เฟซบุ๊ก (Facebook) เปิดผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2021 ทำรายได้เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์อีกราย โดยในไตรมาสนี้ทำไปได้ถึง 26,170 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8.16 แสนล้านบาท ด้านซีอีโอ Mark Zuckerberg ประกาศสร้างประสบการณ์ใหม่ในรูปแบบ “อีคอมเมิร์ซ” บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหวังดึงรายได้เพิ่มให้บริษัท และลดความเสี่ยงประเด็นค่าโฆษณาที่อาจลดลงจากการอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 14.5 ของ Apple
สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 48% ในไตรมาส 1 นี้ ทาง Facebook อธิบายว่า มาจากการที่ผู้ลงโฆษณารายใหญ่เทงบการตลาดมายังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานหลายพันล้านคนกันมากขึ้น ไม่ต่างกับธุรกิจขนาดเล็กที่อยากเข้าถึงข้อมูลดิจิทัลของผู้ใช้งานเพื่อเปลี่ยนคนเหล่านี้ให้เป็นลูกค้า ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยต่อโฆษณาเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
นอกเหนือจากค่าโฆษณา หมวดรายได้อื่น ๆ (ผลิตภัณฑ์อย่างแว่น Oculus และลำโพงอัจฉริยะ Portal ก็อยู่ในกลุ่มนี้) ของ Facebook ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยในไตรมาสนี้ทำรายได้ไปถึง 732 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 146% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 เลยทีเดียว
ด้านกำไรสุทธิของ Facebook ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 9,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.96 แสนล้านบาท
ผู้บริหาร Facebook ยังมองว่าเทรนด์การลงโฆษณาของผู้ลงโฆษณารายใหญ่และธุรกิจขนาดเล็กจะยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสที่ 2 เพียงแต่ในไตรมาส 2 นี้ บริษัทมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมา นั่นคือผลกระทบจากการอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 14.5 ของแอปเปิลที่อาจทำให้ไม่สามารถเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานได้อย่างที่ควรจะเป็น และทำให้การยิงโฆษณาของ Facebook มีประสิทธิภาพลดลง
แผนใหม่ สร้างรายได้ผ่าน Marketplace
เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง มีรายงานว่า Facebook อาจเริ่มหันไปให้ความสำคัญกับบริการอย่าง “Marketplace” มากขึ้น โดยในจุดนี้ Adam Mosseri ผู้บริหารของ Instagram เผยว่าจะมีการเปิดตัว Creator Shops ในอนาคตอันใกล้ และจะอนุญาตให้อินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างรายได้จากฐานแฟนคลับที่ตนเองมี หรือในกรณีที่อยากมีรายได้จาก Affiliate Program ทาง Facebook ก็จะพัฒนาระบบขึ้นมารองรับเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่มีการประกาศว่าจะเริ่มใช้งานได้เมื่อไร
Mark Zuckerberg ยังบอกด้วยว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้งานเข้าไปที่ Marketplace แล้วกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน ซึ่ง Facebook อยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการชำระเงิน รวมถึงกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล และเงินสกุลดิจิทัลเพื่อให้การจับจ่ายใช้สอยบนแพลตฟอร์มทำได้สะดวกมากขึ้นด้วย
ปัจจุบัน ตัวเลขผู้ใช้งานของทุกแพลตฟอร์มในบริษัทรวมกันอยู่ที่ 3,450 ล้านคนต่อเดือน (Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วที่ 3.3 พันล้านคนต่อเดือน