หากเอ่ยถึงแฟล็กชิปสโตร์ของบรรดาแบรนด์สมาร์ทโฟน เราก็คงคาดหวังจะได้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด แท็บเล็ต หูฟัง หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ภายใน Ecosystem ของแบรนด์ แต่ต่อจากนี้ไป ความคาดหวังนั้นอาจเพิ่มขึ้น เมื่อหัวเว่ย (Huawei) แบรนด์สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่จากจีน ได้นำ “รถอัจฉริยะ” ของทางค่ายมาขายผ่านแฟล็กชิปสโตร์ของพวกเขากันแล้ว
สำหรับรถรุ่นที่นำมาโชว์คือโมเดล SF5 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฮบริด ผลงานการพัฒนาร่วมกันของ Huawei กับค่าย SERES โดยตัวรถสามารถวิ่งโดยใช้พลังงานไฟฟ้าได้เป็นระยะทาง 180 กิโลเมตร (และสามารถวิ่งต่อได้อีกกว่า 1,000 กิโลเมตรในโหมด Extended-range)
นอกจากนั้น ระบบ HiCar ของ Huawei ที่ติดตั้งอยู่ภายในรถยังทำให้ผู้ขับสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้าน เช่น ทีวี เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ได้ด้วย (สั่งที่บ้านให้เปิดแอร์ไว้รอได้ เป็นต้น) และรองรับการสั่งการด้วยเสียง ไม่ต้องละสายตาจากถนนมาจิ้มปุ่มกดบนหน้าจอแต่อย่างใด หรืออีกหนึ่งตัวอย่างการเชื่อมต่อก็คือ เพลงที่เปิดฟังอยู่ในโทรศัพท์มือถือก็จะเล่นต่อให้เมื่อเราก้าวเท้าขึ้นรถ ฯลฯ
ริชาร์ด หยู (Richard Yu) ผู้บริหารฝ่าย Consumer Business ของ Huawei บอกว่า การกีดกันทางการค้าที่สหรัฐอเมริกามีต่อ Huawei ทำให้ซัพพลายเชนของตลาดสมาร์ทโฟนได้รับผลกระทบอย่างหนัก และตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคือโอกาสใหม่ที่ Huawei มองเห็น อีกทั้งยังทำราคาขายได้สูงกว่าสมาร์ทโฟนหลายเท่า โดยราคาขายของรถยนต์ไฟฟ้าที่ประกาศไว้บนเว็บไซต์ของ Huawei ระบุไว้สองราคา นั่นคือ รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ ตั้งราคาไว้ที่ 216,800 หยวน (ประมาณ 1.04 ล้านบาท) และเวอร์ชันขับเคลื่อนสี่ล้ออยู่ที่ 246,800 หยวน (ประมาณ 1.19 ล้านบาท)
ข้อดีของการใช้แฟล็กชิปสโตร์ในการจัดแสดงรถยนต์ไฮบริดก็คือ ภายในแฟล็กชิปสโตร์มีอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ของ Huawei อยู่แล้ว และสามารถสาธิตการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT เข้ากับระบบ HiCar ให้ลูกค้าเห็นภาพได้โดยง่าย นอกจากนั้น Huawei ยังเลือกนำรถยนต์เข้าไปจัดแสดงตามหัวเมืองใหญ่ของจีน ซึ่งคนในเมืองมีกำลังซื้อสูง ไม่ว่าจะเป็นที่ เสินเจิ้น, เซี่ยงไฮ้, เฉิงตู และหังโจว หรือจะจองผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Vmall ก็ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ Huawei เริ่มสร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมยานยนต์ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยมีการเซ็นสัญญากับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ 18 รายในการใช้ซอฟต์แวร์ HiCar ของ Huawei ในรถยนต์ของพวกเขาภายใต้ชื่อ “5G automotive ecosystem” ซึ่งไม่เพียงแต่ Huawei ที่สนใจตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แต่แบรนด์เพื่อนบ้านอย่าง Xiaomi และ Baidu ก็แสดงออกว่าสนใจและมีโครงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน