การดูแลสุขภาพเป็น Mega Trend ที่เกิดขึ้นทั่วโลกและกลายเป็นไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคนี้ไปแล้ว ยังส่งผลให้ตลาด Healthy Foods เป็นอุตสาหกรรมขาขึ้น ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง กระแสที่มาแรงในเวลานี้ ต้องยกให้ Plant-based Food ปัจจุบันประมาณการมูลค่าตลาดรวมทั่วโลกอยู่ที่ 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2025 จะเพิ่มขึ้นเป็น 38.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ประเทศไทย ปัจจุบันตลาด Plant-based Food มีมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท ศูนย์วิจัย Krungthai Compass ธนาคารกรุงไทย ระบุว่าในปี 2024 ตลาด Plant-based Food ในไทย จะมีมูลค่าสูงถึง 45,000 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 10%
กลุ่ม Flexitarian ดันเทรนด์ Plant-based
เทรนด์ Plant-based Food (อาหารที่ทำจากพืชเป็นหลัก) ที่กำลังได้รับความนิยมและเติบโตอยู่ทั่วโลก แท้จริงแล้วสาเหตุหลักไม่ได้มาจากการเติบโตของกลุ่ม Vegan/วีแกน (คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น นม ไข่ ถือเป็นประมาณ 2% ของประชากรโลก) และ Vegetarian/มังสวิรัติ (คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์แต่ยังกินและใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ถือเป็น 4% ของประชากรโลก) เพราะถึงแม้ Vegan จะเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโตมากโดยเฉพาะฝั่งโลกตะวันตก แต่ก็ยังนับเป็นเปอร์เซ็นต์เพียงหยิบมือของคนทั้งหมดบนโลก
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Plant-based เติบโต มาจากพฤติกรรมรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Flexitarian/มังสวิรัติยืดหยุ่น ที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
Flexitarian คือพฤติกรรมการหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แบบง่ายๆ ทางใดทางหนึ่ง ที่ไม่ได้เคร่งครัดแบบ Vegan และ Vegetarian เพียงมีความพยายามจะเว้นเนื้อสัตว์บางประเภท บางเวลา หรือบางมื้อ ก็ล้วนถือเป็น Flexitarian ทั้งสิ้น
คนไทย 28% ใช้ชีวิตแบบ Flexitarian แต่ไม่รู้ตัว
ข้อมูลวิจัยพบว่า 29% ของผู้บริโภคทั่วโลกมีพฤติกรรมแบบนี้ และ 28% ของคนไทย กำลังมีพฤติกรรมแบบนี้โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า ‘ฉันนี้แหละ กำลังดำเนินชีวิตแบบ Flexitarian อยู่’
การสำรวจกลุ่มตัวอย่างคนไทยกว่า 2,000 คน พบว่า 28% มีพฤติกรรมการเว้นเนื้อสัตว์แบบ Flexible ซุกซ่อนอยู่ บางคนไม่กินเนื้อวัว สัตว์ใหญ่ หรือสัตว์ปีก บางคนเว้นเนื้อสัตว์ในเดือนเกิดหรือวันเกิด ในวันพระ หรือเว้นในบางมื้อ ซึ่งมีหลายสาเหตุ เช่น อยากสุขภาพดีขึ้น 86% เพราะเหตุผลทางศาสนาและความเชื่อต่างๆ 31% ต้องการควบคุมน้ำหนัก 19% จนไปการเว้นเนื้อเพื่อช่วยลดโลกร้อนและช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อม 11%
จากการพูดคุยเชิงลึกกับกลุ่มตัวอย่าง คนที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ บอกว่ารู้สึก ‘อิน’ กับการกินแบบ Flexitarian มากกว่า Vegan และ Vegetarian เพราะทำง่าย ไม่ต้องทนทรมานกับอาการ ‘โหยหรืออ่อนเพลีย’ จากการงดเนื้อสัตว์ต่อเนื่องยาวนาน แล้วกลับกลายเป็น ‘ตบะแตก’ กลับมากินแหลกแบบไม่ยั้ง เพราะทนอดมานานเกินไป
นอกจากนี้ ยังรู้สึกว่าการเว้นเนื้อสัตว์เป็นช่วงๆ ทำให้มีความเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายที่ดีขึ้นชัดเจน เช่น น้ำหนักตัวลดลง ระบบขับถ่ายดีขึ้นส่งผลให้ผิวพรรณดีขึ้น และยังลดความกังวลต่อการเกิดโรคที่เกิดจากการกินเนื้อแดงมากเกินไป เช่น โรคมะเร็ง ความดันโลหิต โรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง
