ที่เดิมไม่ได้มองว่าสามารถหารายได้มาก่อน หรือในทำเลที่ไม่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ให้เช่า พบว่าการเปิด Pop-up Store ปีก่อนหลายทำเลทำยอดขายได้ดีกว่าที่คิดไว้ โดยรวมยอดขายกลุ่มนี้เติบโตถึง 22%
การที่อาฟเตอร์ ยู มี BTS เข้ามาถือหุ้นด้วย ก็ได้มีการคุยเรื่อง Synergy นำจุดเด่นของทั้ง 2 องค์กร มาสร้าง win win โดยหลักๆ BTS มีพื้นที่บนสถานี ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ กำลังสรุปแผนธุรกิจร่วมกันในเร็วๆนี้ โดยจะมีทั้งโปรดักท์ของแบรนด์ After You และ Mikka
ร้าน After You ที่ฮ่องกง (Photo Credit : Instagram mayafteryou)
4.เดินหน้าสาขา After You ต่างประเทศ
หลังจากปี 2561 ได้จัดตั้งบริษัทย่อย After You Hong Kong Limited เพื่อทำสัญญารองรับธุรกิจแฟรนไชส์ในฮ่องกง เดิมมีแผนเปิดร้านแรกช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 แต่ก็ต้องชะลอออกไปก่อน กระทั่งมาถึงปี 2563 ที่เจอสถานการณ์โควิดตั้งแต่ต้นปี ทำให้ต้องเลื่อนแผนออกไปยาว
แต่ช่วงไตรมาส 4 ปี 2563 เปิดตัว After You ฮ่องกง โดยเริ่มต้นทดลองตลาดก่อน ด้วยโมเดล Pop-up Store ที่เปิดให้บริการชั่วคราวระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม 2564
ปี 2564 อาฟเตอร์ ยู มีความพร้อมเปิดสาขาฮ่องกงร่วมกับพาร์ทเนอร์ โดยสร้างร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว และทีมงานก็พร้อมแล้ว รอเพียงขั้นตอนการดำเนินงานทางเอกสาร คาดว่าน่าจะเปิดบริการได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ หากสาขาแรกเปิดได้โดยไม่มีปัญหาอะไร ก็จะเปิดสาขาที่ 2 และ 3 ตามมาทันที
นอกจากนี้ได้ศึกษาโปรเจกต์ต่อไปในต่างประเทศแล้ว คือที่ “จีน” โดยอยู่ในช่วงร่างสัญญาทางกฎหมาย ทั้ง 2 ฝ่าย มีพาร์ทเนอร์ที่จะร่วมมือด้วยแล้ว จะเริ่มเปิดสาขาใน 1 มณฑลก่อนจากนั้นจะขยายเพิ่ม คาดว่าจะเซ็นสัญญา เปิด After You ในจีนได้ทันปีนี้
5.เปิดตัวแอป สร้าง Engagement กับผู้บริโภค
ปีนี้ After You ได้เปิดตัวเครื่องมือทำการตลาดใหม่ แอปพลิเคชั่น After You เพื่อสร้าง Engagement กับผู้บริโภค นำเสนอสินค้าใหม่ โปรโมชั่น ลอยัลตี้ โปรแกรมดูแลลูกค้า
ฟังก์ชั่นในแอป จะบอกทำเลแต่ละสาขา เวลาเปิดปิด การจองคิว จำนวนคิวแต่ละสาขา เมนูใหม่ สั่งออเดอร์ล่วงหน้า การจ่ายเงินผ่านวอลเล็ตในแอป บริการเดลิเวอรี่ และสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อดูแลลูกค้าประจำให้ใช้บริการอาฟเตอร์ยูอย่างต่อเนื่อง
ยุทธศาสตร์ของ After You ยังมุ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม นำเสนอสินค้าใหม่กลุ่มขนมหวาน และการแสวงหาพื้นที่และโอกาสใหม่ๆ เป้าหมายในปี 2564 หากไม่ระบาดซ้ำอีกก็อยากเห็นการเติบโต 15% และหากเปิดประเทศได้เร็วก็จะเติบโตได้มากกว่านี้ แต่การจะกลับไปเห็นตัวเลขก่อนโควิดคงต้องใช้เวลา รอนักท่องเที่ยวกลับมาก่อน หลังเปิดประเทศได้ อาฟเตอร์ยู “วิ่งเร็ว” แน่นอน
เช่นเดียวกับกระแสฮิต “กัญชง-กัญชา” ก็เป็นอีกโอกาส ที่ทีมอาร์แอนด์ดี รับโจทย์ไปศึกษาตั้งแต่ปี 2563 คงต้องรอติดตามผลงาน!!