(ซ้ายไปขวา) คุณวันชัย ลี้นะวัฒนา คุณสีหนาท ล่ำซ่ำ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ และคุณสรณัญช์ ชูฉัตร
เรียกว่าเป็นการขยับครั้งใหญ่อีกครั้งสำหรับแอป Food Delivery สัญชาติไทยอย่าง “โรบินฮู้ด” (Robinhood) โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวแอปพลิเคชันสำหรับไรเดอร์ของตัวเองแล้ว แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดที่โรบินฮู้ดจะทำ เพราะภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ พวกเขายังมีกิมมิคมากมายซ่อนเอาไว้ด้วย
แอปไรเดอร์ที่สร้างจาก Pain Point คนขับ
ทั้งนี้ การเปิดตัวแอปพลิเคชันดังกล่าวถือว่าทำให้โรบินฮู้ดมีครบ 3 แกนในธุรกิจ Food Delivery นั่นคือมีทั้งแอปสำหรับร้านค้า แอปสำหรับไรเดอร์ และแอปสำหรับลูกค้าในการสั่งอาหาร โดยคุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการโรบินฮู้ด กล่าวว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวสร้างขึ้นจาก Pain Point ที่ไรเดอร์เคยประสบมา เช่น การไม่มีประกันคุ้มครอง เงินที่ไม่โอนเข้าบัญชีในวันเดียวกัน การกดรับงานที่ใครกดเร็วกว่าก็ได้รับงานไปก่อน ฯลฯ ขณะที่ความพิเศษของแอปพลิเคชัน Robinhood Rider App ที่เปิดตัวใหม่นี้คือ
- ไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์ในการขับ
- เพิ่มค่าส่งของใหม่อีก 7.5% ในช่วง 2 กิโลเมตรแรก เริ่มต้น 43 บาท
- ในอนาคต จะมีฟีเจอร์ “ทิป” จากลูกค้า
- เงินจากการวิ่งงานส่งอาหารจะถูกโอนเข้าบัญชีภายในวันเดียวกัน
- มีประกันคุ้มครอง 24 ชั่วโมง
- ระบบของแอปพลิเคชันทำให้การจ่ายงานทำได้อย่างทั่วถึง ไม่ใช่ระบบที่ใครกดรับเร็วกว่าได้งานก่อนเสมออีกต่อไป
- เตรียมขยายบริการสู่ธุรกิจรับ-ส่งของ (Express Services) และบริการด้านสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต (Mart Service) เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับไรเดอร์ในช่วงที่ไม่มีออเดอร์จาก Food Delivery
2. เช่ามอเตอร์ไซค์ EV 120 บาทต่อวัน
นอกจากพัฒนาในส่วนของแอปพลิเคชันแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญของไรเดอร์ ซึ่งทางโรบินฮู้ดจึงได้จับมือกับค่าย ETRAN (อีทราน) และ H Sem (เอช เซม) นำมอเตอรไซค์ไฟฟ้ามาให้ไรเดอร์เช่า โดยในระยะแรกมีทั้งสิ้น 200 คัน ในราคาคันละ 120 บาทต่อวัน
คุณสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงบริการในส่วนนี้ว่า ต้องการสร้างงานให้กับผู้ที่กำลังเผชิญความยากลำบาก โดยใช้เอกสารแค่ใบขับขี่ก็สามารถเช่ารถไปใช้ได้
3. เปลี่ยนแบตได้ 24 ชั่วโมง
สำหรับจุดให้บริการแบตเตอรี่นั้น ในระยะแรกจะมีประมาณ 18 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยไรเดอร์สามารถเข้าไปเปลี่ยนแบตได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนเป้าหมายในระยะยาวนั้น คุณสีหนาทเผยว่า ภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากพันธมิตรพร้อมให้บริการมากกว่า 1,500 คัน และมีจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่กว่า 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ โดยในเฟส 2 จะมีการให้บริการตู้เปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ RFID ที่ให้ไรเดอร์สแกนก่อนเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อสะสมพอยต์ด้วย
การเปลี่ยนแบตเตอรี่ของค่าย H Sem
การเปลี่ยนแบตเตอรี่ของค่าย ETRAN
4. แบตเตอรี่ที่ผู้หญิงสามารถเปลี่ยนเอง
สำหรับจุดเด่นของแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นนั้น ได้มีการยกตัวอย่างแบตเตอรี่ ที่คุณวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด ระบุว่าเป็นแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด เพียง 8 กิโลกรัม แม้คนขับจะเป็นผู้หญิงก็สามารถเปลี่ยนแบตได้ด้วยตัวเอง (ใช้สองก้อน) โดยใช้เวลาเปลี่ยนประมาณ 3 – 5 นาทีก็เสร็จสิ้น
