กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) กลุ่มเอเยนซี่ผู้นำด้านการบริหารและวางแผนการซื้อสื่อระดับโลกของ ดับบลิวพีพี จัดทำหนังสือสรุปภาพรวมตลาดอุตสาหกรรมดิจิทัลสำหรับประเทศไทยภายใต้ชื่อ Thailand Digital Playbook 20-21 ติดต่อกันเป็นปีที่ 5
หนังสือ Thailand Digital Playbook 20-21 ได้ทำการรวบรวมและประมวลผลงานวิจัยของ กรุ๊ปเอ็ม และพันธมิตรสื่อในประเทศไทย เพื่อนำเสนอข้อมูลทางการตลาด เทคโนโลยีดิจิทัล และเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค ในรูปแบบพ็อคเก็ตบุ๊กให้แก่ลูกค้าของมีเดียเอเยนซี่ในเครือ ได้แก่ มายด์แชร์ มีเดียคอม เวฟเมคเกอร์ เอ็มซิกส์ มิ้นท์ และบุคคลทั่วไปที่สนใจ โดยในครั้งนี้ทาง กรุ๊ปเอ็ม ได้ทำการเจาะลึกถึงความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
คุณณัฏฐพัชร์ รุ่งนิเวศน์ เจ้าหน้าที่อาวุโสแผนกพัฒนาและการตลาด กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) เผยว่า Thailand Digital Playbook แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อประเทศไทยในด้านของเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมสื่อ และผู้บริโภคตั้งแต่ช่วงก่อนการระบาดของไวรัสจนถึงช่วงการกลับมาฟื้นตัวของประเทศไทยในครึ่งปีหลัง เพื่อเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและการปรับตัวของอุตสาหกรรมสื่อ รวมถึงชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการทำความเข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมรูปแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยีการใช้สื่อ การเก็บข้อมูล และการสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากเครื่องมือและผู้เชี่ยวชาญของกรุ๊ปเอ็มอย่าง [m] Insight และ Xaxis COPILOT ที่จะทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ใช้คู่มือเพื่อความอยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้
คุณแพน จรุงธนาภิบาล รองผู้อำนวยการแผนกพัฒนาและการตลาด กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า Thailand Digital Playbook 20-21 เนื้อหาเจาะถึงข้อมูลสำคัญของอุตสาหกรรมโฆษณาและสื่อดิจิทัลพร้อมวิเคราะห์อินไซต์และพฤติกรรมของคนไทยที่เปลี่ยนไปจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดจากทั้งภาครัฐและเอกชนในปีที่ผ่านมาได้ผลักดันให้ผู้บริโภคชาวไทยได้เข้าสู่วิถีชีวิตออนไลน์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน การใช้จ่าย และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
โดยภายในหนังสือ Thailand Digital Playbook 20-21 ประกอบด้วยเนื้อหา 4 ส่วนสำคัญ ดังนี้
1.The Covid-19 Pandemic; Past, Present, And Future ภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาดิจิทัลไทย
งบประมาณการลงทุนของแบรนด์บนสื่อโฆษณาแบบดั้งเดิม (Offline Media) ปี 2020 ตกลงไปถึง 17.2% ในขณะที่การลงทุนในการโฆษณาบนสื่อดิจิทัลกลับมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสื่อสังคมโซเชียลอย่างเฟซบุ๊กและเสิร์ชเอนจินอย่างกูเกิล คือส่วนสำคัญที่ช่วยพยุงการเติบโตของสื่อดิจิทัล
แพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ ได้มีการปรับตัวและพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคมากขึ้น อย่างเช่น แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่มีการสร้างสื่อสังคมโซเชียลของตัวเอง เพื่อให้กลุ่มผู้บริโภคใช้เวลาอยู่ในแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น
2.Consumer Behaviours Changed ผู้บริโภคเปลี่ยนไปพึ่งพาโลกออนไลน์มากขึ้น
ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพและเรื่องการใช้จ่าย มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดจากภาครัฐในช่วงปีที่ผ่านมา เช่น การล็อคดาวน์ ส่งผลให้สื่อดิจิทัลได้กลายมาเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค ทั้งในเรื่องของการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคโดยไม่ต้องออกจากบ้าน อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นหนทางในการสร้างรายได้เสริมเพื่อความอยู่รอด
3.Know Your Consumers เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสม
ความท้าทายของแบรนด์และนักการตลาดในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่การสร้างการรับรู้ของผู้บริโภค เมื่อผู้บริโภคมีพฤติกรรมอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น นักการตลาดจะต้องสร้างข้อได้เปรียบให้แก่ธุรกิจผ่านความเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริงผ่านข้อมูลและเทคโนโลยี ซึ่งการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีสามารถช่วยให้นักการตลาดวิเคราะห์และระบุกลุ่มเป้าหมายเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการด้วยความรวดเร็ว
4.Key Takeaway บทสรุปและคำแนะนำสำหรับนักการตลาด
ในปัจจุบันการแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้นเพื่อแย่งชิงผู้บริโภคที่มีกำลังในการใช้จ่ายไม่มากเท่าเดิม แบรนด์จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ที่สามารถจบการขายได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลดระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคให้น้อยที่สุด อีกทั้งยังจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อหาช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วอย่างการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและ Key Opinion Leaders (KOL) ที่เชื่อถือได้ รวมถึงการนำข้อมูลที่มีวิเคราะห์และประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดผ่านการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และการสร้างแบรนด์จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างการรับรู้อีกต่อไป แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับผู้บริโภค
คุณณัฐวีร์ ณีว มาวิจักขณ์ ผู้บริหารแผนกพัฒนาและการตลาด กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า “เป็นครั้งที่ 5 ที่ Thailand Digital Playbook ได้ถูกจัดทำขึ้นตามเจตนารมณ์ของ กรุ๊ปเอ็ม ในฐานะกลุ่มเอเยนซี่ผู้นำซึ่งมีหน้าที่ในการขับเคลื่อนอุตสาหรรมการสื่อสารทางการตลาดผ่านการแบ่งปันองค์ความรู้”
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Thailand Digital Playbook ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากทั้งนักการตลาด ตลอดจนนักโฆษณาจากทั้งในและต่างประเทศ หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้นักโฆษณาและการตลาดได้เข้าใจภาพรวมของพฤติกรรมผู้บริโภคและสื่อโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทย เพื่อมาใช้เป็นแนวทางในการสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถอ่าน Thailand Digital Playbook 20-21 (ภาษาอังกฤษ) ได้ที่เว็บไซต์ของ https://www.groupmthailand.com/insightm/home/view/thailand_digital_playbook_2021