ท่ามกลางสถานการณ์ที่มองไปทางไหนก็มีแต่หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวถูกทิ้งเป็นขยะเต็มไปหมด ในเนเธอร์แลนด์ กลับมีธุรกิจผลิตหน้ากากอนามัยเล็ก ๆ รายหนึ่งบอกว่า พวกเขาจะเปลี่ยนขยะจากหน้ากากอนามัยให้กลายเป็นสวนดอกไม้แทน
เจ้าของของธุรกิจดังกล่าวเป็นดีไซเนอร์ชื่อ Marianne de Groot-Pons โดยเธอเลือกที่จะออกแบบหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งให้ต่างจากหน้ากากอนามัยทั่ว ๆ ไป ด้วยการใช้กระดาษที่ทำจากข้าว และในตัวกระดาษนั้นก็ได้แทรกเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงไปด้วย
ส่วนที่คล้องหูนั้น เธอบอกว่าทำจากขนสัตว์ ด้วยเหตุนี้เมื่อใช้หน้ากากอนามัยของเธอเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถฝังกลบลงดินได้เลย เพราะมันจะย่อยสลายโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ เมล็ดพันธุ์ดอกไม้ที่แทรกอยู่ในกระดาษจะงอกงามกลายเป็นดอกไม้สวย ๆ ให้เชยชมได้อีกต่อ
แรงบันดาลใจที่ทำให้เธอคิดธุรกิจนี้ขึ้นมาก็คือ ตอนที่เธอออกมาเดินเล่นนอกบ้าน และได้เห็นผู้คนทิ้งหน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวอยู่เต็มไปหมด เธอจึงกลับมาที่บ้าน และใช้โต๊ะในห้องครัวผลิตหน้ากากอนามัยแบบที่เธอคิดว่ามันจำเป็นต่อโลกเสียเลย
หน้ากากอนามัยที่ Marianne de Groot-Pons ผลิตขึ้นนั้น ทำตลาดภายใต้แบรนด์ Marie Bee Bloom ซึ่งเธอเปิดเผยว่า เพียง 5 สัปดาห์แรก ยอดขายของมันก็ทำให้เธอต้องย้ายที่ผลิตจากห้องครัวในบ้านไปเป็นการจ้างพนักงาน 30 คนเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยนี้แล้ว และถึงตอนนี้ หน้ากากโฮมเมดดังกล่าวก็มีวางจำหน่ายแล้วถึง 3 ประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และเยอรมนี รวมถึงมีแผนจะวางจำหน่ายในทุกประเทศของยุโรปด้วย
ชื่อของแบรนด์คืออีกหนึ่งข้อที่ทำให้เห็นว่าเธอใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพราะหากว่ามีดอกไม้ ผึ้งก็มีโอกาสผสมเกสร และนั่นคือสิ่งที่ทำให้โลกนี้ขับเคลื่อนต่อไปได้นั่นเอง