ทุกวันนี้งานหายากมากขึ้น เพราะความต้องการในการจ้างงานลดลง บางคนทำงานอยู่ดีๆ โดนเลย์ออฟแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะกิจการต้องปิดตัวลงจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ซัดกระหน่ำไม่หยุด บางกิจการแม้จะยังอยู่ได้ แต่ก็ต้องประคองตัว ทั้งลดรายจ่าย ลดวันทำงาน จนไปถึงขั้นลดจำนวนพนักงาน ทำให้การหางานในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ หรือ Frist Jobber แต่โลกการทำงานก็ไม่ได้มีแค่ด้านร้าย เพราะหลายธุรกิจมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ทำให้มีความต้องการจ้างงานอยู่
ดังนั้น โอกาสของเด็กจบใหม่ในตลาดแรงงานยังมีอยู่แน่นอน แต่สิ่งสำคัญต้องรู้จักปรับตัวเองให้สอดรับกับการแข่งขันและตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป โดย แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย มี 5 ทริคง่ายๆ สำหรับเด็กจบใหม่ในยุคโควิด-19 ที่กำลังมองหางานให้ได้ต้องเตรียมตัวเพื่อให้มีแต้มต่อในการได้งาน
1.รู้จักตลาดงาน
อันดับแรกของการเตรียมตัวเองคือ การรู้จักตลาดงานในตอนนั้นว่างานอะไรที่มีความต้องการสูง ธุรกิจอะไรที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานสูงทั้งกลุ่มอีคอมเมิร์ซ, โลจิสติกส์ และไอที เป็นต้น และเมื่อได้คำตอบแล้ว ก็ควรรู้ว่ามีช่องทางไหนที่จะสมัครงานได้บ้าง ทั้งเว็บไซต์หางาน เว็บไซต์องค์กร รวมถึงช่องทางในโซเชียลต่างๆ
2.รู้จักตัวเอง
หลังจากรู้แล้วว่าตลาดงานเป็นอย่างไร ตลาดไหนเป็นที่ต้องการ ต่อไปต้องกลับมานั่งสำรวจตัวเองให้ถี่ถ้วน และตอบตัวเองให้ได้ว่า ต้องการเป็นอะไร มีจุดมุ่งหมายอย่างไร มีความชอบหรือสนใจสิ่งใด เพราะการทำงานในสิ่งที่ตัวเองสนใจและถนัดจะทำให้มีความสุข สนุกไปกับการทำงาน และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นเมื่อค้นพบแล้วว่าตัวเองชอบอะไร และอยากทำอะไร ก็ถึงเวลาที่ต้องจัดเตรียมข้อมูลส่วนตัว หรือ Resume ต้องเขียนให้ชัดเจน น่าสนใจ นำเสนอจุดเด่น ความสามารถพิเศษ งานอดิเรก รางวัลต่างๆ เป็นต้น ทั้งหมดต้องครอบคลุม กระชับ นำเสนอจุดแข็งของตัวเองได้ทั้งทักษะและประสบการณ์ของตัวเอง
3.การจริงจังกับการหางาน เป็นเรื่องสำคัญ
ถ้าคุณไม่จริงจังแสดงว่าคุณกำลังให้โอกาสตัวเอง สิ่งนี้อาจฟังดูตรงกันข้ามกับคำถามก่อนหน้านี้ แต่การจริงจังกับเป้าหมายของคุณจะเป็นโอกาสที่ดีขึ้นในการเรียนรู้ทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องการ คุณอาจแปลกใจที่รู้ว่าคุณสามารถทำงานได้ดีขึ้นมากเช่นกัน
4.สร้างมูลค่าเพิ่มในตัวเอง
มูลค่าเพิ่มในที่นี้คือ ทักษะทั้งด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงควรมีความสามารถทางด้านภาษาที่ 3 ที่ 4 นอกจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณได้เปรียบคู่แข่งในการลงสนามงาน และเพิ่มโอกาสให้กับตัวคุณในการได้งานมากยิ่งขึ้น
5.ทักษะการทำงานในโลกยุคใหม่ต้องพร้อม
ทักษะความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานในยุค Next Normal นอกจากทักษะที่ใช้ในการทำงาน (Hard Skill) แล้ว การทำงานในยุคนี้ยังต้องการทักษะเฉพาะ เช่น โปรแกรมเมอร์ ต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมและการพัฒนาแอปพลิเคชัน สายงานบัญชี ต้องมีความรู้พื้นฐานของการทำบัญชีทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงความเชี่ยวชาญโปรแกรมทางบัญชีการเงิน เช่น Express, SAP, ERP และ Oracle ส่วนสายงานการตลาดและการขาย ควรเพิ่มเติมความรู้เฉพาะทางการตลาดดิจิทัล การบริการลูกค้า, การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ทั้งยังต้องมีทักษะทางอารมณ์และสังคม (Soft Skill) ไม่ว่าจะเป็น การสื่อสารให้เข้าใจ มนุษย์สัมพันธ์ การทำงานเป็นทีม การปรับตัวให้รวดเร็วเท่าทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และการทำงานได้หลากหลายโดยต้องโฟกัสและจัดลำดับความสำคัญของการทำงานให้เป็นระบบ ทักษะเหล่านี้ล้วนมีความจำเป็นเพื่อช่วยการทำงานให้มีประสิทธิภาพ