การถอนตัวจากธุรกิจ Consumer Banking ในประเทศไทยของ “ซิตี้กรุ๊ป” (Citi Group) ที่เป็นข่าวฮือฮาเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะปรากฏตัวผู้ให้ความสนใจแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นธนาคารกสิกรไทยนั่นเอง
สื่อที่รายงานเรื่องนี้คือ Bloomberg ที่อ้างคำให้สัมภาษณ์ของคุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระบุว่า ธุรกิจรีเทลของซิตี้กรุ๊ปมีขนาดใหญ่มากและมีฐานลูกค้าที่มีคุณภาพสูง แต่ในรายงานของ Bloomberg ก็กล่าวอ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ด้วยว่า การยื่นประมูลสินทรัพย์ของซิตี้กรุ๊ปจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อธนาคารพิจารณาแล้วพบว่าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเดิมของธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น
นอกจากนี้คุณขัตติยายังมีการย้ำถึงหัวใจหลักของธนาคารกสิกรไทยอย่างการขยายธุรกิจออกสู่ภูมิภาคด้วย ซึ่งสองประเทศที่มีการกล่าวถึงคือเวียดนามและอินโดนีเซีย โดยในอินโดนีเซีย ได้มีการจับมือเป็นพันธมิตรกับ PT Bank Maspion รวมถึงเข้าไปถือหุ้นประมาณ 10% ด้วย
ส่วนในเวียดนาม พบว่า ธนาคารกสิกรไทยมี Banking License แล้วเรียบร้อย และกำลังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายหนึ่งอยู่
ทั้งนี้ การถอนตัวออกจาก 13 ตลาดรวมถึงไทยของซิตี้กรุ๊ป เป็นการถอนตัวตามเพื่อนร่วมวงการอย่าง Standard Chartered และ HSBC ที่โบกมือลาไปก่อนหน้านี้ (ปี 2017 และ 2012 ตามลำดับ) โดยจะไปโฟกัสธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอย่าง Wealth Management แทน
สำหรับประเทศที่ซิตี้กรุ๊ปจะถอนตัวออกจากธุรกิจ Consumer Banking ประกอบด้วย ออสเตรเลีย บาห์เรน จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ โปแลนด์ รัสเซีย ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม โดยให้เหตุผลว่าเพื่อลดต้นทุนในธุรกิจ Consumer Banking นั่นเอง