5. ความเร็วรถ EV ที่แซงรถเมลได้
หรือในส่วนของประสิทธิภาพตัวรถ รถ EV จากค่าย H Sem สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ส่วนรถ EV จากค่าย ETRAN นั้น คุณสรณัญช์ ชูฉัตร ผู้ก่อตั้ง และ CEO บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) กล่าวว่า สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
สำหรับสาเหตุที่ต้องพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ EV ให้วิ่งได้ด้วยความเร็วระดับดังกล่าว คุณธนา เธียรอัจฉริยะเผยว่า ส่วนหนึ่งเพราะรถที่ขับบนท้องถนนมีหลากหลาย รวมถึงรถคันใหญ่อย่างรถเมล ซึ่งถ้าหากรถมอเตอร์ไซค์ EV ไม่สามารถเร่งความเร็วให้สามารถแซงรถเมลได้ ก็อาจเป็นอันตรายต่อคนขับรถ EV เอง
6. ขับครบ 900 วันขาย (รถ) ต่อ 1,000 บาท
นอกจากนั้น ทางโรบินฮู้ดเผยด้วยว่า หากไรเดอร์เช่าขับครบ 900 วัน สามารถขอซื้อต่อมอเตอร์ไซค์ EV ดังกล่าวได้ในราคา 1,000 บาทด้วย ขณะที่เงื่อนไขด้านการให้บริการแบตเตอรี่หลังมอเตอร์ไซค์ถูกซื้อต่อไปแล้วนั้น อาจแตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละผู้ผลิต
7. เสื้อคลุมใหม่ ทำไมต้องเหลือง-ส้ม-ม่วง
หากมองไปตามท้องถนน ปฏิเสธไม่ได้ว่า เสื้อของไรเดอร์ผู้ให้บริการ Food Delivery ส่วนใหญ่มักใช้สีเขียว ดีไซน์ใหม่ของ Robinhood จึงถือว่าสะดุดตาไม่น้อย ซึ่งที่มาของเสื้อคลุมตัวใหม่นั้น คุณสุธีรพันธุ์ สักรวัตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์ อธิบายถึงการเลือกใช้สีเหลือง-ส้ม-ม่วงที่แตกต่างจากผู้เล่นรายอื่นว่า สีม่วงมาจากสีของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ทางแพลตฟอร์มเป็นบริการในเครือ
ขณะที่สีเหลือง-ส้มนั้น ได้มีการอ้างอิงข้อมูลจาก mvsolutions.com.au ระบุว่า สีขาวเป็นสีที่ปลอดภัยที่สุดของบนท้องถนนก็จริง แต่สีที่ใช้แล้วทำให้ปลอดภัยรองลงมาก็คือสีเหลือง – ส้ม เนื่องจากมองเห็นง่าย แม้ในเวลากลางคืน อีกทั้งยังเป็นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีกำลังใจ มั่นใจ อีกด้วย
8. ดีไซน์เสื้อที่แตกต่าง
คุณสุธีรพันธุ์ยังเล่าถึงที่มาของการเลือกเนื้อผ้า และดีไซน์เสื้อเพิ่มเติมด้วยว่า ทีมออกแบบมีการทดลองให้ไรเดอร์ใส่ขับจริงบนท้องถนนกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหน้าร้อนของประเทศไทย เพื่อเลือกเนื้อผ้าที่เหมาะสม โดยในที่สุดก็มาจบที่ผ้าโซล่อน ที่ทางไรเดอร์ให้ความเห็นว่าใส่สบายที่สุด และสามารถระบายความร้อนได้ดี
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือกระเป๋าด้านหน้า ที่เลือกทำกระเป๋าแบบข้าง พร้อมติดซิป โดยมองว่าทำให้ไรเดอร์หยิบโทรศัพท์มือถือสะดวกกว่าด้วย
9. ตั้งเป้าร้านค้า 100,000 รายภายในสิ้นมิถุนายน
ปัจจุบัน แอปพลิเคชันโรบินฮู้ดมีผู้ดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 1.1 ล้านคน และมีร้านค้าในระบบแล้วกว่า 97,000 แห่ง โดยทางแพลตฟอร์มตั้งเป้าว่า ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้จะมีร้านค้าบนแพลตฟอร์มทะลุ 100,000 แห่ง ส่วนไรเดอร์นั้นอยู่ที่ 15,000 คน
10. จองโรงแรมมาแน่ ไตรมาส 4 ปีนี้
สำหรับบริการจองโรงแรม หรือ Online Travel Agency ที่ก่อนหน้านี้ทางทีมโรบินฮู้ดเคยเปิดเผยว่ามีแผนจะทำเพื่อช่วยธุรกิจท่องเที่ยวของไทยนั้น ล่าสุดในงานแถลงข่าวได้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า สามารถใช้บริการได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้อย่างแน่นอน โดยจะมีการปรับโฉมอินเทอร์เฟสของแอปพลิเคชันโรบินฮู้ดใหม่ด้วย
ท้ั้งนี้ แอปโรบินฮู้ดโฉมใหม่ที่จะเปิดตัวปลายปีนี้ จะประกอบด้วย 4 บริการ ได้แก่ กิน (Food Delivery) เที่ยว (จองโรงแรมหรือ OTA) ซื้อ (บริการซื้อของตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตลาด) และส่ง (บริการส่งพัสดุ)
ส่วนหน้าตาของแอปโฉมใหม่จะเป็นอย่างไรนั้น คุณธนา และคุณสีหนาทบอกว่า สิ้นปีนี้น่าจะได้ทราบกัน