อาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจ e-commerce ถูกทางการจีนลงดาบด้วยการปรับเป็นเงิน 18,230 ล้านหยวนหรือประมาณ 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ในข้อหาผูกขาดทางการค้า ด้านอาลีบาบาออกมาบอกว่าบริษัทจะน้อมรับการตัดสินดังกล่าว และยอมจ่ายค่าปรับโดยดุษฎี
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแลตลาดของจีน (SAMR) ที่ตัดสินว่านโยบายของอาลีบาบาที่ให้ผู้ประกอบการเลือกได้เพียงแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง (ไม่สามารถขายได้บนสองแพลตฟอร์มพร้อม ๆ กัน) นั้นเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ค้าบนแพลตฟอร์ม รวมถึงสิทธิตามกฎหมายของผู้บริโภค ซึ่งนำไปสู่การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
สำหรับค่าปรับที่เกิดขึ้น พบว่ามีมูลค่าเท่ากับ 4% ของรายได้ของบริษัท ในปี 2019 อีกทั้งอาลีบาบาจะต้องยื่นรายงานการตรวจสอบและการปฏิบัติตามข้อกำหนดให้ทาง SAMR ต่อเนื่องเป็นเวลาสามปีด้วย
ทั้งนี้ อาลีบาบาออกมาแถลงว่า บริษัทยอมรับการลงโทษและจะปฏิบัติตามข้อกำหนดของ SAMR โดยจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการปรับปรุงระบบการดำเนินงานภายในองค์กร
“อาลีบาบาไม่อาจประสบความสำเร็จได้ หากปราศจากกฎระเบียบและการควบคุมดูแลที่ดีจากรัฐบาล” บริษัทกล่าว พร้อมบอกว่า ทางบริษัทจะจัด conference call ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (เวลา 8.00 น.) ตามเวลาฮ่องกงเพื่อหารือเกี่ยวกับค่าปรับด้วย
อย่างไรก็ดี ในมุมของสื่อตะวันตก การคิดค่าปรับดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการสยบความอหังการของอาลีบาบา เนื่องจากมองว่า อาณาจักรของ Jack Ma เริ่มมีขนาดใหญ่เกินไป และมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจจีนมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการเงิน โดยสิ่งที่สื่อตะวันตกให้ความสนใจก่อนหน้านี้ก็คือการระงับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกของ Ant Group ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และหลังจากนั้น Jack Ma ก็หายตัวไปจากหน้าสื่อนานหลายเดือน โดยมีเพียงคลิปสั้น ๆ ที่เปิดเผยให้เห็นว่าเขายังสบายดีเท่านั้น