อีกพฤติกรรมที่คนไทยทำกันมากแต่ไม่รู้ว่ามันเรียกว่า Flexitarian ก็คือ การเว้นเนื้อสัตว์ในช่วงเวลาต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อจิตใจ เช่น ช่วงเดือนเกิด วันเกิด หรือช่วงที่รู้สึกว่าต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆ มากมายเกินจะรับมือ การเว้นเนื้อสัตว์ก็จะเป็นพฤติกรรมที่ทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น หรือสามารถผ่านเรื่องร้ายๆ ต่างๆ ไปได้ เพราะได้ลดละเลิกการเบียดเบียนชีวิต
MEAT ZERO ชูจุดขาย ‘หาซื้อง่าย-ราคาจับต้องได้’
หากดูอินไซต์คนไทยที่มีพฤติกรรมแบบ Flexitarian ก็พบว่ามีความยากลำบากในการใช้ชีวิตช่วงที่ต้องการเว้นเนื้อสัตว์ เนื่องจากอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ไม่ได้หาซื้อได้ง่ายตามร้านทั่วไป และส่วนใหญ่มีราคาแพง รสชาติไม่อร่อย เมนูก็จำเจน่าเบื่อ
จาก pain point ดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการสร้างแบรนด์ MEAT ZERO ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืชแบบพร้อมทานและพร้อมปรุงเมนูยอดนิยมต่างๆ เช่น โบโลน่าจากพืช เบอร์เกอร์หมูจากพืช ข้าวกะเพราเนื้อจากพืช ในราคาเอื้อมถึงเพียง 35-45 บาท นอกจาก นี้ยังมีนักเก็ตไก่จากพืช เนื้อบดจากพืช หมูกรอบจากพืช สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านปรุงเป็นเมนูอาหารในครอบครัว ในราคาเพียง 79 บาท
ที่สำคัญสามารถหาซื้อได้ง่ายจากร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น แม็คโคร โลตัส ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านชั้นนำทั่วไป เพื่อให้ทุกคนที่อยาก ‘เว้นเนื้อสัตว์’ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร ก็สามารถเข้าถึงได้ และควักจ่ายอย่างสบายกระเป๋าในยุคเศรษฐกิจช่วงโควิด
ต้องลอง! นวัตกรรม ‘Plant-Tec อร่อยแบบเนื้อสัตว์
การเข้าสู่ตลาด Plant-based Food ของแบรนด์ MEAT ZERO ต้องบอกว่า ‘ไม่ใช่เรื่องง่าย’ เพราะการทำให้ ‘พืช..อร่อยแบบเนื้อสัตว์’ ใช้เวลาพัฒนากว่า 2 ปี ผ่านการทดลองมากกว่า 2,000 ครั้ง และใช้นักวิจัยและทีมงานของศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารซีพีเอฟ (CPF) กว่า 100 ชีวิตที่ทุ่มเทเวลาให้นวัตกรรมเนื้อจากพืชนี้ออกมาให้เพอร์เฟคที่สุด
โดย MEAT ZERO ได้ร่วมมือกับบริษัทด้าน Plant-based ระดับโลกอย่าง Fuji Oil ประเทศญี่ปุ่น เพื่อทรานส์เฟอร์โนว์ฮาวต่างๆ จึงเป็นที่มาของเอกสิทธิ์นวัตกรรม ‘PLANT-TEC หรือ เทคนิคการสร้างรสสัมผัสพืชเสมือนเนื้อสัตว์
ไม่เพียงได้เนื้อสัมผัสและรสชาติให้อร่อยแบบเนื้อสัตว์ MEAT ZERO ยังเป็นทางเลือกของคนที่ต้องการจะเว้นเนื้อสัตว์ และไม่ต้องกังวลกับการดูแลสุขภาพ เพราะผลิตภัณฑ์ทุกรายการทำจากพืช ปราศจากคอเลสตอรอล นอกจากนั้น ยังมีปริมาณโปรตีนสูงเทียบเคียงการบริโภคเนื้อสัตว์ และมีไฟเบอร์จากพืชอีกด้วย
ถือเป็นแบรนด์ Plant-based ที่มาท้าทายบรรทัดฐานความเชื่อของสังคม ด้วยความเชื่อของแบรนด์ที่ว่า ‘SMALL ACTIONS, MILLION IMPACT – แค่เริ่ม…โลกก็เปลี่ยน’
เรียกได้ว่า MEAT ZERO เป็นอีกทางเลือกของกลุ่ม Flexitarian และเป็นอีกแบรนด์นวัตกรรมเนื้อจากพืช ของบริษัท ซีพีเอฟ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ที่ได้วางเป้าหมายจะเป็น 1 ใน 3 ผู้นำตลาดเนื้อทางเลือกของโลก เคียงคู่ Impossible Meat และ Beyond Meat และพัฒนาต่อไปสู่การเป็นบริษัทอาหารแห่งอนาคตหรือ Food Tech Company อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย