จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไวรัส โควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ ด้วยการมองหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ด้านสุขภาพมากขึ้น เพื่อตอบสนองเทรนด์ดังกล่าว ในปีนี้ “ไดกิ้น” ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านระบบปรับอากาศระดับโลก จึงได้มีการปรับกลยุทธ์โฆษณาครั้งใหญ่ โดยมีเป้าหมายปรับทุกอากาศให้สมบูรณ์แบบ (Perfecting the Air) เพื่อมอบอากาศที่ดีและบริสุทธิ์ให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ด้านสุขภาพ
นายสราวุธ เต็มภัทรศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า เดิมโฆษณาของไดกิ้น มีการใช้พระเอกชื่อดัง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ มาตั้งแต่ พ.ศ. 2558 ซึ่งช่วยให้แบรนด์ไดกิ้นเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง สามารถตอบโจทย์เรื่องการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยเทรนด์ที่เปลี่ยนไป โฆษณาในปีนี้จะมุ่งสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญ และตระหนักถึงคุณค่าของ “อากาศ” ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวและเราใช้หายใจตลอดเวลา แต่มักถูกมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสะอาด หรือความชื้น ฯลฯ นอกเหนือจากเพียงเรื่องของอุณหภูมิ ซึ่งล้วนส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า การรับประทานวันละ 3 มื้อ และดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ผู้คนยังให้ความสำคัญทั้งคุณภาพและความสะอาดแต่พอเป็นเรื่องอากาศ ผู้คนบางกลุ่มอาจไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่นัก
สะท้อนจากภาพยนตร์โฆษณาที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการถ่ายทอดแนวคิดเรื่องอากาศผ่านตัวตนของ KOL (Key Opinion Leader) หรือผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิด 3 ท่าน ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย ได้แก่ คุณนิ้วกลม “สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์” ซึ่งเป็นตัวแทนของนักคิด คุณบูม “ธริศร ธรณวิกรัย” ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ที่เป็น Perfectionist เป็นคนที่รักครอบครัว และคุณเฟื่องลดา “สรานี สงวนเรือง” ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ที่ชื่นชอบในเทคโนโลยี โดยทั้งสามคนนี้เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเป็นประจำ
“จากโฆษณาทีวีที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนมีนาคม ในเชิงการตั้งคำถามเพื่อส่งไปถึงผู้บริโภค คุณนิ้วกลม เสมือนตัวแทนของกลุ่มนักคิด มาตั้งคำถามว่านิยามอากาศที่ดีของคุณ คุณนึกถึงอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายๆ คนอาจไม่เคยนึกถึง ส่วนคุณธริศร และคุณเฟื่องลดา มาร่วมให้นิยามอากาศที่ดีในความหมายของเขา จากนั้นจึงมีโฆษณาตัวเฉลยว่าที่คุณหาอากาศที่ดีนั้น เครื่องปรับอากาศไดกิ้นเซ-ต้าส มีสิ่งเหล่านี้”
โดยบริษัทได้ทำการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศไดกิ้น “เซ-ต้าส” (ZETAS) ที่มีการนำเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของไดกิ้นติดตั้งเข้าไป ซึ่งได้รับการยืนยันประสิทธิภาพแล้วว่า สามารถยับยั้งไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ได้ จากมหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Tokyo) และมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์โอคายาม่า (Okayama University of Science) ประเทศญี่ปุ่น
รวมถึงสถาบันในประเทศไทย ซึ่งบริษัทได้ประกาศความร่วมมือทางวิชาการอย่างเป็นทางการกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ ที่อยู่ในเครื่องปรับอากาศไดกิ้น เซ-ต้าส เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคชาวไทยอีกด้วย
ส่วนเทรนด์การโฆษณาในตลาดเครื่องปรับอากาศในปัจจุบัน นายสราวุธ มองว่า ทุกแบรนด์พูดถึงจุดขายในเรื่องคล้ายๆ กัน ทั้งเรื่องดีไซน์ และการประหยัดไฟ แต่ไดกิ้นพยายามเพิ่มเติม Better Life Value ด้วยเรื่องการมอบอากาศที่สะอาด ที่ไม่ใช่แค่จากฝุ่น PM2.5 แต่เป็นความสะอาดจากไวรัสด้วย
จากหลักการทำงานของเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศที่มีสตรีมเมอร์ จะดูดเอามวลอากาศในห้องผ่านเข้าเครื่องมา อนุภาคเหล่านั้นจะไปติดอยู่ที่แผ่นกรอง และสตรีมเมอร์จะปล่อยประจุอิเล็คตรอนประสิทธิภาพสูงไปยังแผ่นกรองที่มีอนุภาคไม่พึงประสงค์ติดอยู่ ด้วยอิเล็คตรอนประสิทธิภาพสูงนี้ ทำให้กำจัดอนุภาคต่างๆ ทั้งผิวชั้นนอกและแกนกลาง ทำให้สตรีมเมอร์ยับยั้งไวรัส แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ได้เร็ว และมวลอากาศที่ผ่านประจุอิเล็กตรอนสตรีมเมอร์นี้ก็เป็นการถูกรองอากาศให้สะอาดและยังช่วยยืดอายุการใช้งานแผ่นกรองด้วยเพราะเสมือนสตรีมเมอร์ไปทำความสะอาดแผ่นกรองอยู่ตลอดการทำงาน ต่างจากเทคโนโลยีไอออนที่เครื่องฟอกอากาศหรือเครื่องปรับอากาศจะปล่อยไอออนออกไปในอากาศแบบสุ่ม ทำให้ไอออนจับสิ่งไม่พึงประสงค์ได้ช้าและไอออนสามารถช่วยกำจัดอนุภาคไม่พึงประสงค์ได้เฉพาะผิวอนุภาคชั้นนอก
“จากเดิมคนจะมีความกังวลเรื่องอากาศสะอาดจาก PM2.5 แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันจากเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ กลายเป็นว่าการออกไปนอกบ้านต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ไม่ได้รับความสะดวกสบายในการหายใจ ซึ่งเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ที่มีอยู่ในไดกิ้น เซ-ต้าส จะช่วยให้ผู้บริโภคเย็นกาย แต่อบอุ่นหัวใจจากการหายใจในบ้านได้”
นายสราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา กลยุทธ์การโฆษณาของไดกิ้น เน้นสื่อสารถึงจุดขายในเครื่องปรับอากาศ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งเรื่องสารทำความเย็น R32 ที่มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือเรื่องแผงวงจรทนทานต่อไฟตก ไฟกระชาก ตลอดจนการออกแบบคอยล์ร้อนที่ลดโอกาสที่จิ้งจกจะเข้าไปตายในแผงวงจร
“เราก็ทำการบ้านอย่างหนักว่า pain point คืออะไร และพัฒนาสินค้ามาเพื่อตอบโจทย์เหล่านั้น จะสังเกตได้ว่าจุดที่เรานำมาสื่อสารเป็นจุดขาย มักพูดก่อนแบรนด์อื่นๆ เสมอ”
เช่นเดียวกับครั้งนี้ ซึ่งไดกิ้น มั่นใจว่าการชูจุดขายในเรื่อง “ความสะอาด” ของอากาศ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวและความสำคัญของอากาศผ่าน KOL ที่มาถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณา จะช่วยตอกย้ำให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของ “คุณภาพอากาศ” รอบตัวภายในบ้าน
มร.อาคิฮิสะ โยโคยามา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีสตรีมเมอร์ (Streamer) ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของไดกิ้น ที่ได้รับการยืนยันประสิทธิภาพว่า สามารถยับยั้งไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครื่องปรับอากาศที่ใช้ภายในบ้านในประเทศไทย ทั้งช่วยตอกย้ำว่า ไดกิ้นไม่เพียงคำนึงถึงการทำความเย็น แต่ยังมุ่งมั่นในการมอบอากาศที่ดี และสมบูรณ์แบบ (Perfecting the Air) แก่ผู้ใช้งานมากขึ้น ที่สำคัญยังเป็นการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ ในการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพที่สามารถพิสูจน์ได้ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพให้แก่ผู้บริโภค